
ระวังอย่าให้ บิ๊กอายส์ ทำลายตา

อยากสวยแบ๊วแบบหนุ่มสาวเกาหลี "บิ๊กอายส์" จึงขายดิบขายดีและมีราคาถูกมากจนน่าใจหายอันตราย
คืบคลานเข้าใกล้ตาแต่พวกเรายังชะล่าใจ
ดังที่ว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ" มัน จึงเป็นสิ่งมีค่าและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์
อวัยวะชิ้นนี้มีกลไกการทำ งานที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน เป็นระบบประสาทที่ได้รับการออกแบบมา
เป็นพิเศษเมื่อเทียบกับประสาทรับความ รู้สึกอื่นๆ

แต่ตราบใดที่เรายังมองเห็นได้ดี ไม่มีโรคตามมากวดหัวใจ เราจึงมักละเลยที่จะดูแลรักษาให้ตาอยู่ในสภาพ
ที่ใช้งานได้ดีให้นานที่สุด แถมยังใช้สายตาไม่ถูกต้องด้วย จึงทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นลดลงเรื่อยๆ
แต่พวกเราไม่รู้ตัว ยิ่งตอนนี้กระแส "ตาแบ๊ว" ไม่ใช่แค่แฟชั่นมาประเดี๋ยวก็ไป แต่มันกำลังจะหยั่งรากฝังลึกในดวงตาทุกคู่
ดร.ดนัย ตันเกิดมงคล หัวหน้าสาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เล่าให้เราฟังว่าในแต่ละปี เยาวชนใส่คอนแทคเลนส์เพิ่มขึ้นจำนวนมากโดยไม่คำนึงเรื่องคุณภาพ
และรู้สึกเอาเองว่าใช้ได้เหมือนสินค้าทั่วไป แต่ความจริงแล้วคอนแทคเลนส์เป็นเครื่องมือแพทย์
มันต้องทำให้เราใช้สายตาได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพื่อความสวยงามเป็นหลัก
คอนแทคเลนส์สีหรือที่เรียกกันว่า บิ๊กอายส์ นั้นจัดอยู่ในหมวดคอสเมติก ถูกสร้างมาเป็นพิเศษด้วย
การใส่เม็ดสีที่สามารถพรางสีม่านตาเดิมให้เป็นสีที่ ต้องการได้ จึงใส่ไม่สบายเท่าคอนแทคเลนส์ชนิดอื่นๆ
และเนื่องจากมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงมีอัตราการซึมผ่านของออกซิเจนน้อยกว่า
ฉะนั้นเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างน้อย รูม่านตาขยายเกินขอบเขตของช่อง ทำให้การมองเห็นอาจมีประสิทธิภาพด้อยลง
ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือผลกระทบระยะยาวมากกว่า เพราะการใช้คอนแทคเลนส์สีแบบผิดๆ
และใช้สินค้าด้อยคุณภาพ อาจทำให้ติดเชื้อและลุกลามเรื้อรังในหนังตาและสุขภาพกระจกตาเสื่อมก่อนวัย
คุณนพพร ภัทรรุจี ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าบริษัท ซีบาวิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายเสริมว่าคนใส่คอนแทคเลนส์
มีไลฟ์สไตล์ ใช้สายตาอย่างหนักหน่วงมากเกินไป พวกเขาใส่มันนานกว่า 8-10 ชั่วโมงและอยู่กับวัสดุที่ไม่สามารถ
ส่งผ่านออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์กระจก ตาได้เพียงพอ
จึงเป็นที่มาของภาวะ การขาดออกซิเจนของกระจกตา นำมาซึ่งภาวะกระจกตาชราเกินวัย
โดยจะมีอาการตาแดงโดยไม่ทราบสาเหตุระคายเคือง มองเห็นภาพมัว หรือแสงรุ้งรอบดวงไฟ
มองภาพไม่ชัดเจน เหมือนสายตาสั้น เพิ่มขึ้นเพราะกระจกตาบวม จนไม่สามารถทนใส่คอนแทคเลนส์ได้นาน
หรือไม่ได้เลยในที่สุด
ฉะนั้น ก่อนที่หนุ่มสาวๆ ทั้งหลายจะ "แอ๊บแบ๊ว" ดร.ดนัยบอกทางป้องกันไว้ว่า ผู้ใส่ต้องมีกฎเหล็ก
เมื่อตัดสินใจใส่คอนเทคเลนส์ควรแวะไปให้จักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรวิเคราะห์ ความเหมาะสม
หรือข้อจำกัดเฉพาะตัวก่อน เช่น บางคนกระจกตาบางมาก จึงไม่เหมาะกับคนแทคเลนส์ชนิดใดเลย
หรือคนที่สายตาเอียงต้องใช้คอนแทคเลนส์สำหรับสายตาเอียง เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้น เป็นต้
เมื่อไร้ปัญหาใดๆ ก็ควรเลือกเลนส์ที่มีการรับรองทางการแพทย์ ครั้นใส่แล้ว ก่อนนอนก็ต้องถอดออก
และทำความสะอาดอย่างเคร่งครัด
"พยายาม หาวัสดุที่สามารถให้ออกซิเจนผ่านตาได้สูง และอย่าใช้คอนแทคเลนส์ผิดประเภท
เช่นรายเดือนก็ต้องใช้เพียงเดือนเดียวแล้วทิ้ง หรืออย่าแลกใส่กับเพื่อน
และอย่าเปลี่ยนแบรนด์บ่อยหากใช้ยี่ห้อไหนแล้วดีกับตัวเองก็อย่าเผลอใจไปกับ โปรโมชั่นเจ้าอื่น
และถ้าตามีปัญหา ก็อย่าทนให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน" ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตากล่าว
เทคนิคยืดดวงตา
- สวมแว่นสายตาให้เหมาะสมกับสายตาหากปล่อยทิ้ง คนสายตาสั้นอาจทำให้เกิดตาเหล่ออก คนสายตายาวจะตาเหล่เข้า
- ใส่แว่นตาเป็นประจำ จะทำให้สายตาคงที่ หรือเปลี่ยนแปลงช้าลง
- ใช้น้ำยาล้างคราบโปรตีนทุกเดือนไม่เปลี่ยนยี่ห้อน้ำยาล้างบ่อยๆ
- พักสายตา 5-10 นาทีหลังใช้คอมพิวเตอร์ทุกๆ 1 ชั่วโมง
- ระยะอ่านหนังสือไม่ควรใกล้กว่า 40 ซม.
- ห่างจากจอทีวีอย่างน้อย 4 เท่าของขนาดจอ
หมั่นตรวจสายตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีระยะยาว...
ระวังด้วยนะค่ะสำหรับคนที่ใส่ บิ๊กอายส์

ที่มา : http://www.yenta4.com/
คอมเม้นต์กันสักนิด ให้เจ้าของกระทู้ด้วยนะค่ะ ^^