โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
เมนูชมรม

ชมรมคนรักแมว

ชื่อชมรมชมรมคนรักแมว
ผู้ก่อตั้งroppeep
ก่อตั้งเมื่อ16 สิงหาคม 2012
ระดับชมรม0
รายละเอียดพูดคุยเรื่องแมวแมว
จำนวนสมาชิก8
จำนวนสมาชิก

8

เข้าได้ทุกคน
ตั้งกระทู้ใหม่
A
A
A
A

roppeep
#1
15-08-2012 - 23:16:11

#1 roppeep  [ 15-08-2012 - 23:16:11 ]











สวัสดีคร้าบ ชมรมคนรักแมวยินดีตอนรับ ทุกท่านที่ เข้ามาเยี่ยมเยือนนะครับ แอดมินชมรม ชื่อ Zun นะครับ


แมวซุล เป็นแมวบ้านลูกผสม ชื่อ ซึงยี





ซึงยี เป็นแมวที่ ผมเก็บมาจาก ข้างถังขยะสภาพผอมโซ่มาก ผมซุลเลยเก็บมาเลี้ยงจนมีสภาพดีขึ้นและอ้วน
จนสุดท้ายถลายเป็นแมวที่ ซุลรักมากตัวหนึ่ง
นิสัยของซึงยี เป็นแมวที่ ติดเจ้าของมาก กินเยอะมากกกกก จนซุลแอบจนเลยที่เดียว

แต่ใจจิงของ ซุล อยากเลี้ยง แมว เมนคูนมากเพราะมันตัวใหญ่ แล้ววว เพื่อนๆๆ ล่ะ มีแมวในฝันกันบ้างเปล่า

ชมรมนี้ อนุญาตโพสภาพแมวและพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ได้ นะครับ

มีอะไรติดต่อ ซุลได้ นะครับ

Facebook : http://www.facebook.com/Prantakan.Lee






ประวัติความเป็นมาของแมว



"แมว" หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Felis Catus" มีกำเนิดขึ้นบนโลกมากกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว นัีกชีววิทยาค้นพบว่าบรรพบุรุษของแมวถือกำเนิดขึ้นกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและกินเนื้อเป็นอาหาร เรียกว่า Miacis และได้วิวัฒนาการจนเริ่มมีลักษณะคล้ายแมวเมื่อ 10 ล้านปีก่อน ขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับแมวป่าที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่เรียกว่า Dinistis
ในความจริงแล้วนั้นแมวบ้านมีต้นตระกูลที่แยกออกมาจากเสือไซบีเรียน และแมวพื้นเมืองต่าง ๆ ปัจจุบันสายพันธุ์แมว (รวมทั้งสิงโตและเสือต่าง ๆ ) มีทั้งหมดถึง 36 ตระกูล 51 ชนิด


ชาวอียิปต์โบราณ นับถือแมวเป็นสัตว์เทพเจ้าถึงกับว่าหากแมวตายในบ้านต้องนำไปทำมัมมี่เลยทีเดียว ขนาดคนที่จะนำไปทำมัมมี่ยังต้องเป็นเฉพาะราชวงศ์ หรือขุนนางเท่านั้น ซึ่งมัมมี่ที่ว่านี้ สามารถตามไปดูกันได้ที่พิพิธภัณฑ์ในประเทศอังกฤษ เหตุที่ชาวอียิปต์โบราณนับถือแมวเป็นสัตว์เทพเจ้านั้น เพราะเมื่อประมาณ 4,000 กว่าปีก่อน กลุ่มชาวนาได้นำแมวป่ามาฝึกใช้ในการจับหนูในโรงนา ที่เข้ามาทำความเสียหายกับผลผลิตและพืชพันธุ์ของชาวนา เมื่อหนูในโรงนาหมดไป ประชาชนก็มีอาหารอุดมสมบูรณ์ขึ้น แถมยังปราศจากโรคภัยที่เกิดจากหนูอีกด้วย แมวจึงได้ถือว่าเป็นสัตว์เทพเจ้าในยุคอียิปต์โบราณนั่นเอง ซึ่งเทพเจ้า Bastes หรือเทวีบัสเตต ที่ชาวอียิปต์นับถือนั้น มีตัวเป็นคนแต่มีหัวใจเป็นแมวเป็นตัวแทนแห่งความรัก ความอุดมสมบูรณ์ ฉะนั้นหากใครฆ่าแมวจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก ยกตัวอย่างเช่นในสมัยก่อนพวกที่ต้องการยึดครองอาณาจักรอีิยิปต์โบราณจึงใช้วิธีอุ้มแมวไปรบด้วยซึ่งชาวอียิปต์นั้นก็ไม่กล้าที่จะต่อสู้แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า อาณาจักรอียิปต์ล่มสลายเพราะแมว ถึงอียิปต์โบราณจะล่มสลายแต่ความนับถือแมวเป็นดั่งเทพเจ้าก็ยังเหมือนเดิม

เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า แมวขยายพันธุ์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปทั่วโลกได้อย่างไร ก็เพราะชาวอียิปต์ไม่เพียงแต่ใช้หนูจับแมวในโรงนาเท่านั้น ยังใช้จับหนูบนเรือสินค้าอีกด้วย จึงมีความเชื่อว่าเมื่อเรือเทียบท่า แมวก็ได้ลงเรือแต่ไม่ได้กลับขึ้นมาบนฝั่ง เลยเป็นเหตุให้มีแมวไปทุกแห่งหนทั่วโลก


แต่สำหรับยุคกลางในยุโรป นั้นมีความเชื่อเรื่องแมวที่แตกต่างกับยุคอียิปต์โบราณโดยสิ้นเชิง โดยมีความเชื่อว่าแมวเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายต่าง ๆ เป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มดโดยเฉพาะแมวดำ และหากชาวยุโรปคนใดในยุคนั้นเลี้ยงแมวจะถูกประณามว่าเป็นแม่มดที่ชั่วร้าย ถ้ายิ่งเป็นคนแก่เลี้ยงแมวด้วยนี่สิยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เรียกว่าเป็นต้องโดนจับเผาทั้งเป็นไม่ว่าคนหรือแมวก็ตาม และช่วงนี้เองที่ทำให้กาฬโรคเกิดการระบาดหนักในยุโรปเพราะปริมาณของหนูขณะนั้นนับวันยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้น แต่แมวกลับยิ่งลดจำนวนน้อยลงนั่นเอง


ถัดมาดูทางแถบเอเซีย อย่างในประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีนกันบ้าง ได้เริ่มนิยมเลี้ยงแมวกันมากขึ้นกว่าเดิมที่เคยเลี้ยงกันอยู่แล้ว เพราะที่ประเทศญี่ปุ่นใช้แมวเป็นสัญลักษณ์ในการนำโชค อย่างที่เคยเห็นกันอยู่ตามร้านค้าทั่วๆ ไปนั่นก็คือ " แมวกวัก " จะใช้กวักเรียกลูกค้าให้เข้ามาอุดหนุนสินค้า หรือจะความเชื่อว่าแมวเป็นตัวแทนแห่งโชคลาภเช่นกัน การที่แมวเข้ามาอยู่ในบ้านถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะทำให้เจ้าของบ้านมีโชคลาภมาเสมอ

ประเทศไทย เราก็มีการเลี้ยงแมวมานานแล้วเหมือนกันตั้งแต่สมัยสุโขทัยโน่น แมวไทยคู่แรกได้ออกสู่สายตาชาวโลกเมื่อปี พ.ศ. 2427 เป็นแมววิเชียรมาศแต้มสีครั่ง โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ทรงพระราชทานให้กับกงศุลอังกฤษประจำกรุงเทพมหานคร ขณะนั้นคือ Mr.Owen Gould และได้นำไปให้แก่น้องสาวที่อังกฤษอีกทอดหนึ่ง แต่หลังจากนั้น เมื่อปีพ.ศ.2428 แมวไทยคู่นี้แหละได้เข้าประกวดที่ประเทศอังกฤษ ในงาน The Crystal Palace และได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดอีกด้วยจากการประกวดครั้งนี้เองที่เป็นจุดเิริ่มต้นให้ชาวอังกฤษ นิยมหันมาเลี้ยงแมวไทยกันมากขึ้น จนได้จัดตั้ง The Siamese Cat Clubs ในปี พ.ศ 2443 และ The Siamese Cat Society of the Brithish Empire ในปี พ.ศ. 2471 จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้แมวไทยคู่นี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงเห็นว่าแมวไทยสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักแก่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก จึงได้พระราชทานแมวไทยให้กับหลาย ๆ ประเทศ จนแมวไทยและประเทศไทยกลายเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงไปทั่วโลกนั่นเอง






ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.ntsfarm.com




แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2017-11-25 17:54:51


กริ้ววว
roppeep
#2
16-08-2012 - 10:46:43

#2 roppeep  [ 16-08-2012 - 10:46:43 ]






14 วิธีดูแลแมวเปอร์เซียที่คุณรัก



แมวเปอร์เซียนั้นได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมไปทั่วโลก ด้วยความที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องรูปร่าง หน้าตา ที่ชวนให้ใคร ๆ หลงรักได้ง่าย ๆ รวมถึงขนนุ่มสลวยของมัน และที่สำคัญนิสัยร่าเริง และขี้ประจบ ทำให้มัดใจเจ้านายได้อยู่หมัด แต่ในการด้านเลี้ยงดูแล้ว แมวพันธุ์นี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรเรียนรู้ที่จะดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อให้เจ้าเหมียวอยู่กับเราได้นาน ๆ อย่างมีความสุข... ว่าแล้วก็ไปดูวิธีดูแลแมวเปอร์เซียกันเลย

1. มองหาแมวจากร้านที่เชื่อถือได้เท่านั้น
หากคุณต้องการแมวเปอรเซียพันธุ์แท้ที่ไม่ได้มีโรคติดตัว ก็ควรเลือกมองหาในร้านที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น ร้านที่มีชื่อเสียง หรือร้านที่คนรู้จักของคุณแนะนำให้ นอกจากนี้ ระหว่างที่กำลังหาซื้อลูกแมว ก็ควรถามเรื่องความรู้เกี่ยวกับแมวกับเขาด้วย หากเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ และไว้ใจได้จริง ๆ เขาก็จะสามารถแนะนำแมวเปอร์เซียลักษณะดี และวิธีการดูแลที่ถูกต้องให้คุณได้แน่นอน

2. หมั่นแปรงขนเป็นประจำ
จุดเด่นของแมวเปอร์เซียนั้นอยู่ที่ขนนุ่มยาวของมัน ที่ทำให้แมวเปอร์เซียดูสง่าหรูหรามากกว่าพันธุ์ไหน ๆ จนเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย เราจึงควรดูแลขนของมันให้ดูนุ่มสลวยอยู่เสมอ ด้วยการใช้หวีแปรงขนให้แมวของคุณ อย่างน้อยวันละ 15 นาที นอกจากนี้ ควรเน้นในจุดที่น้องแมวของคุณไม่สามารถเอื้อมไปเลียขนไม่ถึง เป็นพิเศษด้วย เช่น ที่คอ ขา และหาง

3. อาบน้ำบ่อย ๆ
การที่แมวของเรามีเนื้อตัวสกปรก นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพของมันแล้ว ยังกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคในบ้านอีกด้วย เราจึงควรรักษาความสะอาดของมันอยู่เสมอ ด้วยการอาบน้ำให้แมวอย่างน้อยเดือนละครั้ง ทั้งนี้ หากแมวของคุณออกไปนอกบ้าน หรือมีเหตุให้ต้องคลุกคลีกับสิ่งสกปรกอยู่บ่อย ๆ ก็ควรอาบนำให้บ่อยขึ้น ประมาณอาทิตย์ละครั้ง

3.อย่าปล่อยให้แมวอ้วนจนเกินไป
แม้ว่าแมวอ้วนกลมจะดูน่ารักน่าเอ็นดูก็เถอะ แต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้อ้วนจนเกินไป เพราะมันจะไม่ดีกับสุขภาพร่างกายของเจ้าเหมียวแน่ ๆ แต่ถ้าหากเผลอตามใจจน "เสียแมว" ไปแล้วล่ะก็ ยังไม่สายที่คุณจะจับเขามาเข้าคอร์สไดเอทด้วยการเลือกอาหารลดน้ำหนักสำหรับแมวโดยเฉพาะ หรือปรับลดเนื้อสัตว์ เพิ่มผักทีละน้อย และเพิ่มขึ้นในทุก ๆ มื้อจนกว่าเจ้าเหมียวจะคุ้นชิน ซึ่งแรก ๆ สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณอาจจะไม่ปลื้ม และกินอาหารได้น้อยลง แต่นั่นล่ะ คือผลลัพธ์สู่หุ่นสวยสุขภาพดี ดังนั้น จงอย่าใจอ่อนเลยเชียวล่ะ อย่างไรก็ตาม แมวแต่ละตัวอาจมีสภาพร่างกายที่ต่างกัน เพราะฉะนั้น ควรปรึกษาสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิดด้วย

