สวัสดีค่ะ รู้สึกยินดีอย่างมากวันนี้ พอดีเราก็เล่นเกมนี้อยู่ด้วยและเข้าเว็บบอร์ดนี้บ่อยๆ แต่ว่าวันนี้เราไม่ได้ตั้งใจเข้าบอร์ดเลย
เรากำลัง google เสิร์ชหาเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้า ก็มาเจอกระทู้การเผยแพร่ อยู่บ้าง ยังขำๆกับตัวเองเลยว่า พระเจ้าทรงนำเรามาหรือเปล่า ปกติตอนเราเล่นอยู่ไม่ยักเจอ

ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกท่านนะคะ


กระทู้นี้ตั้งมาด้วยความตั้งใจจริงของเราที่จะบอกเล่า พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอด หากใครมีคำถามอะไร สามารถถามได้
หากเราตอบได้เรามีความยินดีมากที่จะตอบค่ะ หากเราไม่ทราบคำตอบ เราจะเร่งหาคำตอบมาให้


ดังในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล พระเยซูคริสต์ทรงกล่าวว่า

เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้รับ คนที่แสวงหาก็พบ และคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา
มัทธิว 7:8


ส่วนเรื่องบทเพลงที่เราจะนำมาลงมีทั้งเพลงของคริสเตียนและคาทอลิก เพลงแรกที่เราจะโพสต์ในวันนี้คือ Awesome God ค่ะ
แต่เวอร์ชั่นที่เรานำมาโพสต์นี้ เป็น เวอร์ชั่นร้อง ซ้ำไปซ้ำมาของ Hillsong United ยิ่งใหญ่มากค่ะ ทุกคนร่วมใจกัน สรรเสริญพระเจ้า

Hillsong United เป็นวงคริสเตียน สายเพนเตคอส ที่ดังมาก



เนื้อร้องค่ะ

our God is an awesome God
He reigns from heaven above with wisdom power and love
our God is an awesome God

สาวกของพระเยซูเมื่อท่านเดินทางไปประกาศ ในต่างแดน ได้โดนจับขังคุก แม้แต่ในคุก ท่านยังสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

ประมาณเที่ยงคืนเปาโลกับสิลาสก็อธิษฐานและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นักโทษทั้งหลายก็ฟังอยู่
กิจการ 16:25

รูปวาด The light of the world

เป็นรูป พระเยซูคริสต์ ทรงถือตะเกียงกำลังเคาะประตูบ้านมืดๆ อยู่ ผู้วาดจงใจไม่วาด ลูกบิดประตูลงไป เนื่องจากต้องการจะสื่อปริศนาธรรมว่า
พระคริสตเจ้าทรงมาเคาะประตูอยู่ บ้านก็เปรียบเสมือนใจของคนเรา เราจะเปิดใจรับพระองค์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอำเภอใจของเราเอง
ประตู จะเปิดได้จากด้านในเท่านั้น พระองค์นำแสงสว่างมาให้แก่บ้านหลังนั้น

ดังข้อพระคัมภีร์ในพระธรรมวิวรณ์ว่า

ดูเถิด เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเรา และเปิดประตู เราจะเข้าไปหาผู้นั้น และจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา และเขาจะรับประทานอาหารร่วมกับเรา

วิวรณ์ 3:20

เพลง take heart ในอัลบั้มใหม่ของ Hillsong United ค่ะ แนะนำให้ใส่หูฟังนะคะ เพราะจะได้ยินดนตรีชัดมาก คลิปที่เรานำมาโพสต์เป็นแบบมีเนื้อร้องด้วยค่ะ

ด้านล่างเป็นเนื้อร้อง ท่อนแรก ที่เป็นท่อนโปรดเราค่ะ

There is a light มีแสงสว่างหนึ่ง
It burns brighter than the sun แสงนั้นส่องเรืองรองยิ่งกว่าดวงอาทิตย์
He steals the night พระองค์เป็นนายเหนือยามค่ำคืน
And casts no shadow ไร้เงามืดใดๆ (เพราะความสว่าง :D)


Jesus is the light of the world...

