พริม พี่ขอเมลพริมอีกทีได้ปะ หาไม่เจอแล้วอะ
วันนี้โดดงาน1วันค่ะ เพราะอาทิตย์ที่แล้วทำงาน7วันเลย
แต่ก็ไม่ได้พักสบายหรอกค่ะ งานบ้านรออยู่เพียบเลย
*
สาม ฉลามน่ากลัวมากกกก
กลับมาเล่าตำนานเทพต่อดีกว่า
เทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) ตามคำขอของ
ป้าค่ะ
เทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) หรือ วีนัส (Venus) เทวีครองความรัก และ ความงาม อโฟรไดท์ (อังกฤษ: Aphrodite; ละติน: Venus) เป็นเทพเจ้ากรีกแห่งความรัก, ความปรารถนา, และความงาม ชื่ออื่นๆ ที่เรียก “ไคพริส” (Kypris) “ไซธีเรีย” (Cytherea) ตามชื่อสถานที่ ไซปรัส และ ไซธีรา ซึ่งเชื่อว่า เป็นที่เกิดของอโฟรไดท์ สิ่งศักดิ์สิทธิของอโฟรไดท์ ได้แก่ ต้นเมอร์เติล (Myrtle), นกพิราบ, นกกระจอก และ หงส์
เทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) หรือ วีนัส (Venus) เป็น เทวีแห่งความรัก และความงาม สามารถสะกดเทพ และ มนุษย์ทั้งปวง ให้ลุ่มหลง ทั้งอาจจะลบสติปัญญาของผู้ฉลาดให้ตกอยู่ในความโฉดเขลาไปได้
หากจะสืบสาวต้นกำเนิดของอโฟรไดท์ ที่อาจต้องสืบสาวไปไกลกว่าตำนานของกรีกเสียอีก เนื่องจากเทวี มีต้นกำเนิด มาจากดินแดน ซีกโลกตะวันออก ว่ากันว่าท่านเป็นเทวีองค์แรกเริ่ม ของชนชาติฟีนีเซีย ที่มาตั้งอาณานิคมมากมาย ในดินแดนตะวันออก แถบตะวันออกกลาง ทราบกันมาว่า เทวีอโฟร์ไดท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเทวี ของชาวอัสสิเรีย กับบาบิโลเนีย ที่มีนามว่า อีชตาร์ (Ishtar) และก็ยังเป็น อันหนึ่งอันเดียวกับ เทวีของชาวไซโร-ฟีนิเซี่ยน ผู้มีนามกรว่า แอสตาร์เต (Astarte) จึงนับได้ว่าเป็น เทวีที่มีความสำคัญมาก มาแต่ดึกดำบรรพ์
ตามมหากาพย์อิเลียดของโฮเมอร์ เทวีอโฟรไดท์ ที่เป็นเทพธิดาของซุส เกิดกับนางอัปสร ไดโอนี (Dione) แต่บทกวีนิพนธ์ ชั้นหลัง ๆ กล่าวว่า เทวีผุดขึ้นจากฟองทะเล เนื่องจากคำว่า Aphros อันเป็นที่มาของชื่อเทวี ใน ภาษากรีกแปลว่า "ฟอง" แหล่งกำเนิดของเทวีอยู่ในทะเลแถว ๆ เกาะ ไซเธอรา (Cythera) จากนั้น เทวีก็ถูก คลื่นซัดไปจนถึงเกาะ ไซพรัส (Cyprus) ด้วยเหตุนี้ เกาะทั้งสองจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวกับ เทวีอโฟรไดท์ และบางทีเทวีก็มีชื่อเรียก ตามชื่อเกาะทั้งสอง นี้ว่า ไซเธอเรีย (Cytherea) และ ไซเพรียน (Cyprian)
