ณ. ภายในจุดศูนย์กลาง นครวาติกัน
หลังจากที่กองทัพของฝ่ายวิทยาศาสตร์ได้เข้ายึดนครวาติกันที่เป็นเมืองหลวงศาสนจักรได้นั้นทำให้ฝ่ายศาสนจักร
ได้สูญเสียกองกำลังเกือบครึ้งในการป้องกันเมืองแต่สุดท้ายก็รักษาเมืองไว้ไม่ได้
ซายะ : หึหึหึ... มาถึงทั้งที ไม่นึกว่าจะได้เจอกับนายอีกนะเนี้ย...
ฮิโรยาม่า : แล้วนายน่ะ มาทำอะไรที่นี้...?
ซายะ : ตอนนี้เรื่องสนุกกำลังจะเกิดขึ้น
ฮิโรยาม่า : งั้นฉันจะหาเรื่องสนุกให้นายเอง
ซายะ : อย่างนายจะมีเรื่องสนุกๆให้ฉันดูได้งั้นเหรอ
ฮิโรยาม่า : หึ... งั้นเดี๋ยวนายก็รู้เอง
ฮิโรยาม่าเรียกทหารที่อยู่ใกล้แล้วสั่งคำสั่งอะไรบางอย่างที่เป็นภาษาที่ซายะไม่รู้มาก่อนและในตอนนั้นกองทหารส่วนหนึ่งได้
พาตัวผู้นำของศาสนจักรมาที่ลานกวางหน้าวิหารหลวง
ซายะ : นี้แกจะทำอะไรเนี้ย...!!!
ฮิโรยาม่า : ก็เล่นสนุกยังไง... หรือว่าแกไม่ชอบ
ซายะ : ไม่มีคำสั่งให้ประหารผู้นำของศาสนจักรซะหน่อย...!!!
ฮิโรยาม่า : ใครว่าไม่มี คำสั่งก็อยู่นี่ไง
ซายะชักมีดสั้นออกมาแล้วฟันไปที่กระดาษที่เขียนคำสั่งเกี่ยวกับการประหารผู้นำศาสนจักรจนขาดแล้วฟันไปที่แขนเสื้อของ
ฮิโรยาม่าอีกครังจนขาดและกระโดดลงจากยอดตึกที่ตัวเองยืนอยู่
ซายะ : พวกแกจะทำอะไรกัน
ทหาร : เราได้รับคำสั่งให้เริ่มการประหารก่อนเวลาครับ
ซายะ : เอาปืนมานี่ ฉันจัดการเอง
ทหาร : ตะ..แต่ว่าท่านฮิโรยาม่าสั่งให้พวกเราทำนะครับ
ซายะ : ช่างหัวมัน !!! หรืออยากให้ฉันฆ้าแกทิ้ง
ทหาร : ได้ครับ
ซายะหยิบปืนจากทหารมาแล้วยองไปที่กุญแจข้อมือของผู้ของศาสนจักรและเปิดผ้าปิดตาของผู้นำศาสนจักรออก
ซายะ : ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
ลอร่า : เสียงนี้มัน ซายะ ใช่มั้ย...?
ซายะ : ใช่... ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
ลอร่า : 5 ปีแล้วสินะ แล้วทำไมนายไปอยู่กับพวกมันได้ล่ะ
ซายะ : เรื่องเล็กน่า ตอนนี้รีบไปดีกว่า ถ้าอยู่นานเดี๋ยวตัวอันตรายจะมา
ตูม !!!
ซายะโดนการโจมตีด้วยท่าจับทุมโดยไม่รู้ตัวและรู้สึกว่าซายะจะไม่โดนแบบเต็มๆแต่อย่างน้อยก็ทำให้ซายะบาดเจ็บ
ได้มากพอสมควร
ฟลังดร์ : ว่ายังไงอิซายะคุง....
ซายะ : หึ... คิดอยู่แล้วว่าเธอต้องมาที่นี่ ฟลังดร์
ฟลังดร์ : นายยังกล้าจะมาเสนิหน้าที่นี่อีกนะ
ซายะ : ปกติแล้วเธอทำงานอยู่แถวๆตะวันออกไม่ใช่รึไง...?
ฟลังดร์ : นั้นมันผ่ายมาเกือบครึ้งปีแล้ว ตอนนี้ฉันได้งานใหม่แล้ว...
