
The Longest Midnight
ในอดีตมนุษย์กับเหล่าแวมไพร์ได้ทำสงครามต่อสู้กันขั้นแตกหัก ในบั้นปลายของสงคราม มนุษย์เป็นฝ่ายกำชัย และได้บีบบังคับให้พวกแวมไพร์คืบคลานกลับลงไปในความมืด ด้วยสนธิสัญญาชั่วกัปชั่วกัลป์ว่าจะไม่แสดงความทะเยอทะยานอยากครองดินแดนใดอีก และจะไม่ฆ่ามนุษย์จนเกินความจำเป็น เหล่าผีดูดเลือดยอมทนกล้ำกลืนความอัปยศ พากันอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ในส่วนที่ลี้ลับที่สุดของทุกมุมเมืองมาตลอดเวลา โดยสิบสามตระกูลใหญ่แห่งเหล่าแวมไพร์เป็นผู้ปกครอง และทั้งหมดจะดำเนินไปเช่นนี้อีกนับร้อยปีโดยไม่มีทางเปลี่ยนแปลง
วันเวลาล่วงเลยไป จวบจนศตวรรษ ใหม่เวียนมาถึง เหล่าแวมไพร์ทั้งหลายรู้ดีอยู่เต็มอกว่าพวกมนุษย์ที่เคยเข้มแข็งนั้น บัดนี้อ่อนแอลงเพียงใด สนธิสัญญาชั่วกาลปาวสานนั้นบอบบางเพียงกระดาษแผ่นเดียว จะฉีกเมื่อไหร่ก็ได้ ในขณะที่เหล่าแวมไพร์รุ่นใหม่มากมายเริ่มกระหายอยากจะทำสงคราม แม้แต่ตระกูลใหญ่บางตระกูลยังมีทีท่าจะเล่นด้วย พวกหัวเก่าและตระกูลหลักอีกส่วนหนึ่งกลับเห็นว่าเปล่าประโยชน์ที่จะก่อสงครามอันไร้สาระขึ้นมาอีก บ้างก็เห็นแก่ความกรุณาที่มนุษย์ได้ละเว้นชีวิต ไม่ได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ไปตั้งแต่เมื่อครั้งบรรพกาล บ้างก็พอใจกับความสงบสุขที่มีอยู่ในตอนนี้ ความขัดแย้งเริ่มทวีอุณหภูมิขึ้นทุกขณะ โดยที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ทันได้สังเกตเลย มีก็เพียงเหล่าแวมไพร์ และมนุษย์ผู้ที่เกี่ยวข้องคอยดูแลอยู่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่ตระหนักดีว่านี่เป็นช่วงเวลาที่อันตรายเพียงใด
เวลานี้เองที่บริดจ์พอร์ท อันเป็นเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของทั้งสิบสามตระกูลหลัก และปราการด่านแรกของเหล่ามนุษย์ในการควบคุมแวมไพร์ กลายเป็นที่จับตามองของเหล่าชนผู้ซ่อนเร้นทั่วโลก สงคราม หรือสันติภาพ อยู่ร่วมกันได้ หรือต้องตายกันไปข้างนึง อีกไม่นานนี้เอง ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าคำตอบจะปรากฏออกมาในอีกไม่นานนี้แน่นอน

ตระกูลเซเลสเทีย
หนึ่งในสิบสามตระกูลใหญ่แห่งเหล่าผีดูดเลือด พวกเซเลสเทียเป็นพวกนักคิด ศิลปิน และนักสร้างสรรค์ พวกเขามักจะเลือกหนทางที่นุ่มนวลมากกว่าการใช้กำลัง แต่เพราะความนุ่มนวลและอ่อนไหวอันเป็นลักษณะเด่นของบ้านเซเลสเทีย ทำให้ตระกูลของพวกเขาเกือบต้องล่มสลายมาแล้ว หลังการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตระกูลมาได้อย่างยากลำบาก เซเลสเทียกลายเป็นพวกเก็บตัวมากขึ้น ลึกลับมากขึ้น และยิ่งทำให้ใครหลายคนพากันเสียดาย ที่ไม่รีบขยี้พวกเขาให้แหลกคามือเสียตอนที่ยังมีโอกาส

เปโตร วอน เซเลสเทีย
หรือที่เรียกกันในหมู่ผู้ที่คุ้นเคยว่า พีท เขาเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูล สืบทอดทรัพย์สมบัติที่คงเหลือรอดจากการล่มสลายมาพร้อมกับสายเลือดต้องสาปอันเข้มข้น พีทไม่เหมือนเซเลสเทียคนใดในประวัติศาสตร์ เขามีใจทะเยอทะยานแบบที่ไม่เคยมีเซเลสเทียคนไหนเคยมีมาก่อน พรุ่งพร้อมด้วยคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำ แม้แต่ในหมู่แวมไพร์ชั้นสูงด้วยกันเองก็ยังถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะ ด้วยเขาเคยสามารถพาตระกูลให้รอดพ้นจากการล่มสลายมาได้ด้วยวัยที่อ่อนเยาว์ยิ่ง เมื่อเหล่าตระกูลใหญ่เริ่มแตกแยก พีทยังคงเก็บตัวสงบนิ่งอยู่ในบ้านของตน ไม่เผยท่าทีว่าจะเลือกยืนฝั่งใด และทำให้หลายๆ คนคิดว่า พีทอาจจะพาเซเลสเทียก้าวไปไกลกว่าที่จะยืนฝั่งเดียวกับคนอื่นได้อีกต่อไป