ตามเรื่องที่เล่ากันแพร่หลายกล่าวว่า เมื่อเทวีอโฟรไดท์ ถูกคลื่นซัดไปติด ณ เกาะไซพรัส นั้น ฤดูเทวี ผู้รักษาทวาร แห่งเขาโอลิมปัส ลงมารับพาเทวีอโฟรไดท์ ขึ้นไปยังเทพสภา เทพทุกคนในที่นั้นต่างตะลึง ในความงามของเทวี และ ต่างองค์ต่างก็อยากได้มา่เป็นคู่ครอง แม้แต่ซุสเองก็อยากจะได้ แต่เทวีไม่ยินดีด้วย ซุสจึงโปรดประทาน เทวีให้แก่ ฮีฟีสทัส (Hephaestus) เป็นบำเหน็จรางวัลทดแทนความชอบ ในการที่ฮีฟีสทัส ประกอบ อสนียบาต ถวาย และ เป็นการลงโทษ เทวีในเหตุที่ไม่ไยดีซุสไปในตัวด้วย เพราะฮีฟีสทัส เป็นเทพพิการ แต่เทพองค์แรกที่เทวีพิศวาส และร่วมอภิรมย์ด้วยกลับเป็น เอรีส (Ares) หรือ มาร์ส (Mars) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสงคราม ซึ่งได้เป็นชู้สู่หากับเทวี อโฟรไดท์ จนให้ประสูติบุตรสอง ธิดาหนึ่งรวมเป็นสาม มีนามตามลำดับว่า อีรอส (Eros) หรือ คิวพิด (Cupid) แอนติรอส (Anteros) และ เฮอร์ไมโอนี (Hermione) หรือ ฮาร์โมเนีย (Harmonia) นางเฮอร์ไมโอนีนั้นได้วิวาห์กับ แคดมัส (Cadmus) ผู้สร้างเมืองธีบส์ ซึ่งเป็นพี่ของนางยุโรปา ผู้ถูกซุสลักพาไป เป็นคู่ร่วมอภิรมย์
เรื่องราวความรัก ของเทวีแห่งความงาม และความรักอโฟร์ไดท์ ไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เทวีได้หว่าน เสน่ห์ไปทั่ว ไม่ว่าเทพ หรือ มนุษย์ อาทิเช่น การมีจิตปฏิพัทธ์ เสน่หากับ เทพเฮอร์มีส จนเกิดมีโอรสองค์หนึ่งนามว่า เฮอร์มาโฟร์ดิทัส (Hermahroditus) ในด้านของมนุษย์ เทวีอโฟร์ไดท์ ยังเคยแอบไปมี จิตพิศวาส กับบุรุษเดินดิน เช่น ไปชอบพอกับ เจ้าชายชาวโทรยัน นามว่า แอนคิซีส (Anchises) จนมีโอรสครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ออกมานามว่า เอนิแอส (Aenias) ผู้เป็นต้นตระกลูของชาวโรมันทั้งหมด
ที่อื้อฉาวฮือฮามากที่สุดได้แก่ การไปแอบรัก สุดหล่อแห่งยุคคือ อโดนิส ในกาลวันหนึ่ง เทวีอโฟรไดท์ เล่นหัวหยอกเอินอยู่กับอีรอส บังเอิญถูกศร ซึ่งอีรอสถืออยู่สะกิดเอาที่อุระ ถึงแม้ว่า จะเป็นแผลเพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็นการเพียงพอที่จะทำให้เจ้าแม่ตกอยู่ในอำนาจพิษศรของบุตรได้ ยังมิทันที่แผลจะเหือดหาย เทวีก็ได้พบกับ อโดนิส (Adonis) มานพหนุ่มพเนจรอยู่ในราวป่า ให้บังเกิด ความพิสมัย จนไม่อาจระงับ ยับยั้งอยู่ในสวรรค์ได้ เทวีจึงลงมาจากสวรรค์ มาพเนจรตามอโดนิส หมายที่จะได้ใกล้ชิด ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะไป ทางไหนทวี ก็จะตามไปด้วย เทวีอโฟรไดท์หลงใหล และ เป็นห่วงอโดนิส จนไม่เป็นอันระลึก ถึงสถานแห่งหนึ่งแห่งใด ที่เคยโปรด เที่ยวติดตาม อโดนิส ไปในราวป่าคอยตักเตือน