ลองอ่านนี่ดูค่ะแล้วจะรู้ว่า ข่าวลือก็เป็นได้แค่ข่าวลืมไร้ซึ่งข้อเท็จจริง
มัลลิกาย้ำผ่านเฟซบุ๊ก "แบนเว็บ" เป็นทางเลือกสุดท้าย ระบุถูกผู้ไม่หวังดีตัดต่อประเด็น
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์เขียนแถลงการณ์ชี้แจงในเพจเฟซบุ๊กของตนเอง หลังจากมีข่าวเสนอว่า น.ส.มัลลิกา เสนอให้มีการแบนเว็บไซต์ยูทูบและเฟซบุ๊ก เพื่อป้องกันกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
แถลงชี้แจงกรณีหมิ่นและแบนยูทูบและเฟซบุ๊ก
"กลุ่มไม่หวังดีตัดต่อประเด็นแถลงของมัลลิกาสร้างกระแสต่อต้านการสู้เพื่อขจัดเว็บผิดกฎหมายโดยเฉพาะเว็บหมิ่นในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ย้ำจุดยืนไม่ใช่ให้ปิดยูทูบและเฟสบุ๊ก แต่ต้องมีมาตรการที่ผู้นำรัฐบาลต้องใช้ขู่และต่อรองหากรัฐมนตรีหมดปัญญาแล้วอ้างว่ายาก"
นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าชมรมนักรบไซเบอร์ ในฐานะที่รับผิดชอบการร้องเรียนเว็บผิดกฎหมายที่รัฐบาลไม่ดำเนินการและนาวสาวมัลลิกาได้เปิดตัวเป็นที่รับเรื่องร้องเรียนคู่ขนานกับการทำงานของรัฐบาลและกระทรวงไอซีทีในการขจัดเว็บผิดกฎหมายนั้น แถลงว่า เนื่องจากกลุ่มคนไม่หวังดีตัดต่อตัดแปะข้อความแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 แล้วนำไปใช้สร้างกระแสต่อต้านการรุกเรื่องนี้ของนางสาวมัลลิกา
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เบื้องต้นได้อธิบายผ่านทวิตเตอร์ @MallikaBoon และเฟซบุ๊กส่วนตัวเนื่องจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมายนำไปตกแต่งสร้างเรื่องให้คนเข้าใจไม่ครบถ้วน ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกความเห็นแต่ก่อนที่ใครจะแสดงออกกรุณาอ่านให้ครบทุกข้อความในทวิตใน @MallikaBoon หรือเฟซบุ๊กของมัลลิกาที่เพจ http://www.facebook.com/pages/Mallika-Boonmeetrakool/137530553003555
กรณีของการข้อความ "force แล้วถ้าไม่จบจึง ban ผู้นำต้องคิด" นั่นเป็นมาตรการต่อรองสำหรับผู้นำที่อ้างว่า "ยาก" และ "หมดปัญญา" ซึ่งทางแห่งความเป็นจริงนั้นมันเป็นไปไม่ได้ ในเนื้อข่าวที่แถลงและทวิตกับเฟซบุ๊กของมัลลิกาใช้คำว่าถ้ารัฐมนตรีไอซีที น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อ้างว่ายากและหมดปัญญาเช่นนั้นคุณก็ใช้ยาแรง ban เว็บแทนหากเขาไม่ให้ความร่วมมือคุณ การที่ผู้นำเต็มไปด้วยข้ออ้างแต่แท้จริงแล้วข้างหลังผู้นำมีมือโพสต์หมิ่นยืนประกบอยู่ข้างหลังตามที่เปิดประเด็นไปนั้นสิ่งใดที่จะทำให้ผู้นำหาข้ออ้างไม่ได้
