555
พี่ตั้วจำได้ด้วยเรอะว่าหนูโพสรูปไว้หน้าไหน
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของพี่ตั้วมากเลย หากใครได้ศึกษาตำนานกรีกโรมัน-บ่อยๆ เราจะเจอพวกรักร่วมเพศล้นหลามทีเดียวค่ะ
*จะว่าไป
ภูมิกับต๊อบเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเราย้ายบ้านไวขึ้นนะ แฮ่มๆ 555
เช้านี้ก็ขอเล่าเรื่องรอ
ป้าเข้ามาอ่านค่ะ
เช้านี้จะมาขอเล่าเรื่องของ
นาร์ซิซัส หนุ่มรูปงามผู้หลงเงาค่ะ เรื่องนี้อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่จะขอเล่ายาวซักหน่อย เพราะมีหลายตำนานเหลือเกินค่ะ
ว่ากันว่า หนุ่มกรีกสมัยโบราณ ไม่มีใครรูปหล่อเกินนาร์ซีสซัส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวเขาเองที่รู้สึกเช่นนั้น แถมเค้ายังประกาศว่าเค้าจะแต่งงานกับคนที่หน้าตาดีกว่าเค้าเท่านั้น
ทุกเช้า สิ่งแรกที่นาร์ซีสซัสทำตอนตื่นขึ้นมาคือ ลุกขึ้นไปดูรูปตัวเองจากกระจกเงาบานใหญ่ ใช้มือเสยผมสีทองงามสลวยให้เข้ารูป หลิ่วตา ซึ่งมีสีฟ้างดงามให้กับตัวเอง บิดลำตัว แขน ขาเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อ พร้อมกับยิ้มด้วยความชื่นชมตนเองด้วยปากและฟันที่ขาวสะอาด จากนั้นจึงเปลี่ยนไปใส่ชุดเสื้อแขนสั้นรัดเอวยาวถึงเข่า และลงไปรับประทานอาหาร
พ่อแม่ของนาร์ซีสซัสต่างก็กลุ้มใจในความรูปงามจนเกินไปของลูกชาย แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะแม้จะอายุแค่ 16 ปี แต่ความรูปหล่อของเขาก็เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เด็กสาวๆ กว่าครึ่งเมืองดูเหมือนจะหลงรัก นาร์ซีสซัสกันทั้งนั้น แต่ปัญหาคือ เขาทะนงตนเองมาก ไม่เคยทอดไมตรีให้กับผู้ใด ผู้หญิงจึงอกหักกันเป็นแถว
เด็กสาวคนหนึ่ง ประกาศว่าจะฆ่าตัวตาย ถ้านาร์ซีสซัสไม่แสดงความไยดีตอบต่อเธอบ้าง พอนาร์ซีสซัสรู้เข้าก็ส่งดาบเล่มหนึ่งไปให้เธอทันที เป็นผลให้เด็กสาวที่น่าสงสารใช้ดาบเล่มนั้นฆ่าตัวตายสมใจ นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการหยิ่ง ทะนงตนของนาร์ซีสซัส
ไม่เพียงแต่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาเท่านั้นที่หลงใหลคลั่งไคล้ในความรูปหล่อของนาร์ซีสซัส แม้กระทั่งพวกผีสางนางไม้ เทพธิดาที่อารักขาภูเขา แม่น้ำ ป่าไม้ฯลฯ ยังพลอยมาหลงรักเขาด้วย
เช่นเทพธิดาองค์หนึ่ง ชื่อเอคโค่ ที่หลงรักนาร์ซีสซัส และเป็นการทำผิด ร้ายแรงครั้งที่ 2 ของเธอ
ซึ่งเรื่องของเอคโค่ หนูจะขอกล่าวในเร็ปถัดๆไปค่ะ
เทพแห่งความรักแอฟโฟไดไม่พอใจที่นาร์ซิสซัส หลงตัวเองว่าหล่อที่สุด และดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น จึงสาปให้ตกหลุมรักตัวเอง...