เทิดทูนพระบิดา !

ปล. เรา ศาสนาพุทธ แต่คลั่งไคร้อะไรเกี่ยวกับคริสต์มาก ! เราชอบไปโบสถ์นะอยากท่องบทสวด ร้องเพลงอะไรงี้, แต่ก็ทำไม่ได้

สวัสดีต้นเดือนค่ะ :) วันนี้ตามหัวข้อเลย จะมาแชร์เรื่อง "ความรักค่ะ" ในทรรศนะของคริสตศาสนา

เราจะเริ่มจากข้อพระคัมภีร์ โครินธ์ นะคะ เราเชื่อว่า หลายคนคุ้นเคยกัน พระคัมภีร์ข้อนี้แน่นอนค่ะ

ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง

1 โครินธ์ 13:4-7


พระคัมภีร์ สอนเรา ถึง การรักที่สมบูรณ์ รักที่แท้จริงและอยู่ในน้ำพระทัยของพระเจ้าและ คำจำกัดความนี้ ไม่ได้หมายถึงความรักแบบหนุ่มสาวเท่านั้น แต่หมายถึง ความรักต่อทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม อีกทั้งยังสอนให้เราเป็นผู้อดทน อดทนที่ว่า คือ รู้จักยังยั้งชั่งใจ คิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะหากเราไม่อดทนและคิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียวแล้วนั้นปัญหาย่อมตามมาแน่นอนค่ะ


พระเยซูเจ้าได้ทรงตรัสถึงความรักไว้มากมายในพระคัมภีร์ เราจะยกตัวอย่าง เป็นบางเรื่องนะคะ
เรื่องแรกคือ เมื่อพระเยซูเสวยพระกายาหารค่ำมื้อสุดท้าย (The last supper) พระองค์ได้ตรัสแก่เหล่าสาวกว่า

เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลายคือให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น ถ้าเจ้าทั้งหลายรักกันและกัน ดังนี้แหละคนทั้งปวงก็จะรู้ได้ว่าเจ้าทั้งหลายเป็นสาวกของเรา

ยอห์น 13:34-35


เรื่องที่สอง มีครั้งหนึ่งพวก ฟาริสี เห็นว่าคำเทศนาของพระเยซูเจ้านั้นทำให้ พวก สะดูสีนึ่งอึ้งได้ จึงต้องการที่จะทดสอบพระเยซูเจ้า
มีใจความดังนี้

แต่พวกฟาริสีเมื่อได้ยินว่าพระองค์ทรงกระทำให้พวกสะดูสีนิ่งอั้นอยู่ จึงประชุมกัน มีบาเรียนผู้หนึ่งในพวกเขาทดลองถามพระองค์ว่า
อาจารย์เจ้าข้า ในพระราชบัญญัตินั้น พระบัญญัติข้อใดสำคัญที่สุดพระเยซูทรงตอบเขาว่า `จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของเจ้า ด้วยสุดจิตสุดใจของเจ้า และด้วยสิ้นสุดความคิดของเจ้า นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อใหญ่และข้อต้น ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ `จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง' พระราชบัญญัติและคำพยากรณ์ทั้งสิ้นก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้"


มัทธิว 22:34-40

*** ขออธิบายนิดหนึ่งเผื่อ งง กลุ่มทางศาสนาของยิวตอนนั้นแบ่งเป็น 2 พวกใหญ่ๆคือ 1.ฟาริสี และ 2.สะดูสี นะคะ พวกเขาไม่ค่อยยอมรับพระเยซูเข้าและหาทางทดสอบเสมอ

พระเยซูเจ้าสอนให้เรารักและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แสดงความรักแบบพระเจ้า ผ่านทางเรา เพื่อที่เขาจะได้รับรู้ว่า เราเป้นสาวกของพระองค์ ตามแนวทางของพระองค์ :))

พระเจ้าอวยพระพรทุกคนค่ะ

ปิดท้ายด้วยเพลง เพราะๆ เกี่ยวกับความรัก