สมควรที่จะให้ประชาชนชาวไทยได้ทราบโดยทั่วกัน...ดังนี้
1. อาชญากรชาวไทยร้อยละ 98 นิยมบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก เป็นไปได้หรือไม่ว่าในข้าวจะมีสารสำคัญบางชนิด เช่น complex carbohydrate จะมีฤทธิ์กระตุ้นต่อมจริตคิดร้าย (น่ากลัวมาก)
2. เยาวชนไทยร้อยละ 50 ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวที่กินข้าววันละ 3 มื้อ มีผลการเรียนอยู้ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกึ่งกลางในชั้นเรียน
3. ในช่วงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งยังไม่มีหม้อหุงข้าไฟฟ้าการหุงข้าวอย่างเปิดโล่งที่ชานเรือน
และไอจากหม้อหุงข้าวสามารถแผ่กระจายไปทั่วบ้านเรือนพบว่า อายุฉลี่ยของคนในยุคนั้นไม่เกิน 45 ปี ผิดกับคนรุ่นใหม่ที่หุงข้าวในภาชนะที่ปิดมิดชิด มีอายุเฉลี่ย ถึง 75 ปี
4.การฉกชิงวิ่งราวและการปล้นสดมภ์มักเกิดภายหลังการรับประทานข้าวไม่เกิน24ชั่วโมง
5. ผู้วิจัยได้ทดลองกรอกปากหนูทดลองด้วยข้าวสาร 1กิโลกรัมต่อตัว ปรากฏว่าหนูทดลองตายเรียบ เรื่องนี้น่าวิตกมาก เพราะประชากรไทยบริโภคข้าวสารถึงปีละ 100 กิโลกรัมต่อคน
6.จากการสำรวจอย่างคร่าวๆพบว่า คนไทยที่กินข้าวทุกคนจะเสียชีวิตภายใน 7 วัน ระหว่างวันอาทิตย์ถึงวันเสาร์)
7.จากบันทึกของชาวถ้ำโบราณ ที่ยังไม่รู้จักปลูกข้าวอาศัยหัวเผือกหัวมันเป็นอาหาร พวกเขาไม่เคยป่วยหรือเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางเครื่องบินและโรคเอดส์เลยแม้แต่คนเดียว
8.ผู้วิจัยสามารถพิสูจน์ได้ว่า ข้าวมีฤทธิ์เป็นยาเสพติด โดยอาสาสมัครที่อดกินข้าว 12 ชั่วโมง
จะมีอาการคล้ายกับคนลงแดง คือ หงุดหงิด น้ำกรดในกระเพาะหลั่งมาก หากไม่ได้ เสพข้าวเป็นเวลานาน
อาจอ่อนเพลีย ตาขวาง พูดคำหยาบ และพยายามแหกกรงออกมาหาข้าวรัประทานบางรายถึงขนาดร้องขอข้าวกินอย่างไม่ละอายต่อบาปกรรม
9. ข้าวเป็นพาหะนำสารอื่นๆที่อันตรายมากเข้าสู่ร่างกาย เช่น ขาหมู เนื้อย่าง แกงส้มไข่เจียว และอื่นๆ
10. ประชาชนที่กินข้าวติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะขาดความสามารถในการแยกแยะว่างานวิจัยชิ้นใด...น่าเชื่อถือ งานวิจัยชิ้นใด...ไร้สาระ หลอกหลวงประชาชน
![](image/emo/emo_oni002.gif)
![](image/emo/emo_oni002.gif)
เครดิต
![](image/emo/emo_http.gif)