วิธีทำขอบลาย 
1--เปิดงานเปล่าขึ้นมา ขนาดตามใจตนเอง
2--เพิ่มเลเยอร์ใหม่ขึ้นมา 1 อัน

1--เลือกแบบหัวแปรงเพื่อวาดลงในเลเยอร์
2--เลือกสีแปรง /ขนาดพอเหมาะ /เลือกตั้งค่าความโปร่งใส หรือไม่ก้ได้ (ทำเสร็จแล้วค่อยปรับขนาดชิ้นงานได้ในภายหลังคะ)

1--วาดงานลงในเลเยอร์ (ไม่ใช่พื้นหลัง)
**แนะนำ** ขอแนะนำให้ใช้เป็นแปรง ไม่ใช่ shape เพราะจะง่ายต่อการปรับแต่งมากกว่า
ช่องทางดาวน์โหลดแปรงสวยๆ
http://garcya.us/floral-frame-brushes/ http://myphotoshopbrushes.com/ ขั้นตอนนี้เป็นเพียงการแนะนำสามารถข้ามไปได้

1--เพิ่มเลเยอร์ขึ้นมาอีก1เลเยอร์ไว้ท้ายสุดก่อน BG เพื่อเทพื้นหลังเป็นสีที่ตัดกับชิ้นงานเพื่อที่จะได้มองเห็นชัดเจน
**แนะนำ**ถ้าชิ้นงานมีสีสดตัดกับพื้นขาวอยู่แล้วก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้
ขั้นตอนนี้เป็นเพียงการแนะนำสามารถข้ามไปได้

1--เพิ่มเลเยอร์ขึ้นมาและเทแพทเทิร์นเป็นลายโปร่งๆ ถ้าต้องการให้ชิ้นงานดูเหมือนกับลูกไม้
**แนะนำ**เราสามารถสร้างลายลูกไม้เพื่อเทเป็นพื้นได้ แต่ในที่นี้จะขอสอนการทำเฉพาะลวดลายลายก่อน

1--เลือกเครื่องมือตัดรูปภาพเป็นสี่เหลี่ยม
2--ลากครอบตัดชิ้นงานตามต้องการ
3--กด Ctrl+J เพื่อก๊อปชิ้นงานจากการเลือกขึ้นมาอีก 1 ชิ้น เป็นชิ้นงานที่ 1
4--กด Ctrl+J เพื่อก๊อปชิ้นงานจากชิ้นงานที่1อีก 1 ชิ้น เป็นชิ้นงานที่ 2
5--กดลบชิ้นงานต้นฉบับทิ้งเพื่อไม่ให้สับสนกับชิ้นงาน (หรือจะซ่อนชิ้นงานแทนก็ได้)

1--เราจะทำการเปลี่ยนชนาดของชิ้นงานที่ก๊อบขึ้นมาชิ้นใดชิ้นหนึ่ง ไปที่ Edit/Transform/scale

1--ใส่เครื่องหมาย - (ลบ) ข้างหน้าตัวเลขในช่องความยาวของชิ้นงาน (W) ให้มีค่าเป็น -100.00%
2--กด Enter 2ครั้ง จากนั้นชิ้นงานจะหันกลับคนละด้านกับอีกชิ้นหนึ่งที่เหลือ

1--นำทั้งสองชิ้นงานมาต่อเข้าด้วยกันให้สนิท

1--ทำการซ่อนเลเยอร์ทั้งหมดยกเว้นชิ้นงานสองชิ้นนี้ (วิธีซ่อนคือการกดตรงภาพดวงตาในช่องเลเยอร์ของชิ้นงานที่ต้องการซ่อน)
2--ทำการรวมชิ้นงานเข้าด้วยกัน (ให้เป็นชิ้นงานเดียวกัน)โดยไปที่ปุ่มตัวเลือกด้านขวาสุด แล้วกดเลือก Merge Visible

1--กด Ctrl+J เพื่อก๊อปชิ้นงานขึ้นมาอีก 1 ชิ้น แล้วนำมาต่อกัน ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วก็รวมเลเยอร์
2--เมื่อได้ชิ้นงานที่ยาวพอประมาณเราจะมาทำมุมของชิ้นงาน โดยการก๊อปชิ้นงานที่รวมกันแล้วขึ้นมาอีก 1 ชิ้น