4. ดูแลรอบดวงตาของมันด้วย
เพราะรูปหน้าที่เชิดรั้นเข้าคู่กับแก้มป่อง ๆ ของแมวเปอร์เซีย ทำให้มันต้องประสบปัญหาจากคราบน้ำตา และขี้ตาที่เกาะติดรอบตาจนยากจะเอาออกอยู่เสมอ การดูแลรอบตาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และละเลยเสียไม่ได้ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลรอบตาแมวโดยเฉพาะมาเช็ดตามรอบตาของมัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกหาซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้ ก็สามารถนำกระดาษทิชชู่ชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตามรอบตาของเจ้าเหมียวของคุณได้เช่นกัน

5. ไม่ควรปล่อยแมวออกไปข้างนอกบ่อยนัก
แม้แมวส่วนใหญ่จะชอบออกไปผญภัยนอกบ้าน แต่แมวเปอร์เซียนั้นกลับต่างออกไป เพราะขนยาว ๆ ของมันจะทำให้มันรู้สึกอบอ้าวขึ้นมาอีก ถ้าต้องเจอกับสภาพอากาศร้อน ๆ ภายนอก และมันก็ไม่ใช่แมวที่ขยันสำรวจหาสิ่งใหม่ ๆ นัก ยิ่งไปกว่านั้น ขนของมันยังไปเกี่ยวพันกับสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่าแมวทั่ว ๆ ไปอีกด้วย มันจึงเหมาะกับการเลี้ยงในบ้านมากกว่า

6. รับมือกับโรคถุงน้ำที่ไต
แมวเปอร์เซียประมาณ 36 - 49 % มักจะเป็นโรคถุงน้ำที่ไตซึ่งทำให้มันสูญเสียความสามารถในการกรองสารพิษออกจากร่างกาย โดยจะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่ช่วงอายุ 3 - 10 ปี ซึ่งมันจะมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด อาเจียน เซื่องซึม และกระหายน้ำมากจนผิดสังเกต อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีวิธีรักษาโรคดังกล่าวนี้ให้หายขาด เพราะฉะนั้น หากแมวของคุณมีอาการดังกล่าว ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อปรึกษาหาวิธีดูแล และจัดเรื่องอาหารให้มันอย่างถูกวิธี

7. อย่าปล่อยให้แมวของคุณขี้เกียจจนเกินไป
แมวเปอร์เซีย มักมีอุปนิสัยขี้เกียจกว่าแมวทั่วไป และพร้อมจะนอนอยู่เฉย ๆ ได้ทั้งวันโดยไม่รู้จักเบื่อ เราจึงควรหากิจกรรมใหม่ ๆ มาเรียกร้องความสนใจอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้มันใช้ชีวิตเอื่อยเฉื่อยจนตัวอ้วนกลมเกินไป อาจจะหาซื้อของเล่นใหม่ ๆ เช่น ลูกบอล หรือไม้แหย่แมว มาคอยดึงความสนใจของมันก็ได้

8. ให้อาหารแต่พอเหมาะ
ควรให้อาหารในจำนวนที่พอดีเพื่อไม่ให้แมวของคุณทานมากจนเกินไป นอกจากนี้ หากแมวของคุณมีอาการผิดปกติหลังกินอาหาร เช่น ท้องเสีย หรืออาเจียน ก็ควรพาไปพบสัตวแพทย์ เพราะมันอาจมีอาการไม่ถูกกับอาหารบางชนิดก็ได้ ฉะนั้นควรปรึกษาสัตวแพทย์ดูให้ดีว่าแมวของคุณเหมาะกับอาหารแบบไหน