บางตำราก็กล่าวว่า ผู้ที่เป็นคนสาปนาร์ซิสซัส คือ เทพีเนเมซิส ซึ่งเป็นเทพีแห่งบ่วงกรรมและการลงทัณฑ์ค่ะ
ฝ่ายนาร์ซิสซัสรูปงามนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าตัวเองโดนอะโฟรไดท์สาปเข้าเต็มๆ เมื่อเดินทางมาถึง
ลำธารใสสะอาดก็ก้มลงหวังจะวักน้ำล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แต่พลันสายตาของเขาก็ไปสบกับดวงตาของชายหนุ่มที่
รูปงามที่สุดเท่าที่เขาจะจินตนาการได้ นาร์ซิสซัสยิ้มให้ชายหนุ่มซึ่งเขาก็ยิ้มตอบมาด้วยรอยยิ้มละไมเช่นกัน ความรัก
นั้นก็บังเกิดขึ้นเต็มใจของนาร์ซิสซัส เขายื่นแขนออกไปหมายจะโอบกอดชายรูปงามเบื้องหน้า แต่ทว่าเมื่อมือของเขา
สัมผัสกับผิวน้ำ ภาพชายหนุ่มก็หายไปและกลับคืนมาเมื่อน้ำเรียบสงบดังเดิม
ผลจากคำสาปทำให้นาร์ซิสซัสเฝ้ามองชายในน้ำโดยไม่รู้ว่าเป็นเงาของตน เขาไม่ยอมกินยอมนอนและคอย
จะโอบกอดชายรูปงามที่เขาแสนรักอีก แต่ผลก็เป็นเหมือนเดิม
จนในที่สุด หนุ่มรูปงามผู้นี้ก็สิ้นใจลงข้างลำธารนั่นเอง ร่างของเขากลายเป็นดอกไม้ที่งดงามริมน้ำ ราวกับว่า
คอยชะโงกดูเงาของตน และเพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อชายหนุ่มผู้งดงาม จึงเรียกดอกไม้นี้ว่า นาร์ซิสซัส หรือ ดอก แดฟโฟดิลนั่นเองค่ะ
บางตำรากล่าวว่าเทพีอโฟรไดร์เกิดสงสารเลยเนรมิตร่างของเขาให้กลายเป็นดอกไม้นั่นเอง
บางตำนานเล่าว่า...นาซิสซัสมีน้องสาวฝาแฝดที่แต่งตัวเหมือนกันทุกอย่าง และนาซิสซัสรักแฝดผู้น้องมาก เมื่อน้องสาวตายจึงได้ฆ่าตัวตายตาม และเสแสร้งว่า นาซิสซัสเห็นภาพสะท้อนของน้องสาวในน้ำ
ส่วนอีกตำนานเล่าว่า...Ameinias ชายหนุ่มที่หลงรักนาซิสซัส แต่นาซิสซัสกับดูถูกความรักนั้น และยื่นดาบให้ Ameinias เขาจึงฆ่าตัวตายและสวดอ้อนวอนให้เทพ Nemesis ดลบันดาลให้นาซิสซัสได้รู้จักความเจ็บปวดของความรักที่ไม่สมหวัง ....นาซิสซัสจึงต้องคำสาปนี้ ....เมื่อพบหนุ่มรูปงามในน้ำจึงหลงรัก และฆ่าตัวตายเมื่อไม่อาจได้รับรักตอบแทน
ว่ากันว่าคำสาปนี้ติดตัวนาร์ซิซัสไปถึงยมโลกด้วย เพราะระหว่างที่เค้ากำลังนั่งเรือแจวของคารอนผู้ส่งวิญญาณข้ามแม่น้ำยมโลก นาร์ซิซัสก็ยังไม่วายชะโงกมองเงาตัวเองที่อยู่ในน้ำ
สรุปว่าไม่ว่าจะตำราไหน นาร์ซิซัสก็ตายเพราะความมาดแมน Handsome ของตัวเอง
นอกจากนี้ คำว่า Nacissism ซึ่งมีความหมายถึงคนที่หลงตัวเองมากๆ จนเป็นปมนาร์ซีสซัสในเวลาต่อมา ก็มาจากคำว่า Narcissus นั่นเองค่ะ
โอ้วยาว ตาแฉะกันเลยมั้ยคะเนี่ย เอารูปนาร์ซิซัสผู้หลงเงามาให้ดูกันค่ะ