1--ทำการปรับค่าชิ้นงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งโดยการไปที่ Edit/Transform/rotate เพื่อหมุนชิ้นงานตั้งฉาก

1--ทำการหมุนชิ้นงานให้ตั้งฉากตามภาพ แล้วนำมาวางทับกันให้เป็นมุมพอดี

เราจะใช้ shape ช่วยในการเลือกพื้นที่ส่วนเกินของชิ้นงานได้ง่ายขึ้นนะคะ เพื่อจะลบส่วนเกิน(ที่ทับมุมกันอยู่)ออกซะ
1--วาด shape รูปสี่เหลี่ยมขึ้นมา 1 รูป กำหนดค่าความโปร่งใสที่ 30-40% เพื่อจะได้มองเห็นรูปด้านล่าง
2--แปลง shape เป็นออฟเจ็กต์ธรรมดา โดยการเลือกเมนูที่ปุ่มด้านขวามือ แล้วเลือกรายการ Convertt to Smart Object

1--ทำการหมุนและย้าย Shape ไปยังหัวมุมของชิ้นงานที่วางซ้อนกันไว้ เราจะทำการลบส่วนที่ทับกันออก ด้วยเครื่องมือในโหมดของ Edit/Transform/ ... ตามที่เคยปรับมาจากชิ้นงานก่อนหน้านี้
2--ทำการปรับขนาดของ shape ให้ยาวครอบคลุมชิ้นงานด้านล่างตามภาพด้วยเครื่องมือในโหมดเดิม

1--จัดวางให้อยู่ตรงกลางมุมพอดีตามภาพ (จะอยู่ตำแหน่งที่ชิ้นงานทั้งสองชิ้นตัดกันหนะคะ)

1--ตัวอย่าง เลือกแบบแปรงยางลบเพื่อเตรียมใช้งาน

เอาล่ะ เราจะลบพื้นที่ส่วนเกินของชิ้นงานด้านบนก่อน
1--ใช้เครื่องมือเลือกพื้นที่กดเลือกพื้นที่ของ shape เพื่อลบส่วนเกินของชิ้นงานที่อยู่ด้านบน
2--เลือกเลเยอร์ของชิ้นงานที่อยู่ด้านบนแล้วใช้เครื่องมือยางลบ ลบส่วนเกินของชิ้นงานออก (จะอยู่ในรัศมีที่เราเลือก)
**แนะนำ**สามารถกดปุ่ม Delete บนแป้นพิมพ์เพื่อลบออกได้เลย แต่พื้นที่ในการเลือกจะหายไปด้วย
และจะต้องใช้เครื่องมือกดเลือกพื้นที่อีกครั้ง

คราวนี้เราจะลบพื้นที่ส่วนเกินของชิ้นงานด้านล่าง(ด้านข้างทางซ้ายหนะแหละ)
1--คลิกที่เครื่องมือเลือกพื้นที่ แล้วคลิกขวาเลือก Select Inverse เพื่อสลับพื้นที่ ที่เลือกอยู่ (สลับไปยังพื้นที่ไม่ได้เลือกทั้งหมด)
2--เลือกเลเยอร์ของชิ้นงานที่อยู่ด้านล่าง(ข้างซ้ายตั้งฉาก)แล้วใช้เครื่องมือยางลบ ลบส่วนเกินของชิ้นงานออก (จะอยู่ในรัศมีที่เราเลือก)
**แนะนำ**สามารถกดปุ่ม Delete บนแป้นพิมพ์เพื่อลบออกได้เลย

1--เมื่อซ่อน shape แล้วจะเห็นชิ้นงานที่ทำมุมกันพอดี ไม่มีลวดลายทับซ้อนกัน
**แนะนำ**สามารถปรับขนาดได้ในภายหลัง ถ้าปรับให้เล็กมากๆในขั้นตอนการต่อภาพและการลบมุมจะทำได้ค่อนข้างยาก (เล็งอย่างหนัก)
ตัวอย่างที่ทำเสร็จแล้ว ใหญ่มากที่สำคัญ ไม่ได้เซฟบ้าอะไรไว้เลยพอถ่ายภาพเสร็จปิดงานเฉยเลยคะ
ชิ้นงานนี้จึงไม่มีตัวตน