"จุดยืนไม่ใช่เรื่องให้ไปปิดยูทูบ เฟซบุ๊ก แต่เป็นมาตรการที่ผู้นำต้องใช้ในการเจรจากดดันหรือขู่ห้าม อย่างไรก็ตามผู้นำประเทศต้องนำไปใช้เพื่อต่อรองนมาตรการคือ force ถ้าไม่จบจึง ban ผู้นำต้องคิดเป็นทางเลือกสุดท้ายหากรัฐมนตรีบอกว่ายากและหมดปัญญาซึ่งรัฐมนตรีอนุดิษฐ์ยอมรับเองว่ายากแต่ไม่พยายามและไม่วางเป้าหมายของนโยบาย จุดยืนเขาคืออะไร" นางสาวมัลลิกากล่าว
โดยรายละเอียดตามทวิตเตอร์ @MallikaBoon มีลำดับเป็นข้อๆดังนี้คือ
1.การใช้มาตรการแต่ละระดับ คือกลยุทธผู้นำในการจริงจังต่อการแก้ไขปัญหา การแก้ไขปัญหาเว็บหมิ่นต้องรู้ต้นตอแห่งปัญหาต้นตอมีแค่ 2 อย่าง
2.ต้นตอ 2 อย่างคือ คนตั้งใจทำลายกับช่องทางการใช้ทำลาย เมื่อเจอตอเจอเชื้อโรคแล้วก็ต้องหายามารักษาหรือหามาตรการมาแต่ละระดับ
3.การเป็นผู้นำคนผู้นำประเทศต้องใช้ทักษะเป็นกลยุทธเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย ขอแค่คุณตั้งเป้าหมายไว้หรือยัง?มีเป้าหมายหรือไม่ว่าจะขจัดปัญหา
4.ถ้าเป้ามายคือการขจัดออกให้สำเร็จ คุณต้องกำหนดกรอบและระยะเวลาเพื่อคนทำงานซึ่งคือราชการจะได้เดินหน้าตามเป้าหมายในคำสั่งนั้น!
5.ไล่ตั้งแต่สืบค้น ตรวจจับ ส่งสำนวนสู่ศาล นี่สำหรับบุคคลกระทำผิด!ส่วนผู้ให้บริการ (บริษัท) เว็บนั้นๆต้องเชิญมาประชุมขอความร่วมมือและเซนเซอร์
6.หากผู้ให้บริการขาดจริยธรรมปล่อยให้เพจหรือURLของคุณละเมิดและผิดกติกากับกฎหมายก็ส่งหลักฐานเสนอชั้นศาลปิดไป อยู่ในสังคมก็ต้องเคารพกติกา
7.ทีนี้สำหรับกรณีที่ผู้นำหมดปัญญา นั่นคืออ้างว่ามันยากเพราะเจ้าของเว็บอยู่ต่างประเทศซึ่งหมายถึงยูทูบกับเฟซบุ๊กที่ระบาดหนักช่วง 3 เดือนนี้
8.เช่นนั้นแล้วมาตรการคือ ผู้นำต้องประสานผู้นำประเทศเขาแล้วเอาผู้ให้บริการประเทศนั้นเข้ามาร่วมองค์เจรจา ขอความร่วมมือระหว่างกันให้เหตุผลไป
9.มันยากและไม่สำเร็จใช่ไหม? ก็มาตรการสุดท้ายให้ยาแรงคือมาตรการต่อรองแลกเปลี่ยนก่อนการยื่นจาก force แล้วไม่จบจึง ban ผู้นำต้องคิดและนำไปขู่เขา
10.อย่าดัดจริต ถ้าคิดจะเด็ดขาด!! ขบวนการทำลายไปไกลขนาดใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีจนฝรั่งงง! อย่าเอ่ยคำว่า "รักท่าน" แล้วใช้คำว่า "ยาก" !!
