

สวัสดีค่ะน้องๆ .... พี่มิ้นท์รู้นะคะว่าเวลาน้องๆ ทำอาหารตกในบ้าน ก็จะหยิบอาหารชิ้นนั้นขึ้นมากินต่อโดยไม่สนใจอะไร ในเมื่อมันตกในบ้านเรา ก็ถือว่าค่อนข้างมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าสะอาดแน่นอน แต่ถ้าของโปรดของเราตกพื้นห้องเรียน หรือกินข้าวร้านอาหารแล้วตกลงโต๊ะ ก็หันซ้ายหันขวา ถ้าไม่มีใครเห็นก็หยิบขึ้นมากินต่อ (เอ๊ะ มีคนทำจริงๆ รึป่าวเนี่ย)

น้องๆ คงเคยได้ยินคำพูดจากเพื่อนๆ หรือคนรอบตัว เวลาที่เราทำของกินตกว่า "หยิบขึ้นมาเลย เชื้อโรคยังไม่เห็นหรอก" "หยิบขึ้นมาเลย เชื้อโรคยังไม่ตื่นหรอก" "หยิบขึ้นมาเลย ของหล่นทับมันตายหมดแล้ว" หรือแม้กระทั่งกฎ 5 วินาทีของฝรั่งที่บอกว่า ถ้าอาหารหล่นไม่ถึง 5 วินาทีนั้นสามารถเก็บขึ้นมากินต่อได้ ด้วยเหตุผลว่า เชื้อโรคยังเดินทางมาไม่ถึง เอ้ย! เชื้อโรคยังไม่แพร่เข้าสู่อาหาร หลายคนก็เลยสบายใจที่จะหยิบของเหล่านั้นขึ้นมากินต่อ แต่ถ้าตกข้างนอก เช่น หน้าบ้าน ถนน ทางเดินต่างๆ คิดว่าน่าจะมีวิจารณญาณพอที่จะไม่หยิบขึ้นมากินนะคะ ><
แต่น้องๆ รู้มั้ยว่าความเชื่อทั้งหมดนี้ผิดอย่างแรง!! เพราะ แค่ 5 วินาทีนี้ ก็ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่อาหารได้แล้ว แถมยังเพียงพอที่จะทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วยได้ เนื่องจากมีเชื้อโรคบางชนิดที่จะเจริญเติบโตบนอาหารได้ โดยเฉพาะแบคทีเรีย ซาลโมเนลลา (Salmonela) ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษที่รุนแรง ทำให้ท้องร่วง มีไข้ จนถึงขั้นถึงแก่ชีวิต อาการหนักเบาจะขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของเราค่ะ และเจ้าเชื้อแบคทีเรียนี้มันยังอึดพอที่จะอยู่บนพื้นที่สกปรกเป็นเวลาหลายอาทิตย์อีกด้วย (บ้านใครสกปรก ถูบ้านด่วนค่ะ)

เพื่อเป็นการยืนยัน นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเคลมสัน, เซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดลอง โดยใช้เชื้อซาลโมเนลลาเป็นตัวทดสอบ ด้วยการใส่เชื้อลงบนพื้นผิวประเภทต่างๆ เช่น พื้นไม้, พื้นกระเบื้อง และพรม จากนั้นวางขนมปังและไส้กรอกลงไปบนเชื้อนั้น ในระยะเวลาแตกต่างกัน คือ 5 วินาที 30 วินาที และ 60 วินาที ผลปรากฏว่าแค่ 5 วินาที ก็มีเชื้อโรคปนเปื้อนในขนมปังและไส้กรอกในปริมาณที่มากพอที่จะทำให้ป่วยได้

อย่างไรก็ตาม การที่เชื้อโรคจะมากหรือน้อย ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่อาหารอยู่บนพื้นเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับชนิดอาหารและพื้นผิวที่เราทำตกพื้นด้วย หากเป็นพื้นที่แห้งๆ หรือของแห้งๆ เชื้อโรคก็จะเกาะตัวได้ยาก แต่หากเป็นอาหารที่แฉะๆ เหนียวๆ เช่น ขนม หรือ แยม ก็จะทำให้เชื้อโรคเกาะติดได้ง่าย ส่วนสถานที่นั้นก็แน่นอนว่า ภายในบ้านย่อมสะอาดกว่าข้างนอกอยู่แล้ว เพราะมีการทำความสะอาดอยู่เรื่อยๆ
แหม..สรุปแล้ว ความเชื่อที่ว่าเชื้อโรคยังไม่ทำงาน ท่าจะเชื่อไม่ได้ซะแล้ว แถมยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากๆ อีกด้วย นอกจากนี้การหยิบขึ้นมาปัดทำความสะอาด ก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น แถมยังเป็นการเร่งการเติบโตของเชื้อโรคอีก
ดังนั้นฝากเตือนน้องๆ อย่าเสียดายนะคะ ต่อให้ชอบแค่ไหน แพงแค่ไหน หรือตกพื้นที่คิดว่าสะอาดอยู่แล้วก็ตาม ตัดใจทิ้งมันลงถังขยะซะ ไม่อย่างนั้นเตรียมวิ่งหาห้องน้ำได้เลย (เป็นอะไรไป ไม่คุ้มนะ)
อ้างอิงข้อมูลจาก
วารสาร อพวช.(องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ)
รูปภาพประกอบ
http://manofthehouse.com/home/cleaning/the-five-second-rule
www.complicatedmama.com
เครดิต ::: DEK-D