และ กำชับอโดนิส ในเวลาล่าสัตว์ มิให้หักหาญ เสี่ยงอันตรายมากนัก ให้หลีก เลี่ยงสัตว์ใหญ่ ล่าแต่สัตว์เล็ก ชนิดที่พอจะล่าได้เท่านั้น ตลอดเวลาที่เฝ้าติดตาม เทวีพะเน้าพะนอเอาใจ อโดนิส ด้วยประการ ทั้งปวง แต่ความรักของเทวีที่มีต่ออโดนิส เป็นความรักข้างเดียว เจ้าหนุ่มหาได้รักตอบไม่ ชะรอย เป็นเพราะอีรอสมิได้แผลงศรรัก กับเจ้าหนุ่มด้วยกระมัง ด้วยเหตุนี้อโดนิสจึงไม่แยแส ต่อคำกำชับตักเตือนของเทวี คงเที่ยวล่าสัตว์ใหญ่น้อยเรื่อยไป ตามใจชอบ วันหนึ่งเทวีอโฟรไดท์ มีธุระต้องจากไป จึงทรงเทพยานเทียมหงส์เหิน เหาะไปในนภากาศ ฝ่ายอโดนิสพบหมูป่าแสนดุร้ายเข้าตัวหนึ่ง (บางตำนานเล่าว่าหมูป่าตัวนี้ เกิดจากเสกจำแลงของ เทพเอเรส เนื่องจากหึงหวงความรัก ที่เทวีอโฟรไดท์มีให้แก่ อโดนิส) และ ตามล่ามันไปจนหมูป่าจนมุมแล้ว อโดนิสก็ ซัดหอกไปถูกหมูป่า แต่หอกพลาดที่สำคัญ หมูป่าได้รับความเจ็บปวด จึงเพิ่มความดุร้ายยิ่งขึ้น จึงรี่เข้าขวิดอโดนิส ล้มลงถึงแก่ความตาย
เทวีอโฟรไดท์ ได้สดับเสียงร้องโอดโอยของ อโดนิส ในกลางหาวผินพักตร์มาเห็นดังนั้น จึงชักรถเทียม หงส์กลับลงมา ยังพื้นปฐพี และลงจากรถเข้าจุมพิต อโดนิสซึ่งกำลังจะสิ้นใจ ครั้นแล้วเจ้าแม่ก็ครวญคร่ำรำพันพิลาปพิไร ด้วยสุดแสน อาลัยรัก ตามวิสัยผู้ที่คลุ้มคลั่ง เทวีรำพันตัดพ้อ เทวีครองชะตากรรม ที่ด่วนเด็ดชีวิต ผู้เป็นที่รัก ให้พรากจากไป ประดุจควัก ดวงเนตร ออกจากเจ้าแม่ก็ไม่ปาน พอค่อยหายโศกแล้ว เจ้าแม่จึงเอื้อนโอษฐ์ออกปณิธานว่า "ถึงมาตรว่า ดังนั้นก็อย่าหมายเลยว่า ผู้เป็นที่รักแห่งข้าจะต้องอยู่ ในยมโลกตลอดกาล หยาดโลหิต ของอโดนิสแก้วตาข้า จงกลายเป็น บุปผชาติชนิดหนึ่ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ความโศกของข้า ให้ข้าได้ระลึก ถึงวาระเศร้าสลดครั้งนี้ เป็นประจำปีเถิด" เมื่ออกปณิธานดังนั้นแล้ว เทวีก็พรมน้ำ ต่อเกสรอันศักดิ์สิทธิ์ลงบนหยาดโลหิตของอโดนิส บัดดล ก็มีพันธุ์ไม้ดอกสีแดงเลือด ดังสีทับทิมผุดขึ้น ดังมีชื่อเรียกกันสืบๆ มาว่า ดอกอโดนิส หรือ ดอกเออะเนมโมนิ (Anemone) แปลว่า ดอกตามลม (บางตำนานว่าก็คือ ดอกกุหลาบนั่นเอง)