9. รับมือกับปัญหาขนร่วง
แน่นอนว่าแมวเปอร์เซียที่มีขนยาวเป็นพิเศษนั้น มักมีขนร่วงจำนวนมาก จนยากที่จะคอยดูแลเก็บทิ้งตลอดเวลา บรรดาเจ้าของแมวทั้งหลายจึงเลือกที่จะพยายามทำให้แมวของตนมีขนร่วงลดลงให้มากที่สุด ด้วยการให้ทานอาหารสำเร็จรูปสูตรที่ทำให้ขนหลุดร่วงลดลงแทน อย่างไรก็ตาม นอกจากวิธีดังกล่าวแล้ว คุณสามารถเลือกใช้วิธีอื่นได้อีกเช่นกัน ด้วยการให้แมวของคุณทานต้นกล้าอ่อนข้าวสาลีเป็นประจำ ทั้งนี้ ต้องมั่นใจได้ว่า ต้นกล้าอ่อนข้าวสาลีที่คุณนำมาให้แมวของคุณทานนั้นปลอดสารพิษ เพื่อให้ไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพของแมว

10. สังเกตปัญหาเรื่องการหายใจ
เนื่องจากแมวเปอร์เซีย มีโพรงจมูกที่ค่อนข้างสั้น จึงทำให้มันต้องประสบปัญหาในการหายใจอยู่เสมอ และในกรณีที่เป็นหนักเข้า แมวบางตัวอาจจำเป็นต้องให้สัตวแพทย์ช่วยผ่าตัดแก้ไข เพื่อให้หายใจได้สะดวก ดังนั้นคุณจึงควรสังเกตพฤติกรรมของมันอยู่เสมอ หากแมวของคุณส่งเสียงทางจมูกบ่อย ๆ หรือมีอาการกรนดังผิดปกติ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

11. ทำความสะอาดหูเป็นประจำ
แน่นอนว่าแมวของคุณไม่สามารถทำความสะอาดหูด้วยตัวเองได้ เจ้าของอย่างคุณจึงจำเป็นต้องเป็นคนคอยจัดการดูแลให้มันอยู่เสมอ ด้วยการใช้กระดาษทิชชู่ หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดให้มัน ทั้งนี้ หูของแมวนั้นเป็นส่วนที่อ่อนไหวมาก คุณจึงควรพยายามทำความสะอาดให้เบามือที่สุด และใช้เวลาให้น้อยที่สุดด้วย

12.อย่าละเลยเวลาที่มันอ้อน
แม้บางครั้งคุณจะยุ่งกับชีวิตทำงาน และครอบครัวมากจนแทบไม่มีเวลา ก็ควรแบ่งเวลาไว้ดูแลแมวของคุณด้วย เพราะมันก็ชรู้สึกน้อยใจได้เหมือนกันเวลาที่เจ้าของไม่สนใจ ดังนั้นเวลาที่มันอ้อนด้วยการคลอเคลียเอาใจ ก็ควรหันไปเล่นกับมันบ้าง เพื่อให้เขาไม่รู้สึกว่าคุณไม่ใส่ใจมันเท่าที่ควร จำไว้ว่าไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ต้องการความรัก และการเอาใจใส่ด้วยกันทั้งนั้น

13. ตัดแต่งขนให้ดูดีอยู่เสมอ
หากต้องการให้แมวของคุณดูสวยโดดเด่นอยู่เสมอ ก็ควรหมั่นพาไปตัดขนที่ร้านเป็นประจำ เพื่อให้ช่างสามารถใช้ลูกเล่น ซอยไล่ระดับขนให้ออกมาดูเป็นประกายสวยงามได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณเบื่อกับการตัดขนแบบเดิม ๆ อาจขอให้ช่างตัดทรงอื่น ๆ ให้กับแมวของคุณด้วยทรงต่าง ๆ เช่น ทรงสิงโตที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ก็ได้

14. ดูแลฟันให้สะอาด
ฟันของสัตว์เลี้ยงมักเป็นสิ่งที่เจ้าของละเลยที่จะสนใจอยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การดูแลสุขภาพปากของสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะถ้าหากเกิดการติดเชื้อในช่องปากขึ้นแล้ว อาจนำมาซึ่งโรคร้ายสารพัด และทำให้แมวของคุณอายุสั้นลงได้อีกหลายปี เราจึงควรดูแลฟันของแมวที่เรารักให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยการใช้แปรงสีฟันขนาดเล็กแปรงให้มันเป็นประจำ