ซายะ : โทษทีนะ พอดีว่าฉันยุ่งเพราะต้องมาช่วยท่านผู้นำ
ฟลังดร์ : นายหลอกฉันไม่ได้หรอก ฉันรู้ดีว่านายหนีรอดมาได้ด้วยวิธีโกหกทุกครั้ง
ซายะ : มันก็ไม่แน่หรอกนะ ถึงฉันจะชอบความคิดของมนุษย์ แต่พวกแวมไพร์นั้นมันคนล่ะเรื่อง
ฟลังดร์ : จะพูดแต่เรื่องไม่เข้าใจไปถึงไหนกันนะ
ฮิโรยาม่า : หึหึหึ... ตอนนี้พวกนายยังจะมาทะเลาะกันอีกรึไง
ซายะ : ฮิโรยาม่าจัง ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเธอหรอกนะ
ฟลังดร์ : เธอเป็นใครฉันไม่สน แต่ถ้าอย่กมีเรื่องก็เข้ามา
ฮิโรยาม่า : พวกคุณคงจะไม่รู้เรื่องพลังของฉันสินะ
ตูม !!!
มีดบินของฮิโรยาม่านับพันเล่มพุ่งเข้าไปใส่ซายะและฟลังดร์ด้วยความเร็วระดับสูงจนมองไม่เห็นมีดและทหารได้เข้าไปล้อม
ตัวฟลัดร์และซายะ
ฮิโรยาม่า : ว่ายังไง... มีพลังกันแค่นี้รึไง
ซายะ : ไม่ได้เห็นเธอเอาจริงแบบนี้มานานแล้วนะ
ฮิโรยาม่า : สรุปแล้วนายจะเอายังไงกันแน่
ซายะ : ฉันไม่ยอมทำงานให้กับคนอย่างพวกนายหรอก
ฟลังดร์ : นายคิดว่าจะมีคนให้นายกลับตัวกลับใจรึไง
ซายะ : มันก็ไม่แน่หรอก
ณ. เมืองเรย์เซน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง
ในยามคำคืนอันแสนสงบแต่น่าเสียดายที่ความสงบมีแค่เมืองส่วนตะวันตกเพราะส่วนตะวันออกยังมีทหารของกองทัพฝ่ายศัตรูที่
หลงเหลืออยู่ และมีหญิงสาว 3 คนได้เดินมาจนถึงหน้าคฤหาสน์หลังหนึ่งในเมืองเขตเหนือ
มาโดกะ : ก็เป็นอย่างที่เล่าไปค่ะรุ่นพี่ หนูว่าเราควลรีบออกจากเมืองตามที่ริซานบอกไว้ดีกว่านะ
มามิ : อืม... มันก็จริงอยู่นะ แต่เจ้าริซานมันหายไปเมื่อ 7 ปีก่อนแล้ว ตอนนี้ตายรึแล้วรึเปล่ายังไม่มีใครรู้เลย
แมสซ่า : ไม่หรอก พี่ริซานยังมีชิวิตอยู่นะ
มาโดกะ : แล้วเธอรู้ได้ยังไง...?
แมสซ่า : ฉันเห็นพวกพี่ๆ
มามิ : เธอเห็นพวกนั้นด้วยเหรอ...
แมสซ่า : ทำไมเหรอ...?
มาโดกะ : ฉันเพิ่งไปถามจากพวกทหารมาน่ะ มีรายงานว่าครอบครัวของริซานทุกคนถูกฆ้าตายทั้งหมด
แมสซ่า : ว่าไงนะ...!!!
มามิ : พวกเราคิดว่าคนในครอบครัวของริซานคนสุดท้ายคือเธอและมีคนกำลังตามหาตัวเธออยู่
แมสซ่า : จะเป็นไปได้ยังไง!!! พ่อแม่ฉันอยู่ที่นครวาติกันเลยนะ ที่นั้นน่ะไม่เคยมีใครโจมตีได้เลยนะ
มาโดกะ : นั้นแหละข่าวร้าย ตอนนี้นครวาติกันโดนยึดไปแล้ว ประชาชนเกือบ 50% ตายไปในการโจมตีของพวกมัน
แมสซ่า : หรือว่า...?
