โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
✤▐ Black Shadow ll▐ ✤ Drama Scene◄ แสดงบทบาทดราม่าของคุณสิ (Comment #52/ประกาศผล #64)
kusomaho
#41
17-06-2014 - 23:26:56

#41 kusomaho  [ 17-06-2014 - 23:26:56 ]












ดันเบา ๆ ค่ะ





nongnew2006
#42
18-06-2014 - 17:39:45

#42 nongnew2006  [ 18-06-2014 - 17:39:45 ]







โหวดให้เรียบร้อยนะคะ ถูกใจไม่กี่set มีset ที่จะขอติเลยก็คือของ kawaiirei หุ่นยืน & tainakaritsu มายืนโพสท่า ? ฮ่าๆ อันนี้ก็ขอตินะคะ

สำหรับผลงานแต่คน ไม่มีใครนำเสนอในมุมมองที่ต่างออกไป หรือหาจุดพีคไม่ได้เท่าที่ควร -3-
แต่ถือว่าโอเคค่ะ /ปรบบมือ -3-


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2014-06-18 17:42:09
kusomaho
lllTHUNlll


อย่าลืมมารับรางวัลด้วยครับบบ -0-
Chompoococo
#43
18-06-2014 - 17:45:36

#43 Chompoococo  [ 18-06-2014 - 17:45:36 ]






กรี๊ดดด มาโหวตเเล้วค่าา เริ่ดเชิดๆทั้งนั้นนน

แต่ละคนสื่ออารมณ์ได้แตกต่างออกไปมากค่ะ แต่บางอันน่ากลัวเกิ๊น

ขอให้โชคดีนะคะทุกคนนน ไอเลิฟยู //ไม่เกี่ยว

kusomaho


บาย
kawaiirei
#44
18-06-2014 - 18:35:47

#44 kawaiirei  [ 18-06-2014 - 18:35:47 ]





จริงๆที่ถ่ายเป็นหุ่นโชว์เนี่ย ไม่ได้ขี้เกียจน้า(เผื่อมีคนคิดงั้น)ถ้าเป็นงั้นจริงคงไม่มีตัวประกอบแทรกด้วย แต่เข้าใจว่างานเรามันอาจจะไม่ได้แสดงแอคติ้งมาก(เพราะตอนถ่ายเราก้อคิดว่าเขาคือหุ่นที่เป็นหุ่นจริงๆจึงเริ่มมีชีวิตค่ะแต่ไม่ได้ซีเรียสน้าไงก้อได้ขอบคุณสำหรับคำติชมนะค้า >_<



ヴァンのワイフ
jaejongon
#45
18-06-2014 - 19:06:25

#45 jaejongon  [ 18-06-2014 - 19:06:25 ]




มาโหตวให้ทุกคนแล้วนะงับ
สวยๆทั้งนั้นเลย

kusomaho

kusomaho
#46
18-06-2014 - 20:19:36

#46 kusomaho  [ 18-06-2014 - 20:19:36 ]














Update 2014-06-18



ขอทำการแจ้งข่าวเนื่องจากว่าตอนนี้ผู้ร่วมลงคะแนนคุณ AomAom_55 (ขออนุญาตินะคะ)

ได้ทำการโหวตคะแนนไม่ครบถ้วนทั้ง 11 คน ซึ่งได้ทำงานแจ้งเตือนไปยัง pm เรียบร้อยแล้ว

ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างรอ pm ตอบกลับ แต่ถ้าหากว่าไม่มีข่าวจากคุณ aomaom

ทางกรรมการก็จะทำการตัดคะแนนส่วนที่คุณ aomaom ได้ลงไว้ออก

แล้วจะทำการคิดค่าเฉลี่ยใหม่สำหรับคนที่ได้ลงคะแนนไปแล้ว






------ ขอบคุณค่ะ ------






kusomaho
#47
19-06-2014 - 06:36:49

#47 kusomaho  [ 19-06-2014 - 06:36:49 ]













ดัน ๆ






แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2014-06-19 06:37:07

kusomaho
#48
19-06-2014 - 17:38:11

#48 kusomaho  [ 19-06-2014 - 17:38:11 ]













แอบดันเบา ๆ ยังโหวตกันได้นะคะ และปิดโหวตในวันพรุ้งนี้เวลาเที่ยงวันนะ~

สำหรับคะแนนส่วนของกรรมการนั้นได้ทำการลงเสร็จสิ้นแล้วเหลือแต่การเขียนข้อเสนอแนะ
และรวมคะแนนกับรายละเอียดยิบย่อยอื่น ๆ ค่ะ







kusomaho
#49
20-06-2014 - 12:06:38

#49 kusomaho  [ 20-06-2014 - 12:06:38 ]













xxx ปิดโหวตค่ะ xxx


ผลคะแนนรวมทั้งหมดจะมาภายในวันที่ 22 มิถุนายน รวมถึงข้อเสนอแนะต่าง ๆ และการมอบรางวัลด้วยค่ะ






แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2014-06-20 18:02:57

kawpun2535
#50
20-06-2014 - 13:10:23

#50 kawpun2535  [ 20-06-2014 - 13:10:23 ]






ก้มหน้ารับชะตากรรมค่ะ



กลับมาเห่อ thesims อีกครั้ง
maimaimai00
#51
21-06-2014 - 15:54:58

#51 maimaimai00  [ 21-06-2014 - 15:54:58 ]







ดันๆ


kusomaho
#52
21-06-2014 - 19:24:53

#52 kusomaho  [ 21-06-2014 - 19:24:53 ]
























สิ่งที่ให้ความสำคัญอย่างมากไม่ต่างจากเกณฑ์การให้คะแนนทั้ง 5 คือ ความใส่ใจในผลงาน

การเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของผลงาน ขอบ มุม เหลี่ยมของภาพ การโฟกัสจุดเด่นต่างๆ ในภาพ

ซึ่งการใส่ใจตรงนี้ก็จะเป็นจุดต่างในการจัดลำดับคะแนนของผลงานของเหล่าผู้เข้าประกวดทุกท่านด้วย

ถ้าหากคุณทำงานด้วยความใส่ใจ ละเอียด ผลงานของคุณก็จะออกมาดี

คะแนนก็จะออกมาดีค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กรรมการย้ำเสมอๆ














มาถึงเรื่องการตีโจทย์กันบ้าง


นัยยะของคำว่า ดราม่า นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องร้องไห้โฮ ๆ ได้เพียงอย่าเดียว ดราม่าคืออะไร?

คำๆ นี้จำกัดความได้กว้างมากๆ ค่ะ อาจจะเป็นความเสียใจ เจ็บปวด การทะเลาะเบาะแว้ง การตบตี

การถูกกระทำ ความเก็บกด ความอัดอั้น ความทรงจำในเรื่องเลวร้าย อดีตที่ไม่ค่อยดีนัก

หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการสื่อสารทางด้านอารมณ์และจิตใจ ความรู้สึกอะไรทำนองนั้น

ไม่ได้ตีกรอบแค่ว่าฉันเจ็บปวด ฉันร้องไห้ หรืออะไรทำนองนั้น โจทย์ๆ นี้เลยค่อนข้างเสรีพอสมควร

และต้องใช้จิตนาการสร้างสรรค์พอสมควรด้วย ไม่ใช่เพียงแค่นำตัวละครมา ใส่น้ำตา หรือมายืนทำหน้าเศร้า ๆ

แต่การสื่ออารมณ์ของเรื่องราว และภาพของคุณจะต้องทำออกมาให้รับรู้ได้




ในส่วนของคำบรรยาย


จะสั้นจะยาวนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญค่ะ บางคนสั้นแต่ทำให้อินได้ก็มี หรือสั้นแต่อ่านไม่เข้าใจเลยก็มี

บางคนก็ยาวเวิ่นเว้อ แต่อ่านแล้ววกไปวนมา ไม่รู้จะสื่ออะไรเมื่ออ่านแล้วดูภาพไปด้วย

หรือบางคนยาวแต่ทำได้ดีก็มีค่ะ ประเด็นมันอยู่ที่ว่าคุณจับใจความดราม่าในเนื้อเรื่องของคุณได้หรือเปล่า

ได้ว่าอย่างไร? และเลือกตอนไหนมานำเสนอ?





แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2015-04-19 02:17:40

kusomaho
#53
21-06-2014 - 19:27:57

#53 kusomaho  [ 21-06-2014 - 19:27:57 ]












(ข้อเสนอแนะนี้ถูกเขียนในฐานะสายตาของบุคคลที่ 3 ว่ามีข้อควรปรับปรุงตรงส่วนไหน

ผู้เข้าแข่งขันจะน้อมรับหรือไม่นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณอันพึงมีของท่านค่ะ

มิได้เขียนเพื่อตำหนิ แต่เขียนโดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในอนาคต

การให้คะแนนและข้อเสนอแนะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมุมมอง ทัศนคติ และเรื่องส่วนตัว ขอบคุณค่ะ )








tainakaritsu







1. บุคลิก,สีหน้า,แววตา,ท่าโพส ถึงความสอดคล้องกับคอนเซปและคำบรรยาย (10.5)

2. สัดส่วนของภาพ,มุมกล้อง,ฉาก และองค์ประกอบอื่นๆ (9)

3. คำบรรยายและการนำเสนอ (11)

4. ความสอดคล้องของฉาก,เครื่องแต่งกายและคอนเซป (8)

5. ความสมดุลของสีภาพและองค์ประกอบโดยรวม (10.3)



48.80 + 16.40 = 65.20







อันดับแรกขอพูดเรื่องบทบรรยายของคุณก่อนเลยนะคะ เป็นบทบรรยายที่ใช้ภาษาทั่วไปเข้าใจได้ง่ายดี

แต่ว่าการใช้ภาษาแบบนี้มันค่อนข้างสุ่มเสี่ยงถ้าหากว่าภาพที่คุณนำเสนอออกมานั้น

ไม่สามารถเข้าถึงบทบรรยายของคุณได้ มันจะทำให้เหมือนกับว่าทั้ง 2 สิ่งนั้นไม่ได้ถูกเขียนมาเพื่อเชื่อมโยงกันและกัน

และในกรณีนี้มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะว่าตัวบทบรรยายไม่ได้ชูให้ภาพของคุณดูโดดเด่นขึ้นเลย

อีกทั้งยังไม่ช่วยสื่ออารมณ์ของสิ่งที่อยู่ในภาพ


ตัวบทบรรยายเองถ้าถามว่าเข้าโจทย์ดราม่าหรือเปล่า ก็เป็นไปได้ค่ะถ้าทำอารมณ์ให้ถึงได้

แต่ถ้าไม่ บทบรรยายนี้เหมือนกับว่า มีเด็กสาว 1 คน ที่กำลังนั่งตัดเพ้อชีวิตของตัวเอง เหมือนในนิทานชวนฝัน

หรือพวกซีรีย์ใส ๆ มากกว่าดราม่า เพราะว่าซีนที่คุณนำเสนอออกมานั้น คุณไม่ได้หยิบยกฉาก หรือประเด็นใด ๆ เลย

ที่เกี่ยวข้องกับบทบรรยายของคุณ ภาพที่นำเสนอมาเป็นแค่เพียงตัวละครที่ยืนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้มีบทบาท ไม่ได้มีการกระทำ

หรือสื่อสารอะไรออกมา การเลือกท่าโพสของคุณนั้นค่อนข้างไม่ค่อยเหมาะสมกับบทบรรยายของคุณเท่าไหร่

ท่าโพสเป็นแนวคุณหนูจริง ๆ ค่ะ แต่สีหน้าของตัวละครนั้นไม่มีแววของความทุกข์โศกอะไรเลย

ดูเหมือนเธอยังมีความสุขดีและมีการยิ้มเล็ก ๆ ออกมาด้วย แต่ถ้าถามว่าดราม่ายิ้มได้ไหม?