ทั้งหมดจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร และรัฐมนตรีไอซีที น.อ.อนุดิษฐ์นาครทรรพ วันจันทร์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 ต่อการแก้ไขปัญหาเว็บไซต์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คชื่อดังๆ ระบาดหนักช่วงหลังการเปลี่ยนรัฐบาลตั้งแต่สิงหาคมถึงปัจจุบัน โดยนางสาวมัลลิกาจะนำเสนอพร้อมข้อมูลลิงค์หรือเพจ (URL) ของเว็บผิดกฎหมายประมาณ 200 URL ที่รับเรื่องร้องเรียนมาจากกลุ่มผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิคที่อ้างว่าไม่มั่นใจต่อการแก้ไขปัญหานี้ของรัฐบาล
นอกจากนี้ นางสาวมัลลิกายังย้ำว่าจะไม่หยุดต่อสู้เรื่องนี้แม้จะถูกกลุ่มคนที่น่าจะเป็นขบวนการส่งเสริมการลบหลู่ จาบจ้วง สถาบัน ตั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กชื่อปลอมๆ จำนวนมากโดยคนหนึ่งใช้ไอแพดเครื่องเดียวแต่มีเป็น 4-5 ชื่อที่ใช้เล่นทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก มาก่อกวนด่าหยาบคายในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กของเธอรวมทั้งโทรศัพท์ก่อกวนที่เข้ามามากขึ้นทุกวันแต่ประเภทโทรมาด่าแล้ววาง
ดังนั้นชมรมนักรบไซเบอร์จะเดินหน้าต่อไปเมื่อเจอใครเว็บหมิ่นเว็บผิดกฎหมายให้ทำตามขั้นตอนนี้ คือ
1)โทรแจ้ง ICT โดยตรงที่เบอร์โทร 1212 หรือ
2)แจ้งผ่านเว็บไซต์ของ ICT mict.go.th (แต่ถ้าไม่ได้เรื่ิองทำข้อ3)
3)ถ้าเว็บนั้นยังอยู่ค่อยแจ้ง FightBadWeb@gmail.com เพื่อให้มัลลิกาติดตามต่อโดยที่ไม่ต้องเอาลิงค์มาใส่ในเพจของ ทุกแห่ง ทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใครและชมรมได้เปิดเฟซบุ๊ก FightBadWeb เป็นเพจหนึ่งในเฟซบุ๊กของมัลลิกามีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงซึ่งเป็นเจ้าพนักงานคอมพิวเตอร์ช่วยรับเรื่องและนำไปดำเนินตามกระบวนการของกฎหมาย
ข้อมูลประกอบที่สำคัญคือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การกระทำความผิดตาม พ. ร.บ.คอมพิวเตอร์ คือ กรณีที่คุณใช้คอมพิวเตอร์ ทุกรูปแบบ โซเชียลเน็ตเวิร์คทุกรูปแบบ เป็นเครื่องมือไปกระทำความผิด 4 ประการหลักคือ
1) ด้านความมั่นคงของชาติ เข่น การโพสต์ปล่อยข่าวที่ทำให้ประเทศเสียหาย เสี่ยงต่อความมั่นคง
2) ด้านยาเสพติด การพนัน เข่น การขายยาผิดกฎหมาย การยุยงเล่นเลข หวย บ่อน แทงบอล
3) ด้านลามก อนาจาร เช่น ไปส่งต่อเผยแพร่ภาพโป๊ คลิปลามก หนังลามก
4) ด้านหมิ่นสถาบันของชาติ พระบรมเดชานุภาพ เช่น ที่ตัดต่อคลิป ภาพ เพลง จาบจ้วง ล่วงละเมิด
ทั้งหมดเป็นฐานความผิดที่เจ้าพนักงานตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตั้งแต่รมต.ไอซีที เจ้าหน้าที่แต่งตั้งตามกฎหมายมั่น มีทั้งข้าราชการไอซีที ทหาร ตำรวจ ดีเอสไอ พลเรือนที่เชี่ยวชาญ จะมีบัตรเจ้าพนักงานสามารถเข้าไปตรวจค้น จับกุม ใครที่กระทำผิดกฎหมายนี้ได้แล้วทำสำนวนผ่านกระบวนการกฎหมายส่งฟ้องศาลมีโทษจำคุกหนักเบาแตกต่างกันไป
ขณะเดียวกัน นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้ชื่อ Korn Chatikavanij ในเว็บไซต์เฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความโปรโมทโครงการของพรรคประชาธิปัตย์ คือ FightBadWeb โดยระบุข้อความต่อสาธารณะว่า ระยะหลังนี้มี "เว็บที่ไม่เหมาะสม" เพิ่มขึ้นมากและไม่มีท่าทีที่จะมีการดำเนินการใดๆ โดยรัฐบาล ดังนั้นทางพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้สร้างช่องทางการติดตามกดดันให้ทางรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่มากขึ้น
ด้วยการสร้าง FB Page http://facebook.com/FightBadWeb ขึ้นมา ใครเจอ เว็บที่ผิดกฏหมาย ขอให้เข้าไปดูวิธีการร้องเรียนผ่าน Page นี้ได้ครับ พรรคประชาธิปัตย์โดย ส.ส.ศิริโชค โสภา ในฐานะ รมว.ICT เงา และ รองโฆษกฯ มัลลิกา บุญมีตระกูล อดีตที่ปรึกษารมว.ICT จะเป็นผู้คอยติดตามว่า...กระทรวง ICT มีการดำเนินการอย่างเต็มที่หรือไม่ ?