มามิ : ตอนนี้เรายังยืนยันข้อมูลไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้มีเธอคนเดียวที่เคยเจอริซาน
ณ. เมืองเรย์เซนเขตตะวันตก สะพานข้ามแม่น้ำ
ซากุระที่ร่วงโรยและดวงจันทร์สีแดงตัตกับเงาของดาบของโชกุนฟูจิวาระที่นั้งคุกเข่าเหมือนรอใครบางคนอยู่กลางสะพานข้ามแม่น้ำ
และคนที่เดินขึ้นสะพานมาคือ โยมิ
โยมิ : นี่นายนะ ถอยไปซะถ้ายังไม่อยากตาย
ฟูจิวาระ อากาฮิโตะ : อืม.... เจ้าคือคนที่บุกมาโจมตีเมืองนี้สินะ
โยมิ : ถ้าใช่แล่วจะยังไง นายก็เป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่รึไง
ฟูจิวาระ อากาฮิโตะ : เจ้าแน่ใจนะว่าสิ่งที่เจ้าพูดมานั้นจะจริงไปทุกๆเรื่อง
ฟุ่บ !!!
ดาบของโชกุนฟูจิวาระได้ฟันไปที่แขนเสื้อของโยมิด้วยความเร็วสูงแบบที่โยมิเองก็มองไม่ทันและมีเลือดออกมาจากจากส่วนที่โดนฟัน
แต่ยังโชคดีที่โดนเเค่ถากๆ
ฟูจิวาระ อากาฮิโตะ : เมื่อกี้เป็นการเตือนเรื่องมารยาท รอบหน้าจะเอาจริงละนะ
โยมิ : เก่งจริงก็เข้ามาเลย Dead master !!!
ฟูจิวาระ อากาฮิโตะ : ต้องพูดอีกกี่ครั้งถึงจะเข้าใจนะ
ตูม!!!
เคียวของโยมิในร่างของ Death Master ถูกหยุดไว้กับที่ด้วยปลายดาบของโชกุนฟูจิวาระทั้งทีเคียวของโยมิทำให้บ้านที่อยู่ข้างหลัง
ตนเองจนราบและโชกุนฟูจิวาระได้เก็บดาบเขาฝักก่อนจะนั้งคุกเข่าอีกครั้ง
ฟูจิวาระ อากาฮิโตะ : ฝีมือระดับเธอไม่น่าจะไปเป็นพวกมันเลยนะ
โยมิ : คิดจะสั่งเสียก่อนแพ้รึไง
ฟูจิวาระ อากาฮิโตะ : เปล่า... ที่แพ้นะเธอนั้นแหละ
ฉัวะ!!!
ร่างกายของโยมิถูกอะไรบางอย่างฟันเข้าหลายจุดทั่วร่างกายจนเลือดของโยมิไหลออกมาไม่หยุดและโยมิล้มลงกับพื้น
โยมิ : ทำไมกัน...? นี้มันอะไรกัน...?
ฟูจิวาระ อากาฮิโตะ : จริงๆแล้วข้าไม่ได้ฆ้าเจ้าหรอกนะ เจ้าจะแค่สลบไปเท่านั้น
โยมิ : ทำไมไม่ฆ้าฉันเลยล่ะ
ฟูจิวาระ อากาฮิโตะ : เรื่องนั้นข้าคงให้คำตอบไม่ได้
ณ. ปราสาทร้าง ตอนเหนือของเมืองฟิเรนเซ่
ชายในชุดคลุมสีดำที่เดินฝ่าพายุหิมะมาได้มองไปที่ปราสาทร้างที่อยู่ตรงภูเขาข้างหน้าและได้พูดกับหญิงสาวอีกคนที่อยู่ข้างๆ
ริซาน : ในที่สุดก็มาถึงจนได้... เธอคงไม่เป็นไรสินะ
ยูกะ : ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แล้วพี่ล่ะ
ริซาน : พี่ไม่เป็นไรหรอกแต่ว่าตอนนี้เข้าไปในนั้นก่อนไม่ดีกว่าเหรอ
ยูกะ : ค่ะ ว่าแต่พี่มาที่นี่ทำไมเหรอค่ะ
ริซาน : ถ้าเรื่องที่พี่คิดไม่ผิด ที่นี่เป็นรังของมังกรน่ะ
หลังจากที่ริซานเดินเข้ามาในปราสาทแห่งนี้ริซานกับยูกะได้ลองเดินสำรวจภายในตัวปราสาทจนมาพบเข้ากับทางเข้าห้องเก็บ
ขนาดใหญ่ืที่ถูกซ้อนไว้ใต้ปราสาทตามที่ริซานคิดไว้
ริซาน : ในที่สุดก็เจอซะที...
ยูกะ : เจออะไรเหรอค่ะ...?
ริซาน : ที่นี่เป็นโกดังที่เก็บของที่เพื่อนของพี่เก็บซ้อนไว้
ยูกะ : อะไรถูกซ้อนไว้เหรอค่ะ...?
ริซาน : ไม่รู้สิ...