ดราม่ายิ้มได้นะคะ แต่ต้องเป็นในกรณีของบทบรรยายที่แฝงไปด้วยความหวัง หรืออาจจะเป็นแนวที่ยิ้มทั้งน้ำตา

ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ทั้ง 2 กรณี การพยายามสื่อสารอารมณ์ของคุณเลยสัมผัสอะไรไม่ได้เลย

แต่สิ่งที่ดีและน่าชื่นชมคือการเขียนคำที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ค่ะ อาจจะมีคำร่วมสมัยบ้างแต่ก็เข้ากันได้

แต่อาจจะยังมีบางช่วงบางตอนที่ใช้คำเชื่อมประโยงที่แปลกไปสักหน่อย

เลยทำให้ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจอินเนอร์นั้น ๆ อยู่พอสมควรเลยค่ะ




(มีสิ่งหนึ่งที่อยากเสริมนะคะคือตัวเครื่องหมาย ! ในประโยคที่ว่า "จ้องมองดอกไม้ที่ปลูกในบ้าน!" --- ที่จริงแล้ว

เครื่องหมาย ! มันจะถูกใช้เพื่อเน้นเสียง เน้นอารมณ์ หรือความรู้สึกต่าง ๆ เช่น . . ระวัง! . . โอ้ย! อะไรแบบนั้น

หรือใช้เพื่อเน้นเสียงที่ดังมาก ซึ่งการใส่ ! ในบทบรรยายของคุณนั้นทำให้การสื่อประโยคผิดแปลกไปค่ะ)




มาต่อเรื่องของมุมกล้อง ภาพโคสอัพที่คุณให้ตัวละครมองกล้องนั้นถือว่าทำมุมได้ดีนะคะ

แต่ว่าสีหน้านั้นผิดแปลกไปจากคอนเซปของคุณ ที่จริงไม่ควรจะใช้ลิปที่ทำให้ริมฝีปากเผยอออกมาแบบนั้นและควร

กดมุมปากลงไปสักหน่อยตอนปรับรูปทรงของริมฝีปาก มันจะช่วยทำให้อารมณ์บนใบหน้ามืดมนได้ในระดับหนึ่ง

เพราะการที่ให้ตัวละครทำปากแบบนี้ แล้วเลือกลิปแบบนี้ มันทำให้ภาพออกมาไปอีกทางนึงเลยกับความดราม่า

ส่วนมุมกล้องภาพและอัตราส่วนของภาพอื่น ๆ นั้น ก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไรมากมายนัก

เพียงแต่ว่าคุณโฟกัสวัตถุผิดจุด และเบนกล้องไปด้านข้างมากจนเกินไป

เรื่องการเบนกล้องนั้นก็ถือเป็นเทคนิคที่ดีนะคะ แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังคือฉากหลัง ฉากหลังที่มีต้องไม่โล่งจนเกินไป

ไม่โล่งในที่นี้หมายถึงว่า มีวัตถุอื่น ๆ หรือบุคคลอื่น ๆ เข้ามาเสริม แต่ฉากของคุณนั้นเป็นวอลเปเปอร์สีอ่อน

และมีการจัดวาง obj ที่มีระยะวัตถุห่างกันพอสมควรมันเลยดูโล่งและซีดมาก ๆ

เพราะวอลเปอเปอร์เองก็เป็นสีอ่อน obj หรือเฟอร์นิเจอร์ก็ยังเป็นสีอ่อนอีก สัดส่วน ฉาก

และภาพที่ได้มานั้นเลยขาวโพลนไปหมด รูปติดผนังข้างหลังนั่นก็แย่งซีนตัวละครไปหมด การแก้ปัญหานี้ทำได้ง่าย ๆ ค่ะ

ถ้าหากว่าตัวเราไม่ถนัดการจัดฉาก หรือการจัดวางวัตถุต่างๆ ในฉากที่ต้องการถ่าย แนะนำให้เบลอฉากหลังเมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้ว

การทำภาพเบลอฉากหลังนั้นนอกจากจะช่วยปกปิดพื้นที่โล่ง ๆ ในภาพแล้ว มันยังช่วยสร้างมิติของภาพเล็ก ๆ ด้วย

เปรียบเหมือนกับว่าเป็นการพรางตาในจุดบกพร่องนั่นแหละค่ะ ยังไงถ้ามีโอกาสก็ลองใช้วิธีนี้ดูน่าจะช่วยได้นะคะ



เรื่องเครื่องแต่งกายนี้ทำได้ดีค่ะ เลือกชุดและ acc ได้เข้ากับคอนเซปที่เขียนมา

คือแนวคุณหนูผู้เรียบร้อยและอ่อนต่อโลก ครอบครัวรักและปกป้อง

ชุดและเครื่องประดับของคุณทำให้รู้สึกได้ถึงความบอบบางของตัวละครค่ะ



มาถึงเรื่องสุดท้ายแล้วก็คือเรื่องความสมดุลของสีและภาพรวมนะคะ

จากด้านบนเลยค่ะที่กล่าวไว้ว่าเพราะฉากหลังของคุณสีอ่อน เสื้อผ้าและเครื่องประดับก็มีบางส่วยที่เป็นสีอ่อน

และนอกจากนั้นเฟอร์นิเจอร์เองก็เป็นโทนสีอ่อน ส่วนมากการทำภาพขาวดำนั้นจะค่อนข้างคุมยาก

ถ้าหากว่าองค์ประกอบของภาพนั้นมีสีอ่อนเป็น % เยอะในภาพ เพราะว่าการใส่มิติมันจะทำได้ลำบากกว่าสีเข้มค่ะ

ดังนั้นภาพของคุณเลยออกมาดูจืดและซีดมากๆ ดูไม่มีมิติอะไรดึงดูสายตาเลย นอกจากส่วนที่เป็นสีเข้มของเสื้อผ้าและหมวก

แต่เพราะสีเข้มของชุดที่มันดึงดูดสายตามากนั้น มากจนทำให้ตัวละครดรอปความโดดเด่นลงไป

จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมภาพของคุณจึงขาดเสน่ห์ไปไม่น้อย และอย่างที่กล่าวอีกอย่างคือภาพไม่มีการเบลอ

หรือโฟกัสที่ตัวซิมส์ หรือสายตา หรือการสื่อสารใด ๆ ของซิมส์เลย องค์ประกอบโดยรวมของสีภาพเลยไม่ชัดเจนค่ะ

ทางที่ดีคุณอาจจะลองเพิ่มความเข้มให้รูปภาพอีกสักนิดถ้าหากว่าพื้นหลังของคุณมันอ่อนเกินไป

หรืออาจจะเพิ่มความมืดเฉพาะส่วนบริเวณรอบ ๆ ของตัวละครโดยใส่โฟร์กราวสีดำลงไปแล้วลดค่าโอพาซิตี้ลง

ก็จะทำให้ขอบ ๆ มืดลงและช่วยดึงความมีมิติและเน้นเฉพาะจุดให้กับซิมส์ได้ค่ะ






แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2015-04-19 02:18:28

kusomaho
#54
21-06-2014 - 19:28:03

#54 kusomaho  [ 21-06-2014 - 19:28:03 ]












(ข้อเสนอแนะนี้ถูกเขียนในฐานะสายตาของบุคคลที่ 3 ว่ามีข้อควรปรับปรุงตรงส่วนไหน

ผู้เข้าแข่งขันจะน้อมรับหรือไม่นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณอันพึงมีของท่านค่ะ

มิได้เขียนเพื่อตำหนิ แต่เขียนโดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในอนาคต

การให้คะแนนและข้อเสนอแนะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมุมมอง ทัศนคติ และเรื่องส่วนตัว ขอบคุณค่ะ )








Apisit Pinthong






1. บุคลิก,สีหน้า,แววตา,ท่าโพส ถึงความสอดคล้องกับคอนเซปและคำบรรยาย (11.5)

2. สัดส่วนของภาพ,มุมกล้อง,ฉาก และองค์ประกอบอื่นๆ (9)

3. คำบรรยายและการนำเสนอ (11)

4. ความสอดคล้องของฉาก,เครื่องแต่งกายและคอนเซป (8)

5. ความสมดุลของสีภาพและองค์ประกอบโดยรวม (10.5)



50.00 + 17.12 = 67.12





บทบรรยายของคุณเขียนได้ค่อนข้างดีนะคะ ใช้คำได้เหมาะสมดีแล้วกับภาพลักษณ์ที่พยายามบ่งบอกในรูปภาพ

ว่าเป็นแนวร่วมสมัย ไม่ได้แฟนตาซีหรือย้อนยุคอะไร เพราะแบบนั้นการใช้คำเหล่านี้เลยถือว่าทำได้ดี

และถูกจุดของมันค่ะ แต่เรื่องการเว้นคำ เว้นประโยค การใส่เครื่องหมายหรือเว้นวรรคบทบรรยายนั้นยังไม่ดีค่ะ

เพราะว่าคุณแทบจะไม่ได้เว้นวรรคคำ หรือประโยคใด ๆ ที่ควรเว้นเลย แต่ใช้การพิพม์เรียงต่อกันเป็นพรืดยาวทีเดียว

ทำให้เวลาอ่านมันค่อนข้างลำบากค่ะ เพราะเวลาอ่านต้องมานั่งจับช่องไฟเอาเอง

เลยทำให้การเสพอารมณ์ของบทบรรยายขาดตอนค่ะ และยังมีบางช่วง บางตอน ที่ไม่ใส่คำเชื่อม

หรือใช้คำขาด ๆ ไม่เหมาะสม เลยทำให้บทบรรยายดูงง ๆ นิดหน่อยนะคะ

ขอยกตัวอย่างที่ลองแก้ไขคร่าว ๆ นะคะ


ex.