เพียงแค่ทำตามวิธีดูแลทั้ง 14 ข้อนี้ แมวเปอร์เซียของคุณก็สามารถอยู่กับคุณได้นานหลายปีโดยมีสุขภาพที่ดีได้แล้ว เพราะฉะนั้น คนรักแมวทั้งหลายอย่าลืมนำเทคนิคการดูแลนี้ไปใช้กับเจ้าเหมียวที่บ้านกันนะจ๊ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก : http://pet.kapook.com/view40091.html


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-08-16 11:23:46


กริ้ววว
roppeep
#3
16-08-2012 - 11:26:53

#3 roppeep  [ 16-08-2012 - 11:26:53 ]






ราชาแมวต้องยกให้พันธ์นี้เลยคับ




แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-08-16 11:54:00
po980555


กริ้ววว
roppeep
#4
16-08-2012 - 11:45:35

#4 roppeep  [ 16-08-2012 - 11:45:35 ]






เมนคูน Main Coon


เป็นสายพันธ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจำพวกแมวเลี้ยงนะคับ


Maine Coon เป็นแมวที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ตามธรรมชาติระหว่างแมวบ้านกับแมวป่า อเมริกันลิงซ์ (American Lynz) คำว่า Maine ของเจ้าตัวโตนั้นมาจากแหล่งกำเนิดที่อยู่ในรัฐ Maine ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนคำว่า Coon นั้น ได้มาจากคำกล่าวของคนพื้นบ้านในสมัยก่อนที่เล่าว่าบรรพบุรุษแมวบ้านของเจ้า เหมียวแอบไปกิ๊กกับตัวแรคคูน จนออกลูกออกหลานมามีหางเป็นพวงสวยงามเหมือนแรคคูนเช่นนี้

ลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดที่สุดของเจ้า Maine Coon ก็คือรูปร่างใหญ่สมส่วน รู้สึกได้ถึงความแข็งแรงและสง่างาม ซึ่งหากเจ้าเหมียวโตเต็มที่แล้วจะมีน้ำหนักมากกว่า 12 กิโลกรัม ส่วนความยาวจากหัวจรดหางจะวัดได้มากกว่า 1 เมตร กล่าวได้ว่าขนาดพอๆกับสุนัขเลยทีเดียว เจ้า Maine Coon จึงจัดเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาแมวสายพันธุ์ทั้งหลาย และผลจากการพัฒนาสายพันธุ์ตามธรรมชาติ ทำให้พวกเค้ามีความแข็งแรง สามารถทนต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนของท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี

หัว มีขนาดใหญ่สมส่วน โหนกแก้มสูง รูปหน้ายาวปานกลาง ดูเป็นทรงเหลี่ยม หู ใบหูตั้งชี้เรียวแหลม มีขนที่ปลายหูเหมือนแมวป่า ตา ดวงตากลมโต สีเขียว ทอง ทองแดง พบตาสีฟ้าบ้างในเหมียวที่มีขนสีขาว ขน เป็นแมวประเภทขนกึ่งยาว (Semi Long Hair) มีขนปกคลุมหนาแต่ไม่พันกันยุ่ง ขนส่วนหัว คอ และไหล่จะไม่ยาวมาก จะไล่ความยาวจากส่วนหลัง ส่วนท้องไปจนถึงสีข้างและหาง ตัวผู้จะมีขนคอที่หนากว่าตัวเมีย ขา มีขาที่แข็งแรง ความยาวได้สัดส่วนกับลำตัว อุ้งเท้าใหญ่ เท้าหน้าจะมีข้างละ 5 นิ้ว ส่วนเท้าหลังมีข้างละ 4 นิ้ว

การให้อาหารตามปกติอาจยังไม่พอ ควรให้อาหารเสริมแก่เจ้าตัวโตด้วยเนื้อสัตว์โปรตีนสูงไขมันต่ำ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อเจ้าเหมียวให้ล่ำบึ้ก

Maine Coon เป็นแมวที่ไม่ค่อยมีปากเสียงมากนัก คุณสามารถหาเห็บ หมัด เช็ดหู สางขน โดยที่เหมียวไม่ปริปากบ่นรำคาญสักแอะ แถมยังชอบอีกด้วย

แมวกึ่งขนยาวแบบ Maine Coon จะไม่มีปัญหาขนพันกันยุ่งแบบแมวขนยาวอย่างเปอร์เซีย การดูแลจึงทำได้ง่ายขึ้น


ข้อมูลจาก : http://www.siamcat.info








แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-08-16 11:50:10


กริ้ววว
viivz_mizu
#5
16-08-2012 - 11:58:31

#5 viivz_mizu  [ 16-08-2012 - 11:58:31 ]








เดี๋ยวว่างๆเข้ามาอ่านนะครับ
เมี๊ยวววววววว!!