แรกเริ่มเดิมที ก่อนที่จะกลายเป็น เทวีแห่งความงาม และ ความรักนั้น อโฟร์ไดท์ เป็นเทวี แห่งความสมบูรณ์มาก่อน เมืองที่นับถือเทวีมากที่สุดได้แก่ เมืองปาฟอส ในไซปรัส และเมืองไซธีรา ในเกาะครีต นอกจากนั้น วิหารที่เล่าลือ ว่าโอ่อ่าที่สุดของซีกโลก ทางด้านตะวันออกได้แก่ วิหารที่เมืองคนิดุส ในรัฐแคเรีย (Caria) เมื่อเดินทางมาถึง กรีกก็มีผู้ศรัทธาเชื่อถือสร้างวิหารใหญ่ให้หลายแห่ง รวมทั้งกรุงเอเธนส์ซึ่งมีเทวีเอเธน่าเป็นเทพอุปถัมภ์ อยู่บน เนินอโครโปลิส ได้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทวีที่ชาวกรีก และโรมันโบราณ ถือว่าเกี่ยวข้อง กับความเป็นอยู่ ของมนุษย์ มากที่สุด เนื่องจากเทวี เป็นเทวีครองความรักและความงาม และความงามกับความรัก ก็เป็นสิ่งที่จับใจคน มากกว่า เรื่องอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ เทวีจึงมักเป็นที่เทิดทูน และกล่าวขวัญในวิจิตรศิลป์และวรรณคดีต่าง ๆ นอกจากนั้น ชาวกรีก และโรมัน ยังถือว่าเทวี เป็นเทวีครองความมีลูกดก และการให้กำเนิดทารกอีกด้วย
มีคติความเชื่อประการหนึ่ง ซึ่งอย่างน้อย ก็ยังพูดกันติดปากชาวตะวันตก มาจนถึงปัจจุบันนี้ว่า ทารกถือกำเนิด เพราะนกกระสานำมา คตินี้สืบเนื่องจาก ข้อยึดถือของชาวกรีกและโรมัน มาแต่เดิมเหมือนกัน ในเทพปกรณัม กล่าวว่า นกกระสาเป็นนกประกอบบารมี ของอโฟรไดท์ คราวใดมีนกกระสาผัวเมีย ไปทำรังอยู่บนยอดหลังคาบ้านใด ก็หมายความว่าเทวีอโฟรไดท์โปรดให้ครอบครัวในบ้านนั้นมีลูกและจะให้ประสบ ความรุ่งเรือง
ในยุโรป โดยเฉพาะภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ถือนกกระสาประหนึ่งที่เคารพทีเดียว ในเยอรมัน และเนเธอร์แลนด์ ถือว่านกกระสาเป็นนก ที่นำโชคลาภมาให้ ดังนั้นชาวเยอรมัน และวิลันดา จึงยินดีที่จะให้นกกระสา มาทำรัง บนหลังคาบ้านเสมอ ยิ่งอาศัยอยู่นานเท่าใด ก็ยิ่งเป็นมงคลแก่บ้านนานเท่านั้น นกกระสาจึงเป็นที่กล่าวขวัญถึง อย่างสำคัญ ตามเทพนิยาย นิทาน ชาวบ้าน และ นิทานเทียบสุภาษิตต่าง ๆ ของฝรั่งด้วยเหตุผลดังกล่าวมานี้
อนึ่งชาวยุโรปทั่วไปเชื่อกันมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษด้วยว่า ในคราวที่บ้านหนึ่งบ้านใดกำลังจะมีเด็ก เทวีอโฟรไดท์ จะให้นกกระสา มาบินวนเวียนเหนือบ้านนั้น คตินี้กินความไปถึงว่า ถ้านกกระสาบินวนเหนือบ้านที่กำลังจะมีเด็กเกิด เด็กคนนั้น จะคลอดออกจากครรภ์โดยง่าย และอยู่รอดด้วย แต่คตินี้ในที่สุดก็เป็นเพียงข้อ อ้างที่พ่อแม่ จะใช้ตอบลูกตอนโต ๆ เมื่อถูกถามว่าน้องเล็กเกิดมาแต่ไหน หรือตัวเกิดจากอะไรเท่านั้น
เทวีอโฟร์ไดท์มีต้นเมอร์เทิล เป็นพฤกษาประจำองค์ สัตว์เลี้ยงของเทวีเป็นนก บ้างว่าเป็นนกเขา นกกระจอกบ้าง หงส์บ้าง ตามแต่กวีคนไหนจะชอบใจยกให้เป็นสัญลักษณ์ของเทวีแห่งความงามและความรัก
ยาวจุใจกันพอรึยังเอ่ย แถมท้ายด้วยภาพของวีนัสกับอโดนิสค่ะค่ะ