เพียงหลับตา คุณ . . . อาจจะมองไม่เห็นอะไร

ใช่ . . . มันเป็นเพียงเงามืด

แต่สำหรับฉัน . . . มันเป็นความทรงจำที่ไม่อาจจะลืม (เลือน) (ได้)เลยแม้สัก (วินาที) ครั้งเดี่ยว

แค่ (เพียง) ฉัน (ได้) หลับตา (ลง) . . . ฉันเห็นครอบครัวของฉัน

ฉันเคยมีครอบครัว . . . ครอบครัวของเราอยู่มีความสุข (ครอบครัวที่เคยมีความสุข)

จนกระทั่งวันหนึ่ง . . . (เมื่อ) ฉันกลับมา (ถึง) บ้าน

ครอบครัวของฉัน (ที่) (นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือด)นอนไปทั้งกองเลือด

ฉันมองครอบครัวของฉันทั้งน้ำตาที่เป็นดังสายเลือด

(และฉันทำได้แค่เพียงยืมองครอบครัวที่ฉันรักด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาเหมือนกับสายเลือด)





การยกตัวอย่างการแก้ไขบทบรรยายนี้เป็นบางส่วนที่คิดว่าควรจะลองปรับเปลี่ยนดู

ถ้าหากมีโอกาสหน้าได้ลองเขียน อยากแนะนำให้ลองตรวจทานการเว้นวรรคคำ การใช้คำเชื่อมประโยค

หรือการเลือกแสลงที่เหมาะสมกับคำร่วมอื่น ๆ ดูนะคะ เพราะจะทำให้บทบรรยายของคุณเองนั้นเข้าถึงอารมณ์

และสามารถสื่ออารมณ์ให้กับภาพ และคนอื่นได้มากเลยทีเดียว



อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องมาพร้อม ๆ กับบทบรรยายคือการนำเสนอรูปภาพของคุณนั้น

ตัวบทบรรยายถ้าอ่านแยกก็สื่อสารอารมณ์ได้ดีนะคะ แต่พอมารวมกับภาพที่สื่อออกมานั้น

ในจุดนี้ต้องบอกเลยว่ามันสวนทางกันไปคนละทางอีกแล้ว เพราะว่าภาพที่คุณนำเสนอมา

ไม่มีส่วนหนึ่ง ส่วนใดเลยที่เชื่อมโยงกับบทบรรยายของคุณ คุณไม่ได้หยิบยกฉาก หรือซีนที่เกี่ยวข้องที่สื่อให้เห็นได้ว่า

เนี่ยนะมีฉากนั้น หรือว่าฉากนี่ที่อยู่ในบทบรรยายจริง ๆ อันนี้เหมือนเป็นแค่การนำตัวละครมาจัดท่าทาง

จับมายืนและนั่ง ใส่น้ำตาเข้าไป แต่มันไม่เข้าถึงบทบาทใด ๆ เลยค่ะ ในจุดนี้ที่ทำให้การสื่อสารอารมณ์ของภาพ

น้อยลงไปมาก ๆ ส่วนตัวท่าโพสนั้นภาพ 1,2,4 ก็ยังพอจิตนาการอารมณ์ออกได้นะคะ แต่ว่าภาพที่ 3 ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้

ท่าโพสมันดูแปลกเกินไป เหมือนกับท่าโพสท่าแบบแนวน่ารักมากกว่าการแสดงออกถึงความเสียใจค่ะ



การจัดฉากของคุณนั้นตามที่กล่าวด้านบนคือแทบจะไม่ได้เกี่ยวโยงใด ๆ เลยกับบทบรรยาย

แต่ก็สามารถจิตนาการได้ว่า ฉากนั้นเป็นห้อง ๆ หนึ่งภายในบ้าน แต่ว่าฉากคุณโล่งมาก ๆ เลยค่ะ ไม่มีการวาง obj ใด ๆ

ที่ช่วยเบนความว่างเปล่าของพื้นหลังเลย มีแต่ผนังล้วน ๆ อีกอย่างเรื่องการวางของบนพื้นนะคะ

ถ้าหากว่าฉากของคุณโล่งมาก ๆ คุณไม่ควรวางของลงบนพื้น ถ้าหากว่าฉากนั้นไม่ได้มีการวางของจนเต็มพื้นที่

หรือสื่อให้เห็นว่าไม่มีที่จะวางแล้วหรือเป็นท่าโพสที่ต้องนั่งกับพื้นหรือกดมุมต่ำ

เพราะการวางของบนพื้น โดยที่สัดส่วนของภาพด้านบนไม่มีโต๊ะ ไม่มีโคมไฟ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ประดับอะไรเลย

มันจะทำให้ด้านบนมีพิ้นที่ว่างเกินไปจนทำให้ดูไม่สมดุล และมันจะทำให้เหมือนว่าเราไม่ใส่ใจในการจัดฉาก

หรือองค์ประกอบในภาพถึงแม้ว่าเราจะตั้งใจจัดแล้วก็ตามที และอีกประเด็นคือเรื่องของการติดผ้าม่าน

ถ้าหากว่าตรงผนังนั้นมีหน้าต่าง การติดผ้าม่านไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ แต่ถ้าหากว่าผนังตรงส่วนนั้นไม่มีหน้าต่าง

การติดผ้าม่านก็ทำได้นะคะ แต่มีข้อจำกัดคือ ตรงบริเวณนั้นจะต้องเป็นเตียง หรือมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่

อย่างใดอย่างหนึ่งวางอยู่ ซึ่งยังพออ้างอิงได้ว่าติดผ้าม่านเพื่อปกปิดของเหล่านั้นตามหลักนะคะ

และมันเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องกันกับการจัดวางฉากหลัง กับเรื่องมุมกล้องที่ถ่ายค่ะ เมื่อฉากหลังของเรานั้นผิดสัดผิดส่วน

เกิดความไม่สมดุล ส่วนใดส่วนหนึ่งโล่งหรือหนักจนเกินไป เวลาเราแพลนกล้องเพื่อถ่ายก็จะทำให้ภาพดูโล้น

และดูแปลกตามาก ๆ ค่ะ โดยเฉพาะภาพที่คุณยกกล้องในมุมสูงกว่าระดับตัวละคร จะทำให้เห็นถึงพื้นที่ว่างเปล่าบริเวณผยัง

และพื้นเนื่องขากว่าคุณเอา obj ทั้งหลายไปกองรวมกันอยู่ตรงจุดเดียว มันไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเลยค่ะ



เรื่องการแต่งกายนั้นก็ถือว่าทำได้ดีนะคะ เพราะว่าคอนเซปไม่ได้เจาะจงว่าเป็นสมัยใหม่ซะทีเดียว

แล้วก็ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นย้อนยุค เพราะแบบนั้นการเลือกเครื่องแต่งกายเลยเลือกได้กว้าง แต่งแบบไหนก็ถือว่าไม่ผิดค่ะ

แต่ในส่วนสุดท้ายคือความสมดุลของสีภาพและองค์รวมของภาพนะคะ สิ่งแรกที่จะขอบแนะนำเลยคือการใส่กรอบมืด

หรือเรียกง่าย ๆ โฟร์กราวที่มืด ๆ ตรงบริเวณของของภาพนั้น ข้อดีของมันคือสามารถช่วยโฟกัสจุดกึ่งกลางของภาพได้

แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกันคือมันจะเน้นเฉพาะจุด ซึ่งถ้าตัวละครหรือวัตถุอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม

ก็จะดูเจ้าสิ่งนี้กลบสิ่งที่ควรจะเป็นลงไป หรือ ถ้าฉากของคุณนั้นเป็นความสว่างอีกระดับ

แล้วตัวเฟรมขอบนั้นเข้มจนโดดออกมาจากฉากก็จะทำให้ภาพดูลอย ๆ หลอก ๆ

ดูไม่นวลตา มันเหมือนกับว่าจัดเอากรอบสีทะมึน ๆ มาแปะใส่ในรูปอะไรแบบนั้นเลยค่ะ

ตรงจุดนี้ก็สามารถแก้ไขได้โดยเวลาที่เราใส่ขอบมืดลงไปให้เราปรับลดค่าโอพาซิตี้ลดให้อ่อนลงพอที่จะกลืนไปกับฉากได้ค่ะ

มันจะดูสมจริงมากกว่านี้ และอีกสิ่งหนึ่งเลยที่ถือว่าเป็นจุดที่ขัดตาที่สุดในการนำเสนอครั้งนี้เลยค่ะ บรัชควัน

การที่คุณเลือกใช้บรัชควันมาใส่ในผลงานนั้น ต้องถามก่อนว่าภาพที่คุณทำนั้น เนื้อเรื่อง มันมีที่มาที่ไปอย่างไร?

ถ้าเป็นแนวแฟนตาซีที่เหนือนจิตนาการ ที่อะไร ๆ สามารถเป็นไปได้ก็ยังพออาศัยจินตนาการที่เกินจริงช่วยได้

แต่ในกรณีนี้เป็นเรื่องราวธรรมดา ๆ แล้วบทบรรยายที่คุณกล่าวถึงก็ไม่ได้มีส่วนไหนที่เกี่ยวกับควันเลย

เช่น ไฟไหม้ หรืออะไรพวกนั้น ดังนั้นสิ่งแรกเมื่อมองเห็นควันในรูปภาพงานของคุณ คำถามคือ ควันอะไร? มาจากไหน?

