สูตรไก่ KFC ทำเองง่ายๆ
ภาพใหญ่หน่อย

เครื่องปรุงจะบอกตามวิธีๆไป
CD : annisaa มาเริ่มกันเลย ล้างเลือดกับเศษเครื่องในที่ติดอยู่ออกให้หมด แล้ววางไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ ในการทำครั้งนี้ ใช้สะโพก ๒ ชิ้น กับปีกไก่อีก ๓ ชิ้น
แล้วเราก็จัดการทำน้ำเกลือหมักไก่กันค่ะ เครื่องปรุงไม่มีอะไรเลย ใช้เกลือป่นสักช้อนโตๆ ผสมกับน้ำซักประมาณ ๑/๒ ลิตรหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ถ้าไก่น้อยชิ้นค่ะ
เอาไก่ที่จะทอดลงไปแช่ในน้ำเกลือไว้ประมาณ ๑๐-๒๐ นาทีนะคะ เพื่อเพิ่มรสชาติให้ไก่อีกหน่อย ถ้าเราเอาไก่ไปทอดเลย มันจะจืดไปหน่อย เพราะไก่ไม่มีรสชาติอะไรเลย แต่ถ้าจะเอาเกลือทาไก่ ก็เกรงว่าจะเค็มเกินไป ใช้วิธีแช่น้ำเกลือแบบนี้แหละค่ะ กำลังพอดี
แล้วก็เตรียมน้ำมันสำหรับทอดไก่ค่ะ ใช้น้ำมันพืชอะไรก็ได้ พอท่วมไก่ ไม่เช่นนั้นทอดแล้วไก่ไม่สวย และสุกไม่ทั่วกัน เพื่อนๆจะใช้กระทะ ใช้หม้อไฟฟ้า หรือภาชนะอะไรทอดก็ตามสะดวกนะคะ แต่ต้องใส่น้ำมันให้พอท่วมไก่ แต่อย่าให้เกิน ๒ ใน ๓ ของภาชนะที่ใช้ทอดนะ ไม่งั้นน้ำมันจะล้นและกระฉอกออกมาเลอะเทอะครัวค่ะ ใช้ไฟแรงสุดเลยนะคะ
จากนั้นมาจัดการกับไก่กัน หาผ้าสะอาดมา ๑ ผืน ใช้ tea towel นั่นแหละค่ะ เหมาะที่สุด เอาไก่ที่เราแช่น้ำเกลือไว้แล้วมาวางบนผ้า แล้วซับให้แห้งค่ะ
ซับให้แห้งประมาณนี้
ได้ไก่แล้วคราวนี้เราก็มีเตรียมแป้งทอดกัน เครื่องปรุงไม่มีอะไรมากมายเลย มีแค่แป้งสาลี เอาแบบที่มีในบ้าน
เริ่มจากใช้ช้อนกินข้าวตักแป้งใส่ชามใบโตๆหน่อย วันนี้ทอดสะโพกไก่ติดน่อง ๒ ชิ้น กับปีกไก่อีก ๓ อัน
ใช้ช้อนตักแป้งสาลีพูนๆแบบนี้มา ๓ ช้อน ใส่ชามผสมรอไว้ก่อน
แล้วใช้ช้อนคันเดิมตวงเกลือกับพริกไทยป่น กะประมาณนี้นะคะ อย่างละประมาณ ๑/๓ ก็พอค่ะ แต่ถ้าใครชอบกลิ่นพริกไทยเยอะๆ ใส่เพิ่มไปอีกก็ได้นะคะแต่ถ้าจะไม่ใส่ รสชาติมันก็จะอ่อนไป ส่วนรสเค็มนั้น สามารถเพิ่มได้อีกนิดหน่อยถ้าชอบรสจัดกว่านี้
ผสมแป้ง เกลือ และพริกไทย ให้เข้ากันแบบนี้นะคะ ตรงนี้ถ้าใครชอบไก่ทอดที่ออกรสเผ็ดแบบแม็กซิกัน จะใส่พริกปราปริก้าป่น สีแดงๆ เพิ่มลงไปก็ได้ค่ะ เราก็จะได้ไก่ทอดรสเผ็ด
นอกจากแป้งแล้ว ส่วนผสมอีกอย่างหนึ่งก็คือไข่ค่ะ ถ้าฟองเล็กหน่อยก็ ๓ ฟอง ตีรอไว้ก่อน เหมือนเรากำลังจะเจียวไข่น่ะค่ะ จำนวนไข่กะเอาตามจำนวนไก่ที่จะชุบนะคะ กะว่าให้พอชุบไก่ติดจนหมดก็แล้วกัน
เตรียมเครื่องปรุงพร้อมแล้ว ลองเช็คดูน้ำมันหน่อยค่ะว่าร้อนหรือยัง ต้องให้ร้อนจัดๆเลยนะคะ พอน้ำมันร้อนแล้ว เราก็มาจัดการชุบไก่กันค่ะ นำไก่ที่ซับแห้งแล้วเอามาชุบแป้งก่อนครั้งหนึ่ง พยายามเอาแป้งโรยให้ทั่วชิ้นไก่นะคะ