ตระกูลเกเบรียล
ถูกเรียกว่าเหล่าแวมไพร์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่ในอดีต แวมไพร์ตระกูลเกเบรียลเป็นตระกูลที่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด พวกเขามักเป็นสื่อกลางระหว่างพวกมนุษย์กับแวมไพร์ เป็นฑูตสันติภาพ และบางครั้งถึงกับทำงานให้กับองค์กรณ์ทางศาสนา นั่นทำให้หลายๆ ตระกูลเก็บงำความไม่พอใจต่อพวกเกเบรียลไว้อย่างเงียบๆ แต่ใครเล่า ใครจะกล้าท้าทายตระกูลที่มีอิทธิพลและเครือข่ายเส้นสายมากมายที่สุดในหมู่แวมไพร์อย่างเกเบรียล ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา ยังไม่มีใครทำเช่นนั้นแล้วอยู่รอดปลอดภัยเลย

อิงลิช เฮคเตอร์ เกเบรียล
ทายาทสายตรงแห่งบ้านใหญ่ตระกูลเกเบรียล เด็กสาวผู้อ่อนโยน อิงลิชไม่เคยใฝ่ฝันในอำนาจหรือตำแหน่งใดๆ แม้เธอจะเกิดมาพร้อมกับมัน ความฝันเพียงอย่างเดียวของเด็กสาวคือการได้ใช้ชีวิตเงียบสงบเรียบง่ายอย่างคนธรรมดา อยู่กับการถ่ายภาพที่เธอรัก ทว่าเมื่อนายใหญ่แห่งบ้านเกเบรียล ผู้เป็นพ่อของเธอได้ล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน ในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลต่างๆ กำลังเปราะบาง อิงลิชถูกบังคับให้ขึ้นรักษาการณ์ผู้นำตระกูลแทนพ่อของเธอในทันที อีกครั้งที่เด็กสาวได้ย้ำกับตัวเองว่า เธอคงไม่อาจเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างใครได้ อย่างน้อยเพียงแค่จะอยู่รอดให้ได้ในหนึ่งวัน โดยไม่ดื่มเลือดของใครเลย เธอก็ไม่อาจทำได้แล้ว

นีมัวรา เมดูซา เกเบรียล
พี่สาวต่างมารดาของอิงลิช เธอเป็นลูกนอกสมรสที่เกิดจากมารดาซึ่งเป็นแม่มด ผู้สืบเชื้อสายมาจากพวกกอร์กอน สตรีผู้มีงูพิษบนศีรษะ และมีดวงตาที่เปลี่ยนทุกสิ่งให้กลายเป็นก้อนหินเย็นเยียบ นีมัวราเติบโตขึ้นมาท่ามกลางสายตาชิงชังของคนในตระกูล สำหรับพวกเกเบรียลที่ศักดิ์สิทธิ์ เธอดูเหมือนจะเป็นคำสาปชั่วร้ายที่บังเอิญหลุดเข้ามาอยู่ในบ้านโดยไม่ปรารถนา จะมีก็แต่เพียงน้องสาวคนละแม่อย่างอิงลิชเท่านั้นที่ดีต่อเธอเสมอมา และนั่นก็เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอผ่านพ้นช่วงชีวิตวัยเยาว์มาได้ นีมัวราไม่ได้สืบทอดมาเพียงแต่ดวงตาของกอร์กอนเท่านั้น เธอยังมีอำนาจเวทย์มนต์อันเปี่ยมล้นของมารดาติดตัวมาด้วย นั่นทำให้ใครก็ตามที่คิดจะแตะต้องน้องสาวสุดที่รักของเธอคงต้องใช้ความพยายามมากหน่อยล่ะ
หมดแล้วครับ สำหรับตัวละครเซ็ทแรกของวันนี้ ก็เป็นการเปิดตัวเจ้าบ้านสองตระกูลหลักไปนะครับ ชอบไม่ชอบยังไงติชมกันเข้ามาได้ตามสะดวกเลยครับผม ยังไงช่วงแนะนำตัวละครนี่ตัวหนังสืออาจจะเยอะนิดนึงนะครับ เดี๋ยวพอเข้าเนื้อเรื่องแล้วน่าจะมีภาพมาเสริมเยอะๆ เอง ฮ่าๆ
สำหรับเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์และท่าโพสต่างๆ ผมได้มากจากเว็บนี้ซะเยอะเหมือนกันครับ บางอันก็ไปโหลดจากเว็บต่างประเทศมา ซึ่งผมจำไม่ได้จริงๆ ว่าอันไหนโหลดที่ไหนบ้าง ยังไงผมก็ขอขอบคุณเจ้าของผลงาน และเพื่อนๆ ที่เอาอ็อบเจ็คท์ต่างๆ มาฝากไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ พวกคุณทำให้ผมสนุกกับเดอะซิมส์ขึ้นมากเลย ขอบคุณมากๆ เลยครับ
และที่สำคัญ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะครับ หวังว่าคงติดตามกันต่อไป สำหรับโพสประเดิมชัยครั้งแรกนี้ ขอจบเพียงเท่านี้แหละครับ แล้วพบกันใหม่เร็วๆ นี้ครับ