ต้นตอคืออะไร? เพราะมันหาที่มาที่ไปของควันไม่ได้ แล้วยังสาดบรัชลงไปจนชัดเจนขนาดที่ว่าเหมือนไฟกำลังจะไหม้บ้าน

ดังนั้นการเลือกใช้บรัชอะไรใส่ลงในผลงานจะต้องคำนึงถึงที่มาที่ไปให้ดีด้วย ถ้าหากบ้านเป็นบ้านเก่าจะมีควันก็ได้

แต่ควรทำให้ควันจาง ๆ ให้เหมือนธรรมชาติ และควรวางในจุดที่เหมาะสม ปรับขนาดหัวบรัช ความใหญ่

ความกว้างให้ดีด้วย แต่ในกรณีงานของคุณ แนะนำว่าควรจะใช้บรัชแสงมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น

การใส่บรัชแสงก็ต้องหาจุดตกกระทบด้วยนะคะ เช่นหน้าต่าง ประตู หรือวางมุมสูง มุมเอียงที่จะจิตนาการเหนือจริงได้ว่า

ตรงนั้นมีจุดตกกระทบของแสง ส่วนตัวสีของภาพนั้นยังขาดความเข้มอยู่นะคะ มันเหมือนสีเทาที่ซีด ๆ

ถ้าหากลองปรับความเข้มอีกนิดหน่อยก็จะดูโอเคขึ้นค่ะ







แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2015-04-19 02:18:10

kusomaho
#55
21-06-2014 - 19:28:09

#55 kusomaho  [ 21-06-2014 - 19:28:09 ]












(ข้อเสนอแนะนี้ถูกเขียนในฐานะสายตาของบุคคลที่ 3 ว่ามีข้อควรปรับปรุงตรงส่วนไหน

ผู้เข้าแข่งขันจะน้อมรับหรือไม่นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณอันพึงมีของท่านค่ะ

มิได้เขียนเพื่อตำหนิ แต่เขียนโดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในอนาคต

การให้คะแนนและข้อเสนอแนะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมุมมอง ทัศนคติ และเรื่องส่วนตัว ขอบคุณค่ะ )







shirukusm





1. บุคลิก,สีหน้า,แววตา,ท่าโพส ถึงความสอดคล้องกับคอนเซปและคำบรรยาย (15)

2. สัดส่วนของภาพ,มุมกล้อง,ฉาก และองค์ประกอบอื่นๆ (12)

3. คำบรรยายและการนำเสนอ (14.5)

4. ความสอดคล้องของฉาก,เครื่องแต่งกายและคอนเซป (9)

5. ความสมดุลของสีภาพและองค์ประกอบโดยรวม (12.8)



63.30 + 18.96 = 82.26






วิธีการเขียนบทบรรยายของคุณถือว่าพัฒนาจากซีซั่นแรกพอสมควรเลยค่ะ

การเลือกใช้คำได้เหมาะกับยุคสมัยที่คุณต้องการนำเสนอ แต่ก็ยังมีบางจุดที่เหมือนคุณจะยังคงสับสนนิดหน่อย

ในช่วงบทบรรยายแรก ๆ ที่บอกว่า เหมือนกับที่ฉันเคยไขว่คว้าความเป็นอมตะ

แต่ในส่วนท้ายของบทบรรยายกลับกลายเป็นว่าเป็นแม่ของตัวละครนั้นต่างหากที่แลกความเป็นอมตะให้กับเธอ

ซึ่งมันค่อนข้างจะไม่ไปในทางเดียวกัน อาจจะต้องตรวจทานบทบรรยายเมื่อเขียนเสร็จแล้ว

ว่ามีจุดไหนที่เรากล่าวไม่ไปในทิศทางเดียวกันบ้าง ซึ่งถ้าแก้ไขได้ หรือไม่มีความผิดพลาดใด ๆ ที่ทำให้บทสวนทางกัน

จะทำให้ลื่นไหลในการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านตัวหนังสือมากขึ้นค่ะ

และอีกจุดหนึ่งคือ การเรียบเรียงบทบรรยายในช่วงต้นมันเป็นการเรียงบทบรรยายที่ดีนะคะ

แต่เหมือนในช่วงท้าย การใช้คำพูด และการเรียบเรียงประโยคของคุณดูจะวกวน

เหมือนกันว่าไม่รู้จะเขียนหรือเชื่อมเรื่องราวต่อไปยังไงดี ในกรณีนี้แนะนำว่า ถ้าหากว่าเราเขียนบทนำไว้ดีแล้ว

แต่หาบทจบไม่ได้ ก็ให้เขียนทิ้งเป็นเชิงปริศนาหรืออะไรแบบนั้น ให้คนอ่านไปคิด ไปจินตนาการต่อเอาเอง

ก็จะช่วยให้ปัดความไม่เป็นธรรมชาติ หรือการสับสนในการเขียนบทบรรยายได้ค่ะ




มาถึงรูปแบบการนำเสนอของคุณ คุณเลือกที่จะนำเสนอออกมาเป็น 2 part ซึ่งก็ดีนะคะสามารถเข้าถึงได้ง่าย

แต่ว่าข้อเสียของการทำแบบ 2 ช่วงเวลามันก็มีอยู่นะคะ คือจะทำยังไงที่จะเชื่อมเรื่องราวทั้ง 2 ช่วงเวลาให้เข้าด้วยกันได้

และจะทำยังไงให้การนำเสนอนั้นไม่ซ้ำช่วงเวลาเดิมที่เคยทำไปก่อนหน้านั้นแล้ว

เพราะว่ารูปภาพการนำเสนอของคุณทั้งหมดนั้นมีแต่รูปที่อยู่แต่กับหลุมศพทั้ง 2 part

เข้าใจได้นะคะว่ากำลังเสียใจกับการจากไป และครึ่งหลังคือการเฝ้ามองหลุมศพของคนรัก โดยที่ตัวเองไม่ได้แก่ลงไปเลย

ซึ่งมันก็ทำให้เข้าใจและรับรู้บทบรรยายได้ดี แต่ทว่าภาพในฉาก ๆ นั้นมันซ้ำกันเยอะเกินไป

อาจจะลองเปลี่ยนฉากดูสัก 1 รูปก็ได้เป็นบรรยายกาศแบบอื่น อาจจะถ่ายภาพของห้องเก่า ๆ ที่แม่เคยทำกิจกรรมในนั้น

หรือภาพช่วงเวลาที่มีแต่รอยยิ้มและได้ทำอะไรร่วมกับคนที่คุณรัก

โดยยึดให้เป็นภาพฟรีสไตล์ก็ได้ เพราะภาพฟรีสไตล์คือถ่ายอะไรก็ได้ค่ะ จะมีหรือไม่มีซิมส์เลยก็ได้

เพื่อใช้บอกเรื่องราว ที่มาที่ไปของภาพได้ดียิ่งขึ้น แต่ท่าทางการแสดงออก สีหน้าของตัวละคร

ถือว่าทำออกมาได้ดีแล้วค่ะโดยเฉพาะในภาพที่ 1,2,3




เรื่องของสีดส่วนของภาพ มุมกล้องและฉาก อันดับแรกเลยขอพูดถึงฉากก่อน นี่เป็นสิ่งแรกที่เห็นในงานของคุณครั้งนี้

การจัดฉากของคุณในครั้งนี้ดูมีความละเอียดและใส่พัฒนาขึ้นจากซีซั่นก่อนมากเลยค่ะ

เป็นอะไรที่ดี และฉากที่จัดออกมานั้น ก็ทำมุมได้ดี การจัดวาง obj ทั้งหลายก็ดูไม่โล้นจนเกินไป

รวมไปถึงการวางตัวละครในมุมต่าง ๆ ของฉาก และการหมุนมุมกล่องที่จะถ่ายภาพนั้นทำออกมาได้ดีในระดับนึงเลยค่ะ

แต่อาจจะมีช่วง part หลัง ที่อาจจะดูแล้วจัดวางตัวละคร และใช้มุมกล้องที่ทำให้เห็นแต่ฉากหลังเรียบ ๆ มากเกินไปหน่อย

และมุมกล้องยังไม่หลากหลายเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ได้ดูขัดตาอะไรมากมายค่ะ เพราะถือว่าคุณก็ยังโฟกัสจุดเด่นของภาพ

จุดเด่นของฉาก และยังจับโฟกัสตัวละครได้อยู่ค่ะ ส่วนในเรื่องของเครื่องแต่งกายนั้น

คิดว่าในช่วงแรกคุณเลือกชุดได้ดีนะคะ ชุดและ acc เข้ากันได้ดีกับกลิ่นอายของบรรยากาศค่ะ




ในส่วนสุดท้ายนี้คือภาพรวมทั้งหมดของรูปภาพและโทนสีนั้น องค์ประกอบโดยรวมในภาพของคุณนั้นก็ดูสมดุลดีค่ะ

การจัดวาง การลงแสงและเงาก็ทำได้ดีในระดับนึง แต่อาจจะมีบางจุดบ้างที่มีการปาดเงาหนักมือไปสักหน่อย

เช่นภาพที่ 3 ที่ลงเงาตรงช่วงต้นคอมันหนาและชัดเจนมาก มันเลยเหมือนไปเน้นเงาตรงจุดนั้น

ซึ่งความจริงถ้าหากว่าภาพนั้นเป็นภาพที่นั่งอยู่ใกล้กำแพง หรือติดกับกำแพงมาก เงาในทุก ๆ ส่วนของตัวละครจะต้องเท่า ๆ กัน

วิธีแก้ไขก็อาจจะลงเงาตรงช่วงคอลงไป หรืออาจจะปาดเงาเพิ่มเข้าไปในส่วนอื่น ๆ ของลำดับก็ได้ค่ะ

จะทำให้ดูกลมกลืนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงในภาพที่ 4 ก็เช่นกันเหมือนกับภาพที่ 3

แต่เรื่องของการใส่บรัชลงในภาพถือว่าคุณทำได้ค่อนข้างดีนะคะ การที่แสงจะสาดแสงลงไปตรงจุดที่เป็นป้ายของหลุมศพนั้น

มันช่วยเน้นความน่าสนใจให้กับฉากมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีข้อสังเกตุอยู่นิดหน่อย

ระหว่างภาพที่ 1 และ 2 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกัน แต่ในภาพแรกไม่มีการใส่บรัชฝน

แต่ภาพ 2 มีฝน ซึ่งมันดูแล้วขัด ๆ ตาเล็กน้อยค่ะ และมาถึงในโทนสีที่คุณเลือกใช้ โดยส่วนตัว

คิดว่าโทนสีมันค่อนข้างจะจืดมากเกินไป จืดในที่นี้คือ น่าจะปรับความเข้มให้ภาพอีกสักเล็กน้อยถ้าหากธีมที่ทำออกมา

เหมือนจะเป็นฉากในตอนกลางคืน เพราะมันจะช่วยทำให้ภาพของเราไม่ซีด และยังช่วยให้รายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ของภาพ

ที่เป็นสีเข้มชัดเจนยิ่งขึ้น และถ้าหากเป็นภาพในมุมกว้าง เช่นภาพเต็มตัว ควรเบลอขอบของภาพให้หนักกว่าภาพที่ใช้มุมกล้องแคบ

เพราะจะช่วยเน้นโฟกัสไปในส่วนที่เราต้องการนำเสนอได้ง่ายขึ้นค่ะ








แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2015-04-19 02:18:18
shirukusm

kusomaho
#56
21-06-2014 - 19:28:15

#56 kusomaho  [ 21-06-2014 - 19:28:15 ]












(ข้อเสนอแนะนี้ถูกเขียนในฐานะสายตาของบุคคลที่ 3 ว่ามีข้อควรปรับปรุงตรงส่วนไหน

ผู้เข้าแข่งขันจะน้อมรับหรือไม่นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณอันพึงมีของท่านค่ะ

มิได้เขียนเพื่อตำหนิ แต่เขียนโดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในอนาคต

การให้คะแนนและข้อเสนอแนะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมุมมอง ทัศนคติ และเรื่องส่วนตัว ขอบคุณค่ะ )








hatsuyakung






1. บุคลิก,สีหน้า,แววตา,ท่าโพส ถึงความสอดคล้องกับคอนเซปและคำบรรยาย (16)

2. สัดส่วนของภาพ,มุมกล้อง,ฉาก และองค์ประกอบอื่นๆ (12)

3. คำบรรยายและการนำเสนอ (14.5)

4. ความสอดคล้องของฉาก,เครื่องแต่งกายและคอนเซป (9)

5. ความสมดุลของสีภาพและองค์ประกอบโดยรวม (13.2)



64.70 + 18.40 = 83.10






ตัวบทบรรยายเขียนได้ดีนะคะ ไม่สั้น ไม่ยาวจนเกินไป แต่สื่อความต้องการของอารมณ์ออกมาได้

มันทำให้เราเข้าใจและรับรู้ได้ถึงความอัดอั้น หรือมุมที่อ่อนแออีกมุมหนึ่งในใจของตัวละครที่ภายนอกดูมั่นใจและเข้มแข็ง

เพราะภาพลักษณ์ที่คุณทำให้ตัวละครนั้น ๆ เป็น แต่ก็ยังมีบางจุดอาจจะลืมคำเชื่อม หรือเลือกใช้คำ

ยังไม่สอดคล้องกันเท่าที่ควร โดยเฉพาะจุดใหญ่เลยที่เคยเตือนไปแล้วตั้งแต่ซีซั่นแรก

เรื่องของการใช้คำว่า ฉัน เป็น ชั้น ถ้าถามว่ามันผิดหรือไม่ ที่จริงมันก็ไม่ผิดค่ะกับการใช้คำร่วมสมัยหรือพวกคำแสลงวัยรุ่น

แต่ว่า ระหว่างการพิพม์เล่น พูดคุยแบบไม่เป็นทางการ กับการลองคิดว่าพิมพ์เพื่อส่งงานอะไรสัก 1 อย่าง

หรือส่งรายงาน เราก็ควรจะเลือกใช้คำที่พิพม์ถูกต้องตามหลัก มันจะช่วยส่งเสริมให้งานของเราดูเข้าที่เข้าทาง

เป็นระเบียบ และอ่านแล้วลื่นไหลมากกว่ากับงานจำพวกที่ต้องถ่ายทอด หรือสื่อสารความเข้าใจในตัวของตัวหนังสือเอง

ถ้าหากว่ามีโอกาสอยากให้ลองปรับเปลี่ยนเรื่องการพิพม์ตรงส่วนนนี้ดูนะคะ และตรวจทานคำผิดอีกสักหน่อย

จากคำบรรยายของคุณที่ดีอยู่แล้วจะดียิ่งขึ้นค่ะ ส่วนเรื่องการถ่ายทอดอารมณ์ ท่าโพสต่าง ๆ นั้น

ถือว่าคุณทำได้ดีโดยเพราะท่าโพสที่คุณนั้นเลือกใช้มันค่อนข้างลงตัวพอสมควร โดยเฉพาะภาพที่ 2,3

เป็นท่าโพสที่ไม่ได้ดูเยอะจนมากมาย แต่ทำให้เห็นและเข้าใขถึงลักษณะของตัวละครที่แข็งนอนอ่อนในอะไรแบบนั้น



มาพูดถึงในส่วนของสุดส่วนของภาพ มุมกล้องและฉากกันบ้าง ของยกเรื่องฉากมาพูดก่อนเลยนะคะ

ตัวฉากนั้นเป็นอีกคนที่งานจัดฉากดีกว่าซีซั่นแรกค่ะ จัดฉากได้ดูมีอะไร ๆ มากกว่าครั้งก่อน

การเลือกที่นะเสนอธีมของฉากให้ออกมาเหมือนกับซอยหลังของคลับที่ดูรกแลพเกะกะ มันเป็นลักณณะ

ที่ช่วยส่งเสริมตัวละครได้พอสมควรถึงความเป็นคนมั่นใจ และเหมือนจะดูแลตัวเองใน การเลือกจัดวาง obj มีมิตดีดีค่ะ

มีการวางซ้อนวัตถุหน้าหลัง ไม่ได้จัดวางเป็นแนวเดียวกันทั้ง เพราะการจัดแบบนั้นมันจะทำให้ฉากมันแบนเกินไป

ส่วนตัวของมุมกล้องนั้นก็ทำได้ดีในระดับนึงค่ะ มีการแพลนกล้องจากมุมที่ต้องถ่ายผ่านวัตถุต่าง ๆ เพื่อโฟกัสไปที่ซิมส์

มันเหมือนกับภาพถ่ายจริง ๆ ซึ่งดูแล้วดึงดูดสายตาดีค่ะ และสิ่งที่ดีอีกอย่างค่ะคุณยังโฟกัสถูกจุด

ไม่ได้ทำให้ตัวละครดูโดดเด่นน้อยลงไป แต่ภาพที่รู้สึกเวลามองดูแล้วแปลกตามากที่สุดคือภาพที่ 4 ค่ะ

ด้วยความที่ว่าคุณเลือกที่จะนำเสนอให้ภาพออกมาเป็นลักษณะที่ว่าจมดิ่งอยู่ในความมือภายในจิตใจของตัวเอง

คุณเลยเลือกที่จะทำพื้นหลังเป็นสีดำล้วน ซึ่งข้อจำกัดของทำฉากเป็นสีดำคือมันจะโล่งจนเกินไปค่ะ

เพราะว่าตัวฉากไม่มีอะไรเบนความสนใจ หรือช่วยชูให้ตัวละครของคุณดูโดดเด่นขึ้น

แต่มันจะทำให้ภาพดูแข่งทื่อจนเกินความจำเป็น ในกรณีนี้ถ้าหากต้องการนำเสนอแบบนั้นจริง ๆ

คุณควรจะเน้นหนักไปที่การแต่งภาพเลยค่ะ ถ้าเป็นรูปภาพที่มีแต่วอลเปเปอร์สีล้วนโล่ง ๆ

ให้คุณทำการเบลอขอบของภาพไล่เข้ามาถึงตัวซิมส์และเว้นเป็นรูปตัว T ค่ะตามยาง

เพื่อเน้นความชัดเจนของตัวซิมส์ก็พอค่ะจะได้ไม่ดูโดดหรือลอยออกมาจากฉากมากจนเกินไป

และควรทำขอบสีดำเป็นโฟร์กราวด้วยค่ะ ให้เหมือนลักษณะที่ว่าความมืดกำลังกลืนกินตัวละครนั้นจริง ๆ

ทำให้ขอบสีดำนั้นกลืนเข้ามาถึงด้านในของตัวละครเลยค่ะ แล้วค่อยปรับลดค่าโอพาซิตี้ หรือว่าใช้ยางลบหัวฟุ้งค่อย ๆ

ลบจากด้านในไล่ออกไปค่ะ จะทำให้ภาพดูนุ่มนวล กลมกลืนและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น



เรื่องของการแต่งกายนั้นคุณเลือกชุดและ acc ได้เหมาะสมดีค่ะ โดยเฉพาะการที่ใส่เสื้อผูกเอว

ดูแล้วไม่ทำให้ตัวชุดโล่งจนเกินไป และดูถ่ายทอดบุคลิกที่เป็นหญิงมั่นในใจได้ดีค่ะ ตัวผ้าพันคอนั้นก็เข้ากันได้ดี

ทำให้บริเวณช่วงลำคอไม่โล่งจนเกินไปค่ะ



ส่วนสุดท้ายของข้อเสนอแนะนี้ก็คงเป็นเรื่องขององค์ประกอบภาพรวมและโทนสีที่คุณเลือกใช้

ในส่วนของโทนสีที่คุณเลือกใช้นั้น คุณเลือกใช้โทนสีได้ดีค่ะ เป็นโทนสีดำที่มีเฉดของสีน้ำตาเล็กน้อยบริเวณบางจุดของภาพ

ทำให้กลิ่นอายของภาพนั้นดูนุ่มนวลกว่าการใช้สีดำซีด เรื่องการปรับความเข้มของภาพรวมนั้นนั้นก็ทำได้ออกมาดีค่ะ

เพราะฉากที่คุณสำเสนอออกมานั้นเป็นโทรเข้ม ถ้าหากว่าปรับภาพอ่อนจนเกินไปมันจะดูลอย ๆ

และขัดกับองค์ประกอบอื่น ๆ พอสมควร มีแต่ในจุดของภาพสุดท้ายอย่างที่บอกไปข้างต้น

คือการทำสีของภาพนั้น การโฟกัสภาพนั้นมันยังดูลอยออกมาจากหลังและดูสะดุดตามากจนเกินไปกับธีม

ที่บอกว่าคือจมดิ่งภายในจิตใจแต่ในส่วนขององค์ประกอบอื่น ๆ นั้นก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะ







แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2015-04-19 02:18:51
hatsuyakung

kusomaho
#57
21-06-2014 - 19:28:22

#57 kusomaho  [ 21-06-2014 - 19:28:22 ]












(ข้อเสนอแนะนี้ถูกเขียนในฐานะสายตาของบุคคลที่ 3 ว่ามีข้อควรปรับปรุงตรงส่วนไหน

ผู้เข้าแข่งขันจะน้อมรับหรือไม่นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณอันพึงมีของท่านค่ะ

มิได้เขียนเพื่อตำหนิ แต่เขียนโดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในอนาคต

การให้คะแนนและข้อเสนอแนะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมุมมอง ทัศนคติ และเรื่องส่วนตัว ขอบคุณค่ะ )








menijung





1. บุคลิก,สีหน้า,แววตา,ท่าโพส ถึงความสอดคล้องกับคอนเซปและคำบรรยาย (17)

2. สัดส่วนของภาพ,มุมกล้อง,ฉาก และองค์ประกอบอื่นๆ (12.8)

3. คำบรรยายและการนำเสนอ (16.5)

4. ความสอดคล้องของฉาก,เครื่องแต่งกายและคอนเซป (9.2)

5. ความสมดุลของสีภาพและองค์ประกอบโดยรวม (12.8)



68.30 + 19.20 = 87.50





ขอกล่าวถึงตัวบทบรรยายก่อนเลยนะคะ บทบรรยายของคุณนั้นกระชับได้ใจความดีค่ะ

มีการใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการมากนัก แต่ยังมีปัญหาในส่วนของการเลือกใช้คำ การเรียบเรียงคำ การเชื่อมประโยค

การจัดวางประโยคในตำแหน่งต่าง ๆ เลยทำให้เวลาที่อ่านบทบรรยายนั้นมันจะติดขัดไม่ลื่นไหนกลับอารมณ์เป็นระยะ ๆ

ถ้าหากลองปรับเปลี่ยนคำพูด เสริมคำบางคำในจุดที่ต้องเสริม และวางประโยคใหม่

ก็จะช่วยให้บทของคุณมีเสน่ห์มากขึ้นค่ะ



ex.