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-08-16 11:58:57
roppeep

kawjee007
#6
16-08-2012 - 12:01:36

#6 kawjee007  [ 16-08-2012 - 12:01:36 ]






monster26
#7
16-08-2012 - 12:08:34

#7 monster26  [ 16-08-2012 - 12:08:34 ]




บ้านเราก็เลี้ยงแมวนะ ขี้อ้อนสุดๆ


ammiiN
#8
16-08-2012 - 12:17:53

#8 ammiiN  [ 16-08-2012 - 12:17:53 ]






po980555
#9
16-08-2012 - 12:30:13

#9 po980555  [ 16-08-2012 - 12:30:13 ]




แมวน่ารักอ่ะ แต่เราเลี้ยงไม่ได้เพราะแมวมันอึเหม็น พ่อเลยไม่ให้เลี้ยง


roppeep
#10
16-08-2012 - 12:37:55

#10 roppeep  [ 16-08-2012 - 12:37:55 ]






quote : po980555

แมวน่ารักอ่ะ แต่เราเลี้ยงไม่ได้เพราะแมวมันอึเหม็น พ่อเลยไม่ให้เลี้ยง

เอ้าซะงั้นอึไม่เหม็นเท่าไรจ้าถ้าเลี้ยงน้องดี



กริ้ววว
roppeep
#11
16-08-2012 - 12:38:38

#11 roppeep  [ 16-08-2012 - 12:38:38 ]






quote : monster26

บ้านเราก็เลี้ยงแมวนะ ขี้อ้อนสุดๆ

พันธ์ไรเหรอ คับ



กริ้ววว
NutleZa
#12
16-08-2012 - 13:38:53

#12 NutleZa  [ 16-08-2012 - 13:38:53 ]




แมวน่ารักโน๊ะ


khat
#13
16-08-2012 - 14:18:48

#13 khat  [ 16-08-2012 - 14:18:48 ]






ก็น่ารักดีอ่ะ แต่พี่ไม่เคยเลี้ยงเลย



Lazy mode
roppeep
#14
16-08-2012 - 14:23:59

#14 roppeep  [ 16-08-2012 - 14:23:59 ]






quote : khat

ก็น่ารักดีอ่ะ แต่พี่ไม่เคยเลี้ยงเลย


คับลองเลี้ยงดูซิคับเเล้วจะรักนะคับ



กริ้ววว
ariceeiei
#15
16-08-2012 - 15:09:11

#15 ariceeiei  [ 16-08-2012 - 15:09:11 ]




บ้านผม ก้อเลี้ยงแมว ๆๆ แต่เป็นแมว สี 3 น่ารักก ตัวเมียย แต่ ทำหมันแล้ว


ouzanaruk
#16
16-08-2012 - 15:21:54

#16 ouzanaruk  [ 16-08-2012 - 15:21:54 ]




อิอิ น่ารักอ่า


roppeep
#17
16-08-2012 - 15:29:04

#17 roppeep  [ 16-08-2012 - 15:29:04 ]








แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-04 13:33:26


กริ้ววว
bhus
#18
16-08-2012 - 16:08:43

#18 bhus  [ 16-08-2012 - 16:08:43 ]




อ่า มีประโยชน์มากจ้า



[ Kid x Law ]
แตงโมสีชมพู
#19
แตงโมสีชมพู
16-08-2012 - 16:20:16

#19 แตงโมสีชมพู  [ 16-08-2012 - 16:20:16 ]






บ้าน เราก็เลี้ยง แต่มันไม่น่ารักเลยยย T o T


ิำbeatrice
#20
16-08-2012 - 16:30:39

#20 ิำbeatrice  [ 16-08-2012 - 16:30:39 ]







ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 26th March 2024 18:18

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