น้องๆ คงเคยได้ยินคำพูดจากเพื่อนๆ หรือคนรอบตัว เวลาที่เราทำของกินตกว่า "หยิบขึ้นมาเลย เชื้อโรคยังไม่เห็นหรอก" "หยิบขึ้นมาเลย เชื้อโรคยังไม่ตื่นหรอก" "หยิบขึ้นมาเลย ของหล่นทับมันตายหมดแล้ว" หรือแม้กระทั่งกฎ 5 วินาทีของฝรั่งที่บอกว่า ถ้าอาหารหล่นไม่ถึง 5 วินาทีนั้นสามารถเก็บขึ้นมากินต่อได้ ด้วยเหตุผลว่า เชื้อโรคยังเดินทางมาไม่ถึง เอ้ย! เชื้อโรคยังไม่แพร่เข้าสู่อาหาร หลายคนก็เลยสบายใจที่จะหยิบของเหล่านั้นขึ้นมากินต่อ แต่ถ้าตกข้างนอก เช่น หน้าบ้าน ถนน ทางเดินต่างๆ คิดว่าน่าจะมีวิจารณญาณพอที่จะไม่หยิบขึ้นมากินนะคะ ><
แต่น้องๆ รู้มั้ยว่าความเชื่อทั้งหมดนี้ผิดอย่างแรง!! เพราะ แค่ 5 วินาทีนี้ ก็ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่อาหารได้แล้ว แถมยังเพียงพอที่จะทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วยได้ เนื่องจากมีเชื้อโรคบางชนิดที่จะเจริญเติบโตบนอาหารได้ โดยเฉพาะแบคทีเรีย ซาลโมเนลลา (Salmonela) ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษที่รุนแรง ทำให้ท้องร่วง มีไข้ จนถึงขั้นถึงแก่ชีวิต อาการหนักเบาจะขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของเราค่ะ และเจ้าเชื้อแบคทีเรียนี้มันยังอึดพอที่จะอยู่บนพื้นที่สกปรกเป็นเวลาหลายอาทิตย์อีกด้วย (บ้านใครสกปรก ถูบ้านด่วนค่ะ)

เพื่อเป็นการยืนยัน นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเคลมสัน, เซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดลอง โดยใช้เชื้อซาลโมเนลลาเป็นตัวทดสอบ ด้วยการใส่เชื้อลงบนพื้นผิวประเภทต่างๆ เช่น พื้นไม้, พื้นกระเบื้อง และพรม จากนั้นวางขนมปังและไส้กรอกลงไปบนเชื้อนั้น ในระยะเวลาแตกต่างกัน คือ 5 วินาที 30 วินาที และ 60 วินาที ผลปรากฏว่าแค่ 5 วินาที ก็มีเชื้อโรคปนเปื้อนในขนมปังและไส้กรอกในปริมาณที่มากพอที่จะทำให้ป่วยได้

อย่างไรก็ตาม การที่เชื้อโรคจะมากหรือน้อย ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่อาหารอยู่บนพื้นเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับชนิดอาหารและพื้นผิวที่เราทำตกพื้นด้วย หากเป็นพื้นที่แห้งๆ หรือของแห้งๆ เชื้อโรคก็จะเกาะตัวได้ยาก แต่หากเป็นอาหารที่แฉะๆ เหนียวๆ เช่น ขนม หรือ แยม ก็จะทำให้เชื้อโรคเกาะติดได้ง่าย ส่วนสถานที่นั้นก็แน่นอนว่า ภายในบ้านย่อมสะอาดกว่าข้างนอกอยู่แล้ว เพราะมีการทำความสะอาดอยู่เรื่อยๆ
แหม..สรุปแล้ว ความเชื่อที่ว่าเชื้อโรคยังไม่ทำงาน ท่าจะเชื่อไม่ได้ซะแล้ว แถมยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากๆ อีกด้วย นอกจากนี้การหยิบขึ้นมาปัดทำความสะอาด ก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น แถมยังเป็นการเร่งการเติบโตของเชื้อโรคอีก
ดังนั้นฝากเตือนน้องๆ อย่าเสียดายนะคะ ต่อให้ชอบแค่ไหน แพงแค่ไหน หรือตกพื้นที่คิดว่าสะอาดอยู่แล้วก็ตาม ตัดใจทิ้งมันลงถังขยะซะ ไม่อย่างนั้นเตรียมวิ่งหาห้องน้ำได้เลย (เป็นอะไรไป ไม่คุ้มนะ)
อ้างอิงข้อมูลจาก
วารสาร อพวช.(องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ)
รูปภาพประกอบ
http://manofthehouse.com/home/cleaning/the-five-second-rule
www.complicatedmama.com
เครดิต ::: DEK-D