หนาวเย็นเหลือเกิน . . ทุกอย่างดูนิ่งสงบ . .

ถึงแม้ว่าการที่หมดลมหายใจอยู่บนพื้นหิมะที่เย็นเฉียบจะดูหนาวเย็นสักแค่ไหน

แต่มันก็คงจะอุ่นกว่าลมหายใจของฉันเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่


(ประมาณนี้นะคะ)




ในส่วนของการนำเสนอจากบทบรรยายของคุณ คุณทำออกมาได้ดีค่ะ มีการนำเสนอซีนต่าง ๆ

ที่เกี่ยวข้องกับตัวบทโดยตรง ทำให้เห็นว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ดำเนินไปอย่างไร และจบลงอย่างไร

มันทำให้การสื่อสารจากบทบรรยายที่ยังเขียนและเรียงได้ไม่ดีนัก

แต่ได้การสื่อสารจากภาพเข้าไปเสริมเลยช่วยทำให้เข้าใจมันได้ง่ายขึ้นค่ะ

การเลือกท่าโพสของแต่ละภาพนั้นก็ทำได้ดีพอสมควร ขอเรียงเป็นลำดับไปนะคะทั้งเรื่องฉากละมุมกล้องรวมกันไปเลย



ภาพที่ 1 คุณเลือกที่จะใช้บทจบของบทบรรยายของคุณมานำเสนอเป็นภาพเปิด ซึ่งก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีนะคะ

แต่ก็มีปัญหาตรงมุมกล้องนิดหน่อย รู้สึกว่ามันซูมใกล้มากไปเลยทำให้มองไม่เห็นองค์ประกอบใด ๆ เลย

ถ้าหากว่าไม่ได้อ่านบทมาก่อน ก็อาจจะทำให้ไม่รู้ว่าเธอนั้นนอนอตายอยู่บนหิมะที่เย็บเฉียบ

แต่เรื่องการเสื่อทางสีหน้ากับรายละเอียดอื่น ๆ ทำได้ดีแล้วค่ะ

อยากให้ลองซูมกล้องให้ออกข่างกว่านี้อีกหน่อยน่าจะได้ระยะที่ดีกว่านี้ค่ะ

ภาพที่ 2,3 ภาพนี้ถือว่าเป็นภาพที่ทำได้ดีที่สุดจากภาพทั้งหมด 4 ภาพค่ะ อางค์ประกอบฉาก

และอารมณ์โดยรวมแล้วเข้าใจและรับรู้ได้ถึงความทะเลาะเบาะแว้ง

ซีนที่ชัดเจนมาจากบทบรรยาย ไม่ต้องมานั่งจินตนาการเอาเองว่าฉากนี้สื่อถึงอะไร

ละมีหน้าท่าทางของตัวประกอบทำได้ดีและไม่แย่งซีนตัวหลักมากจนเกินไปค่ะ



ภาพที่ 4 เข้าใจอารมณ์ว่าภาพนี้จะสื่อให้เห็นถึงความสะเมือนใจ หรืออะไรทำนองนั้น แต่เพราะว่าการทำภาพสีแบบนี้

ค่อนข้างมีขีดจำกัดมันสื่อถึงความช๊อค ความสะเมือนใจได้ก็จริง แต่ว่าเวลาปรับภาพออกมา

มันจะทำให้เห็นรายละเอียดที่ไม่กลมกลืนต่าง ๆ ได้ชัดเจนกว่าทำภาพปกติ

ภาพนี้สื่ออารมณ์ได้จริงค่ะ แต่ว่าความละเอียดของงานก็จะถูกดรอปลงไปด้วยเพราะการปรับภาพค่ะ



ในส่วนของเครื่องแต่งกายมีจุดที่สะดุดตาอยู่นิดหน่อยคือ ชุดของตัวหลักที่ใส่น่ะคะ มันเหมือนกับคาบเลือด

หรือคาบอะไรสักอย่าง ซึ่งตอนนั้นเธอยังไม่ตายใช่ไหมคะ อาจจะบอกว่าเธอถูกใช้งานหนักจนมอมแมมก็เข้าใจในจุดนั้นได้ค่ะ

แต่มันรู้สึกชัด ๆ เล็กน้อยกับชุดของ พ่อแม่ที่ยังคงใส่สะอาด ในความรู้สึกมันไม่ขัด แต่เวลาเป็นภาพมันเลยดูไม่ค่อยเข้ากัน

ส่วนในเรื่องของโทนสีนั้นทำได้ค่อนข้างดีค่ะ แต่รู้สึกว่าสีจะยังซีดไปสักเล็กน้อย

อยากให้ลองปรับให้เข้มกว่านี้อีกสักหน่อย เพราะโทนสีที่คุณใช้เป็นโทนสีขาวดำธรรมดา

ภาพเลยจะดูจืด ๆ และไม่ดึงดูดเท่าที่ควรค่ะ







แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2015-04-19 02:19:00
menijung

kusomaho
#58
21-06-2014 - 19:28:28

#58 kusomaho  [ 21-06-2014 - 19:28:28 ]












(ข้อเสนอแนะนี้ถูกเขียนในฐานะสายตาของบุคคลที่ 3 ว่ามีข้อควรปรับปรุงตรงส่วนไหน

ผู้เข้าแข่งขันจะน้อมรับหรือไม่นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณอันพึงมีของท่านค่ะ

มิได้เขียนเพื่อตำหนิ แต่เขียนโดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในอนาคต

การให้คะแนนและข้อเสนอแนะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมุมมอง ทัศนคติ และเรื่องส่วนตัว ขอบคุณค่ะ )








kawpun2535







1. บุคลิก,สีหน้า,แววตา,ท่าโพส ถึงความสอดคล้องกับคอนเซปและคำบรรยาย (15)

2. สัดส่วนของภาพ,มุมกล้อง,ฉาก และองค์ประกอบอื่นๆ (12)

3. คำบรรยายและการนำเสนอ (13.5)

4. ความสอดคล้องของฉาก,เครื่องแต่งกายและคอนเซป (8.5)

5. ความสมดุลของสีภาพและองค์ประกอบโดยรวม (12.3)



61.30 + 18.40 = 79.70





ก่อนอื่นเลยตัวบทบรรยายของคุณนั้น คุณถ่ายทอดอารมณ์มันออกมาได้ดีนะคะ

มีการเลือกใช้คำได้เหมาะสมดี แต่อาจจะมีบางจุดที่ขาดคำเชื่อมหรือคำเสริมที่จะช่วยชูให้บทบรรยายของคุณดูอินได้กว่านี้

การพิพม์ก็ถูกตามหลักไวยากรณ์ดีค่ะ แต่อีกหนึ่งจุดที่คิดว่าค่อนข้างเป็นปัญหาคือการเว้นวรรคคำในแต่ละจุด

แต่ละประโยคของคุณ บางทีคุณเว้นวรรค เว้นช่องไฟในจุดที่ไม่จำเป็นต้องเว้น

เวลาอ่านแล้วมันเหมือนกับว่าคนอ่านจะต้องหยุดหายใจไประยะ ๆ

ตามช่องไฟที่คุณได้เว้นไว้ ซึ่งสิ่งนั้นมันจะทำให้ระบบการประมวลผลเวลาอ่านมันไม่ต่อเนื่องกัน

การรับการถ่ายทอดทางอารมณ์เลยลดลงไป เพราะต้องนั้งประติดประต่อกับบทบรรยายว่าส่วนไหนพูดถึงอะไร

ส่วนไหนเชื่อมกับอันไหนอะไรทำนองนั้นค่ะ วิธีแก้ไขอาจจะยากถ้าให้ลองปรับเปลี่ยนวิธีการพิพม์

แต่ก็ยังมีจุดที่ช่วยให้ดีขึ้นได้ คือการตรวจทานหลังพิพม์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วอยากให้ลอง

ย้อนกลับมาตรวจทานซ้ำดู แล้วค่อย ๆ ขยับปรับเปลี่ยนในจุดที่เว้นวรรคผิดจังหวะไปแบบนี้ก็ช่วยได้ในระดับนึงนะคะ



มาถึงในส่วนที่เป็นการนำเสนอกันบ้าง บทบรรยายของคุณเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความเจ็บปวดและความแค้น

ในส่วนของท่าโพสนั้นก็ถือว่าเลือกใช้ได้ค่อนข้างดีนะคะ แต่การสื่ออารมณ์หน้าตานั้นบางภาพก็ยังดูคลุมเครือไปสักหน่อย

ตัวภาพที่ 1,3,4 อันนั้นยังพอทำความเข้าใจได้ แต่ภาพที่ 2 เป็นภาพที่สะดุดตาเรื่องการสื่ออารมณ์มากที่สุดเลย

เนื่องด้วยท่าโพสที่คุณกำลังจะพยายามสื่อไปถึงความเจ็บปวด โกรธแค้น แต่สีหน้าของตัวละคร

เหมือนกำลังยิ้มเล็ก ๆ มากกว่าเศร้าเลยค่ะ มันเลยค่อนข้างทำให้ดูสวนทางกันจนเกิดคำถามว่าทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น

ในส่วนของฉากเองนั้นการจัดวาง obj ในส่วนต่าง ๆ ก็โอเคนะคะ แต่ถ้าตรงพื้นคิดว่ามันยังคงโล่งไป

ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องระวังมาก ๆ เลยค่ะถ้าหากว่าคุณต้องการจะใช้ท่าโพสที่นั่งกับพื้น

หรือคุกเข่ากับพื้น เพราะว่าบริเวณพื้นที่ตรงส่วนนั้นมันคุมมุมกล้องได้ยาก วิธีแก้ปัญหาที่พอจะช่วยได้ก็คือการกดมุมกล้องลงต่ำ ๆ

ให้ติดพื้นเลย แล้วค่อย ๆ เงยหมุน ๆ กล้องขึ้นให้ได้มุมเสยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันจะช่วยพรางตาพื้นที่ว่างบนพื้นได้

เรื่องของตัวฉากนั้นก็ถือได้ว่าพัฒนาขึ้นจากซีซั่นก่อน แต่ก็ยังมีบางจุดที่วาง obj ไม่ถูกมุมไปสักหน่อย

ที่แปลกตามาก ๆ เลยคงจะเป็นตะกร้าที่ใส่รูป ที่วางอยู่กับพื้นน่ะคะ คือตัวรูปที่อยู่ในนั้นมันแย่งซีนมาก ๆ เลย

ไม่รู้ว่าเป็นรูปอะไร รูปนักอวกาศอะไรสักอย่าง เหมือนมันทำให้ธีมที่กำลังสื่อมันสับสน ถามว่ามีแล้วผิดหรือไม่ ก็ไม่ผิดนะคะ