" รัฐมนตรีอนุดิษฐ์ งานเข้าแน่ครับ เพราะ... สังคมข้องใจอยู่แล้ว
ว่าทำไม ′ผู้เคยถูกกล่าวหาเกี่ยวกับคดีหมิ่น′ ถึงได้มาคอยเดินติดตามท่านตลอด และสิ่งนี้ เป็นเหตุให้มีเว็บหมิ่นแพร่หลายไปทั่ว ใช่หรือไม่
..ปล.วิธีแรกที่ FightBadWeb บอกคือ
..อย่าเอาลิงค์เว็บ หรือเพจหมิ่นมาแชร์ตอบใน Comment นะครับ." นายกรณ์โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก
รายงานจากหน้าเพจ FightBadWeb จัดตั้งขึ้นเพื่อให้คำแนะนำสำหรับ ผู้ที่ต้องการจะร้องเรียน รายงาน เว็บ หรือเพจหมิ่นฯ รวมทั้งเว็บที่ผิดกฏหมายต่างๆ ในการเปิดเพจนี้เพียงแค่วันเดียวปรากฎผู้เห็นด้วยกดชอบหรือlikeจำนวน 3,017 คนถูกใจสิ่งนี้แล้วและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เครติด มติชนออนไลน์
ขอโควทคำพูดตัวเองจากกระทู้ http://www.thaithesims3.com/topic.php?topic=68538
quote : ka3z
เอาข่าวมาจากไหนคะ มีมูลรึเปล่า ฟังหูไว้หูหน่อยไม่ใช่อ่านแล้วเชื่อไปหมด
จขกท ก็ไม่เห็นจะมีหลักฐานอะไรเลย เห็นอ่านมาก็ได้แต่บอกว่า เขาว่า กันว่าเท่านั้น เชื่อได้ที่ไหน
แล้วที่บอกว่าโอกาศปิด 50%นี่ จขกท เอามาจากไหน ขอหลักฐานมาอ้างอิงด้วย
สำหรับพี่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะขอบอก ข่าวนี้มั่วล้านเปอเซ็นต์
เนื่องจากเฟสบุ๊คได้ทำสัญญาโฆษณามากมายกับหลายๆบริษัท
การปิดเฟสเท่ากับฉีกสัญญากับบริษัทเหล่านั้นทิ้ง สัญญาโฆษณาไม่ใช่น้อยๆนะคะเด็กๆ
อีกอย่างประเทศไทยไม่ใช่ประเทศปิดแบบจีนค่ะ ถึงจะครอบคลุมการปิดแบบนั้นได้
เรื่องหมิ่นเนี่ย ถึงเอาเฟสบุ๊คออกไป มันก็มีหลายช่องทางค่ะไม่วาจะเป็น tumblr twitter อินสตอแกรม
เยอะแยะ ถ้าปิดก็ต้องปิด social network ให้หมด ซึ่งเป็นไปไม่ได้
อีกอย่างตามกฏหมายแล้ว รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ปิดกั้นสื่อค่ะ ซึ่ง social media ก็ถือเป็นสื่อประเภทนึงเช่นกัน
เวลาฟังข่าวอะไร กลั่นกรองหน่อยค่ะน้อง ไม่ใช่ฟังแล้วเชื่อเลย
ประมวลผลบ้าง อย่าฟังกันอย่างเดียว

คำพูดอาจดูรุนแรงแต่ไม่ได้ตั้งใจว่าใคร แค่อยากให้น้องๆแยกออกระหว่างข่าวลิอกับข้อเท็จจรีิงที่มีหลักฐานยืนยันค่ะ