จากนั้นจับขาไก่ยกขึ้น แล้วเคาะเบาๆ ให้แป้งที่ชุบไว้มันร่วงลงมา ก็จะเหลือแป้งติดที่ไก่แค่พอบางๆแบบนี้เท่านั้นค่ะ
จากนั้นก็เอาไก่ไปชุบไข่ค่ะ ชุบให้ไข่ติดทั่วๆเลยนะคะ เพราะถ้าชุบไข่ไม่ติด แป้งก็จะไม่ติดเหมือนกันค่ะ
ชุบไข่แล้วเอาไก่กลับมาชุบแป้งอีกครั้ง แป้งชุดเดิมที่ชุบครั้งแรกนี่แหละค่ะ จะเห็นว่าแป้งจะติดที่ชิ้นไก่มากกว่าเดิม นั่นเพราะว่าไก่เปียก เพราะผ่านการชุบไข่มาแล้วไงคะ ตอนที่เราชุบแป้งครั้งที่ ๒ นี่นะคะ ให้ชุบเอาตามชอบเลยค่ะ บางคนชอบกินแป้งทอดกรอบ ก็ชุบไปเยอะๆ ไม่ต้องเคาะออก แต่ถ้าชอบแป้งบางๆ ก็ชุบแต่พอบางๆก็พอ
ชุบประมาณนี้ค่ะ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
จากนั้นก็เอาไก่ลงทอดค่ะ เวลาเอาไก่ลงหม้อทอดนะคะ อย่าใส่ลงไปพรวดเดียวเลย ค่อยๆจุ่มไก่ลงไป แล้วดูว่าน้ำมันเดือดหรือเปล่า ถ้าน้ำมันเดือดแบบนี้ก็ค่อยๆหย่อนไก่ลงไปค่ะ
ใส่ไก่ลงไปแล้วน้ำมันต้องท่วมไก่แบบนี้นะคะ ไม่อย่างนั้นไก่จะสุกไม่เสมอกันและสีไม่สวย กระดำกระด่าง ไม่น่ากินค่ะ ต้องระวังอย่าโยนลงไปนะคะ เพราะถ้าโยนน้ำมันก็จะกระเด็น กระฉอกออกมาหมด แถมจะลวกมือเราเอาซะอีกแน่ะ
จะทอดไก่กี่ชิ้นก็จัดการชุบแล้วใส่ลงหม้อไปแบบนี้ค่ะ คอยดูด้วยนะคะ ต้องทอดไก่ให้พอดีกับน้ำมันและกับหม้อที่ใช้ทอด ใส่มากก็จะล้นหกเลอะเทอะอีก ถ้าแม่ครัวมือใหม่ใจไม่กล้าที่จะใช้มือจับก็ใช้ tong คีบไก่ค่อยๆหย่อนลงไปแทนนะคะ หรือจะเอาใส่ตะแกรงแล้วค่อยๆหย่อนลงไปแทน ข้อสำคัญอีกอย่างคืออย่าชุบไก่เตรียมไว้ล่วงหน้านะคะ จะทอดเมื่อไหร่แล้วค่อยชุบ เพราะไก่มีความชื้น ถ้าชุบแล้วไม่ทอดเลย แป้งชั้นนอกจะเปียก ทำให้ไม่กรอบค่ะ ชุบไป ทอดไป ดีที่สุดนะคะ เมื่อเอาไก่ลงทอดจนพอแล้ว ให้ลดไฟลงเหลือแค่ปานกลางค่ะ กะเวลาไว้ประมาณ 15 นาที
เตรียมถาด ปูกระดาษ kitcen towel เอาไว้ (กระดาษทิชชู่ ชนิดใหญ่ มีขายใน 7-11 ) เพื่อซับน้ำมันจากไก่ทอดด้วยค่ะ
ทอดไก่ไปแล้ว ๑๐ นาที เหลืออีกแค่ ๕ นาทีก็จะครบเวลาที่เราตั้งไว้ ไปดูซิว่าไก่เป็นอย่างไรบ้าง
สีเริ่มเหลืองสวยแล้วเห็นมั้ย แต่ใจเย็นๆก่อนนะ ไก่ยังไม่สุกดีหรอกค่ะ ถ้าเอาขึ้นตอนนี้ ไก่ข้างในก็จะยังมีเลือดแดงๆ กินไม่ได้ค่ะ
ครบ ๑๕ นาทีแล้ว ไก่ชุดแรกก็สุกกินได้แล้วค่ะ ตักขึ้นมาใส่ถาดที่รองกระดาษไว้ ซับน้ำมันเสียหน่อย ทิ้งไว้ซัก ๕ นาทีแล้วค่อยเอาไปเสริฟนะคะ ไก่จะได้สะเด็ดน้ำมันดี อันที่จริงจะทอดต่ออีกซัก ๕ นาที ให้ไก่เหลืองกว่านี้ก็ได้นะ