เพียงแค่ว่าถ้าไม่มีก็อาจจะดีกว่า เพราะมันจะไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรที่มาแย่งซีนธีมโดยรวมของคุณค่ะ

และในรูปเดียวกันแต่เป็นอีกจุดคือตะเกียงไฟที่มีเทีนยอยู่ด้วย การแพลนมุมกล้องจากตรงจุดนั้นมันสวยนะคะถือว่าสร้างสรรค์ดี

แต่สิ่งที่คิดว่าไม่ควรทำคือการที่เน้นโฟกัสตะเกียง แต่เบลอซิมส์ที่อยู่ทางด้านหลัง

ที่จริงก็ควรจะเบลอนะคะ แต่ไม่ควรจะเบลอมากแบบนั้น มันเบลอจนเหมือนกับว่าตัวละครของคุณเป็นตัวประกอบ

ส่วนตะเกียงเป็นตัวหลักของภาพนี้ แล้วก็ยังแสงที่ออกมาจากเทียนนั่นอีก ตัวประกายแสงคุณทำได้ดีในระดับนึงแล้วค่ะ

แต่ควรละค่าโอพาซิตี้ลงอีก แล้วที่ควรระวังเลยคือถ้าเป็นแสงที่สอดออกมากจากวัตถุสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ลำแสงเหล่านั้นต้องไม่ทะลุหรือแปะทับตัววัตถุแบบดื้อ ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือ คุณลบจะใช้ยางลบปรับค่าเบา ๆ

ค่อย ๆ ลบในส่วนที่เป็นซี่เหล็ก หรือลูกกรงที่มันเป็นตัวครอบอยู่ไม่ควรให้บรัช หรือแสงที่ทำขึ้นมาทับมันค่ะ



มาในส่วนสุดท้ายที่จะขอยกขึ้นมาพูดคือเรื่องขององค์ประกอบรวมและสีของภาพด้วย องค์ประกอบรวมของภาพนั้น

ก็จัดวางอะไรต่าง ๆ ออกมาได้ดีพอสมควร เรื่องของโทนสีนั้นคุณก็เลือกใช้ได้ดี ไม่อ่อนจนเกินไป

แต่สิ่งที่ยังขาดไปคิดว่าคือการใส่มิติให้กับผลงานของคุณค่ะ เรื่องการจัดแสงตอนถ่ายภาพ เสน่ห์ตรงนั้นมันหายไปค่ะ

ถ้าหากคุณไม่ต้องการที่จะลงเงาจาก ps เรื่องการจัดแสงเนี่ยจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยที่จะมาทดแทนกันค่ะ

ยังไงอยากให้คุณลองไปศึกษาเรื่องการจัดแสงหรือเงาดูนะคะ คิดว่าคุณคงทำได้เพราะไม่ยากค่ะ

แล้วผลงานของคุณจะออกมากลมกลืนและสวยงามขึ้นกว่านี้อีกค่ะ เพราะภาพในโทนขาวดำนั้นถ้าไม่มีการทำมิติให้รูปภาพ

หรือการเลือกเงาให้เหมาะสม ภาพขาวดำก็จะเป็นภาพที่ไม่น่าใจอะไรเลยค่ะ







แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2015-04-19 02:19:08
kawpun2535

ข้อความตอบกลับความคิดเห็นนี้
kusomaho
จ้า แต่ปุ้นก็พัฒนาเยอะนะจากซีซั่นก่อนเรื่องฉาก ชื่นชมจ้า ส่วนไอ้เว้นวรรคเนี่ยพี่ว่าติดมาจากกดโทรศัพท์ปะ ฮ่า ๆ ห่าง ๆ โทรศัพท์บ้างนะ แซว ๆ
kawpun2535
ขอบคุนคอมเม้น มาก ค่าาา นั่งพิม กี่ชม นี่ (แซว)
บางงานคอมเม้น บรรทัด 2 บันทัด แต่ก้อเข้าใจว่า คงมีเวลาน้อย ก้อเรยเม้น น้อย แต่งานนี้จัดเตมจิงๆ สำหรับคอมเม้น เปนคอมเม้นที่รุสึกว่า มันเปนข้อผิดพลาดจองเราจิงๆ อย่าง เรื่อง ที่เว้นวรรค เนี่ยคือมันเปนอัลไลมะรุชอบกดสเปคบาคำนึวพิมคำนึง เนี่ยตอนนี้ ก้อยังทำ สงสัยติดพิมดีดอังกฤษมันวรรคบ่อย อิอิ
ส่วนภาพที่ 2 เค้าว่า ไม่ได้ยิ้มน้า แต่อาจจะเปนเพราะ มุมกล้องหรือการเบลอภาพรึป่าว ฮี่ๆโทดอย่างอื่น ส่วนเรื่ิองอื่นน้อมรับจ้า รอบนี้จัดฉากไม่ได้ใช้ วอล เหมือนซีซั่นแรกข้อผิดพลาดเรยเยอะ แล้วจะเอาไปปรับปรุง และฝึกลงแสงเงาให้ได้ดีกว่านี้ นะคะ ขอบคุนมากค่ะ ที่เหลือหลังไมต่อ 55

kusomaho
#59
21-06-2014 - 19:28:34

#59 kusomaho  [ 21-06-2014 - 19:28:34 ]












(ข้อเสนอแนะนี้ถูกเขียนในฐานะสายตาของบุคคลที่ 3 ว่ามีข้อควรปรับปรุงตรงส่วนไหน

ผู้เข้าแข่งขันจะน้อมรับหรือไม่นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณอันพึงมีของท่านค่ะ

มิได้เขียนเพื่อตำหนิ แต่เขียนโดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในอนาคต

การให้คะแนนและข้อเสนอแนะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมุมมอง ทัศนคติ และเรื่องส่วนตัว ขอบคุณค่ะ )







kawaiirei







1. บุคลิก,สีหน้า,แววตา,ท่าโพส ถึงความสอดคล้องกับคอนเซปและคำบรรยาย (15)

2. สัดส่วนของภาพ,มุมกล้อง,ฉาก และองค์ประกอบอื่นๆ (9)

3. คำบรรยายและการนำเสนอ (11)

4. ความสอดคล้องของฉาก,เครื่องแต่งกายและคอนเซป (9)

5. ความสมดุลของสีภาพและองค์ประกอบโดยรวม (10.3)



54.30 - 3 (ขนาดภาพ) = 51.30 + 17.04 = 68.34





บทบรรยายสั้น ๆ เข้าใจง่ายดีค่ะ และใช้ภาษาทั่วไปเป็นอะไรที่ไม่ต้องไปตีความหมายเอาเอง

แต่ตัวบทบรรยายนั้นค่อนข้างจะออกไปแนวร่วมสมัยมากกว่าจะเป็นยุคเก่าหรือพวกแฟนตาซี เลยคิดว่าคำว่า เฉกเช่นเดียวกับ

น่าจะลองเปลี่ยนเป็นดั่งเช่นเดียวกับหญิงสาวทั่วไป อะไรแบบนั้นจะเข้ากับส่วนอื่น ๆ ของบทบรรยายมากกว่า

ตัวบทบรรยายในช่วงแรกนั้นเรียบเรียงใจความและคำพูดได้ดีค่ะ แต่เหมือนกับว่าบทบรรยายช่วงหลัง

จะค่อนข้างเรียบเรียงสันสนเล็กน้อย คำว่าสับสนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่า เรียงแล้วไม่เข้าใจนะคะ

แต่หมายถึงว่าการเลือกใช้คำ หรือคำเชื่อประโยคหรือการเอ่ยถึง การบอกเล่า มันดูวกวนมากกว่าช่วงแรกน่ะคะ



ส่วนเรื่องของการที่คุณนำเสนอบทบรรยายของคุณออกมาเป็นธีมหุ่นโชว์นั่นก็ตรงและชัดเจนกับตัวบทค่ะ

ซึ่งการเขียนบทบรรยายที่มีลักษณะจำเพาะเจาะจงแบบนี้เป็นข้อดีอีกข้อค่ะ เพราะจะทำให้คุมธีมของภาพ

คุมฉากของภาพได้ง่ายขึ้น ฉากที่คุณนำเสนออกมานั้นคือร้านเสื้อ หรือห้องเสื้อ โดยรวมแล้วก็ทำออกมาได้ดีเลยค่ะ

เพียงแค่ว่าการวาง obj ในฉากที่ค่อนข้างจะต้องใช้ที่กว้างแบบนี้ การวางและการถ่ายจะต้องโฟกัสจุดให้ดี

เลือกเฟรมที่จะโชว์ให้ดี ตรงนี้รู้สึกว่าการวาง obj ต่าง ๆ ในฉากมันห่างกันเกินไป อาจจะด้วยระยะสายตาที่ต้องมองแบบมุมกว้าง

เลยทำให้ดูเหมือนว่าห่างกันเกินไปค่ะ ถ้าหากว่าปัญหาแบบนี้เกินขึ้น จำเป็นอย่างมากที่จะต้องลองขยับสิ่งของต่าง ๆ

ให้เข้ามาใกล้กันอีกนิด แล้วแก้ปัญหาเรื่องความแออัด โดยการลองหมุนมุมกล้องหามุมที่ช่วยพรางตาได้

ก็จะช่วยทำให้ภาพดูไม่โล่งจนเกินไปค่ะ ขอต่อที่เรื่องมุมกล้องอักสักนิดหน่อย มุมกล่องในภาพที่คุณนำเสนอออกมานั้น

บางภาพยังคงมีความรู้สึกว่าการกดมุมต่ำหรือมุมสูงของกล้องมันไม่ค่อยพอดีกับท่าโพส

ภาพที่ออกมาเลยดูแปลก ๆ เหมือนกับว่ามันไม่ค่อยพอดีเฟรมอะไรแบบนั้นอะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยในภาพที่ 3

ภาพคู่รักทางด้านซ้ายมันเหมือนกำลังจะหลุดจากเฟรม ซึ่งจะสามารถเข้าใจได้นะคะถ้าหากว่าคุณจะโฟกัสที่หุ่น

แต่ว่าก็ควรเบลอในส่วนที่คุณจะไม่ค่อยเน้นให้มากกว่านี้ค่ะ เพราะอันนี้มันเหมือนอยู่มิติเดียวกัน มิติทางสายตาน่ะคะ

คือเด่นทั้งหุ่นและคู่รักเลยค่ะ อีกประเด็นคือคุณควรจะขยัยมุมของคู่รักนั่นให้เข้ามาในเฟรมอีกหน่อย

มันจะช่วยให้ภาพดูไม่ลอย ๆ ได้ในระดับนึงค่ะ



มาถึงใสส่วนของโทนสี โทนสีของภาพมันค่อนข้างดูสว่างโพลนกลืนกันไปหมดเลย เพราะว่าวอลเปเปอร์สีอ่อน

พื้นสีอ่อน obj อื่น ๆ สีอ่อน มีเพียงหุ่น กับเสื้อผ้าของตัวประกอบที่สีเข้ม เวลาที่ปรับเป็นภาพขาวดำมันค่อนข้างจะชีดมากจนเกินไป

คุณอาจจะลองใส่โฟร์กราวทำขอบสีดำสักหน่อย ไล่ระดับจากเข้ามไปหาอ่อนเข้าหาตัวละคร

มันน่าจะช่วยพรางตาความขาวโพลนของส่วนต่าง ๆ ในภาพได้ไม่มากก็น้อยค่ะ






แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2015-04-19 02:19:26

kusomaho
#60
21-06-2014 - 19:32:36

#60 kusomaho  [ 21-06-2014 - 19:32:36 ]












(ข้อเสนอแนะนี้ถูกเขียนในฐานะสายตาของบุคคลที่ 3 ว่ามีข้อควรปรับปรุงตรงส่วนไหน

ผู้เข้าแข่งขันจะน้อมรับหรือไม่นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณอันพึงมีของท่านค่ะ

มิได้เขียนเพื่อตำหนิ แต่เขียนโดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในอนาคต

การให้คะแนนและข้อเสนอแนะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมุมมอง ทัศนคติ และเรื่องส่วนตัว ขอบคุณค่ะ )








Maynarakmak






1. บุคลิก,สีหน้า,แววตา,ท่าโพส ถึงความสอดคล้องกับคอนเซปและคำบรรยาย (15.6)

2. สัดส่วนของภาพ,มุมกล้อง,ฉาก และองค์ประกอบอื่นๆ (11)

3. คำบรรยายและการนำเสนอ (14)

4. ความสอดคล้องของฉาก,เครื่องแต่งกายและคอนเซป (9)

5. ความสมดุลของสีภาพและองค์ประกอบโดยรวม (11.8)



61.40 + 19.04 = 80.44





อย่างแรกเลย บทบรรยายเหมือนบทละครเลยค่ะ ละครรักของชนชั้นสูงอะไรทำนองนั้น

ความรู้สึกเหมือนได้อ่านเรื่องย่อของละครเรื่องนึงเลย ข้อควรละวังสำหรับการเขียนบทบรรยายที่มีความยาวมาก

คือการต้องระวังเรื่องของการเรียบเรียงคำพูด ประโยค การเชื่อมคำ ต้องจัดวางคะ และใส่เครื่องหมายต่าง ๆ

ที่แสดงถึงอารมณ์นั้น ๆ ได้ชัดเจน เพราะตัวบทบรรยายในแบบยาวนั้นจะพบเห็นได้ส่วนมากในรูปแบบของ นวนิยาย

นิยาย ละคร อะไรพวกนั้น ซึ่งมันจำเป็นต้องใช้จินตนาการสูงเพื่อให้เห็นภาพตามไปด้วย เพราะตัวหนังสือมันเยอะมาก

เพราะฉะนั้นการใส่เครื่องหมาย เรียบเรียงคำ จัดวาง ย่อหน้านั้นเป็นสิ่งที่ต้องตรวจทานและควรระวังมากที่สุดค่ะ

ที่กล่าวถึงประเด็นนี้ขึ้นมาก่อนก็เนื่องด้วยว่าบทบรรยายของคุณจัดอยู่ประเภทนั้น

ตัวบทบรรยายอ่านแล้วก็เข้าใจดีนะคะไม่สับสน แต่ยังขาดการสื่ออารมณ์ค่ะ อ่านแล้วยังไม่รับรู้ถึงอินเนอร์ในตัวบทบรรยาย

ไม่ได้หมายความว่าตัวบทบรรยายไม่ดราม่านะคะ ตัวบทน่ะดราม่า แต่การถ่ายทอดทางตัวหนังสือ การเรียบเรียง

การเชื่อมคำมันมีความสะดุดอยู่ตลอดทั้งเนื้อเรื่องเลยค่ะ เวลาอ่านตั้งแต่ต้นจนจบเลยทำให้ไม่รู้สึกถึงอินเนอร์ข้างใน

เหมือนกับว่าอ่านเรียงความแบบนั้น ถ้าหากลองตรวจทาน ปรับเปลี่ยนนู้นนิดนี่หน่อย

บทบรรยายของคุณจะสื่อความหมายได้ดียิ่งขึ้นค่ะ



ต่อจากบทบรรยายของโยงมาในส่วนที่ค่อนข้างจะมีอิทธิพลต่อกันอย่างมากก็คือการสื่อความหมายของภาพ

ขอไล่เป็นลำดับ ๆ ไปนะคะ สำหรับภาพแรก ภาพนี้ดูแล้วเข้าใจได้ง่ายถึงอารมณ์ของภาพจากการสื่อผ่านทางท่าโพส

เป็นภาพที่สื่ออกมาได้ดีค่ะ แต่ยังมีบางจุดที่ทำให้ภาพขาดควาสมบูรณ์ไปก็คือ การเลือกใช้ท่าโพสที่ไม่พอดีกันค่ะ

จริง ๆ แล้วปัญหาการถ่ายภาพคู่มันค่อนข้างมากเลยทีเดียว แต่อยากให้ใส่ใจเรื่องนี้สักหน่อยถ้าหากว่า

เป็นการถ่ายงานเพื่อส่งแข่งขัน เพราะถ้าหากท่าโพสคู่ไม่เสมอกันก็อาจจะปรับเปลี่ยนแก้ไขโดยการใช้ท่าโพสอื่น

หรือลองผสมท่าโพส หรือลองให้มุมกล้องเข้าช่วยก็ได้ค่ะ และอีกจุดในภาพนี้คือพื้นที่ว่างเปล่าในภาพ

คือเข้าใจในการเบี่ยงเพื่อใส่ฉากอดีตเข้าไปนะคะ แต่ตรงคุมให้ดีด้วยตรงส่วนที่เป็นท้องฟ้าและพื้นดิน

เพราะมันทำให้ภาพไม่ค่อยสมดุลเลยค่ะ เหมือนหนักข้าง เบาข้างน่ะค่ะ ที่จริงวิธีแก้ปัญหาที่พอจะพรางตาได้

ถ้าการจัดฉากของเราไม่ละเอียเท่าที่ควร ก็คือการเบลอจุดที่ไม่ต้องการที่จะโฟกัสแต่ยังอยากนำเสนอในเฟรมนั้น ๆ

มาถึงอีกส่วนที่ขอยกมาคือการสื่ออารมณ์ในภาพที่ 3 ถ้าหากนั่นจะบอกว่าเป็นอ้อมกอดสุดท้าย

ของการต้องจากลากันไปตลอดกาล หรือเป็นอ้อมกอดของการบอกลาจากกัน คิดว่าควรจะนำเสนอท่าโพสนั้น

ให้ออกมาดูอบอุ่นและดูอาธรณ์ต่อกันมากกว่านี้ เข้าใจได้ว่าการกอดปลอบโยนจากด้านหลังก็ให้ฟิลนั้นได้

แต่ว่าสีหน้าที่แสดงออกมามันคือร้องไห้อย่างหนักหน่วงเลยทีเดียว ถ้าหากว่าลองปรับเปลี่ยนท่าโพสใ

ห้เป็นการหันหน้าเข้าหากัน แล้วปลอบโยนกันและกัน คิดว่าอารมณ์ของภาพนี้จะเปลี่ยนไปพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ

และภาพสุดท้ายที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลยค่ะ ภาพนี้ตีอารมณ์ได้ดีนะคะสำหรับการสื่อความเข้าใจว่าเบื้องหน้าต้องเข้มแข็ง

แต่เบื้องหลังที่สูญเสียคนรักไปนั่นแสนจะเจ็บปวด แต่ว่ามันแปลกตาไปสำหรับเรื่องของการแต่งภาพค่ะ

ถ้าคุณจะเลือกทำภาพ ๆ เดียวแต่ให้มี 2 เฟรม รายละเอียดที่คุณควรใส่ใจเลยคือการเชื่อมต่อกันของเฟรมทั้ง 2 ค่ะ

จะเป็นด้วยการเบลอ การไล่สีหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ไม่ใช่เห็นแบบเป็นเส้นชัดเจนขนาดนี้ มันดูไม่กลมกลืนอย่างมาก

ทำให้ภาพดูเป็นภาพที่ไม่ละเอียดละออ ที่จริงแล้วถ้าจะทำเป็นการสื่อ 2 อารมณ์แบบนี้

ความจริงไม่ต้องทำให้อีกเฟรมเป็นเพียงสีดำก็ได้ค่ะ เป็นฉากเดียวกันเลยก็ได้

แต่ใช้วิธีทำให้คล้ายกับเป็นภาพสะท้อน แบบนั้นงานที่ได้ออกมาจะดูกลมกลืนมากกว่านี้ค่ะ



เรื่องสุดท้ายคือส่วนขององค์ประกอบโดยรวมและโทนสีนะคะ เรื่องขององค์ประกอบโดยรวม

อย่างที่ได้กล่าวไปในส่วนแยกย่อยอื่น ๆ แล้ว คือจะมีบางจุดที่ไม่สมดุลและถูกปล่อบโล่งจนเกินไป

ตัวของภาพนั้นไม่มีการสร้างมิติให้ภาพเลย แก้ปัญหาได้โดยการเบลอส่วนต่าง ๆ ค่ะ

ไล่ระดับมากน้อยให้แตกต่างกันออกไป ส่วนเรื่องการลงแสงเงาก็ถือว่าทำได้ดีค่ะ แต่บางจุดก็เหมือนกับว่าปาดเงาไม่สม่ำเสมอ

ภาพจุดที่เป็นสีสว่าง ๆ ตามตัวละครเลยออกมาเหมือนสีผิวที่ไม่เท่ากัน ส่วนโทนสีเนื่องจากว่าภาพบางภาพมีโทนสีอ่อน

ควรจะลองปรับภาพให้เข้มมากกว่านี้แล้วก็ใส่โฟรกราวสีเข้มลงไปช่วยกลบก็จะทำให้งานเนียนขึ้นได้อีกค่ะ

และสิ่งที่สำคัญเลยคือ การเลือกใช้ตัวประกอบเข้ามาร่วมในผลงาน เราไม่ควรจะชูตัวประกอบให้โดดเด่นกว่าตัวละครของเรา

ถ้าหากไม่ได้เป็นงานคู่ก็ไม่ควรทำนะคะ เพราะจากภาพทั้งหมด 3 ใน 4 ตัวประกอบของคุณโดดเด่นกว่าตัวหลักพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ







แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2015-04-19 02:19:35


ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 5th June 2025 14:26

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