Chapter 2 เริ่มต้นการผจญภัย
2 เดือนก่อนหน้านี้ ณ.โลกมนุษย์
ช่วงฤดูหนาวที่หมดไปฤดูใบไม้ล่วงเข้ามาแทนคงเป็นเวลาที่เหล่ามนุษย์มีความสุขกัน...แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไร้ความสุข
บอสซัน : เมื่อไรจะหายหนาวซะทีว่ะเนี้ย...!!!
โนริ : เอาน่า...นี้เพิ่งหมดฤดูหนาวนะ จะไปร้อนทั้นทีได้ไง
บอสซัน : ก็มันน่าเบื่ออ่ะ จะให้ทำไงได้
โนริ : งั้นพรุ่งนี้ลองไปเทียวบ้านนอกมั้ย...?
บอสซัน : ก็ดีนะเพื่อว่าจะมีอะไรสนุกๆ
วันต่อมาทั้งสองได้เก็บข้าวของแล้วนั้งรถไฟต่อรถเมย์กันราวๆเกือบทั้งวันเพื่อเดินทางไปยังเขตชนบทนอกเมืองที่ห้างไกล (โคตรๆ)
หลังจากนั้นรถก็มาจอดที่หน้าบรรไดทางขึ้นศาลเจ้าแห่งหนึ่ง
บอสซัน : ที่นี้ใช้มั้ย...?
โนริ : ก็น่าจะใช้นะ สมัยเด็กฉันเคยมาที่นี้บ่อยๆ
บอสซัน : ที่ศาลเจ้า ฮาคุเรย์ เนี้ยนะ
โนริ : ที่นี้ตั้งมาตั้งแต่ ญี่ปุ่นในช่วงยุคเมย์จิ เลยนะท่าทางจะเก่าแก่มาก
บอสซัน : ยังไงก็แค่ศาลเจ้าเก่าๆ...
บอสซัน : เอ่อมาทั้งที่ก็ทำบุญหน่อยดีกว่า
กริ๊ง...!!! เสียงของเหรียญ 100 เยน กระทบลงบนตู้บิจาคได้ไม่นาน ลมในบริเวณรอบๆก็เริ่มเปลี่ยนทิศทางและ
พื้นที่ทั้งสองยืนอยู่ก็ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว ทั้งสองตกลงไปในนั้นโดยที่ยังคงมีสติอยู่ครบและคิดว่าตัวเองไม่ได้เห็นภาพหลอนไปเอง
โนริ กำลังจะบอกอะไรบ้างอย่างกับ บอสซัน แต่เวลาไม่ชอบรอใคร ทั้งสองได้พลัดหลงกันไปคนละทาง
เกนโซวเคียวสีขาวเงินในยามบ่าย
หิมะสีขาวตามธรรมชาติที่ไม่มีผู้ใดแตะต้องร่วงโรยลงมาอย่างเงียบสงัด, ทำให้เห็นทิวทัศน์อันงดงามราวภาพมายา
ได้ยินเพียงเสียงร้องที่คล้ายกับเสียงกรีดร้องของโยวไคแว่วมาแต่ไกลเท่านั้น
ถนนถูกปกคลุมด้วยหิมะใหม่ที่ยังไม่มีรอยเท้าของผู้ใด
แทบไม่มีมนุษย์คนใดมาเยี่ยมเยือนจนถึงบริเวณนี้เลย
หากเดินมาตามเส้นทางที่ไร้ถนน ในที่สุดก็จะมองเห็นร้านค้าที่มีสถาปัตยกรรมแปลกประหลาด
เจ้าของร้านคงจะกำลังรับความอบอุ่นจากเตาผิงของโลกภายนอกไปพลาง, นั่งอ่านหนังสือที่ไม่เข้าใจความหมายไปพลางอยู่แน่ๆ
เขามักทำแบบนั้นตอนที่กำลังว่างเป็นประจำเลยล่ะ
ภายในร้านมีสินค้าจากโลกภายนอกอยู่มากมาย
เกนโซวเคียวถูกตัดขาดจากโลกภายนอกในยุคเมย์จิ, แต่สินค้าของยุคหลังจากนั้นก็มีอยู่มากมาย
ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ไม่รู้วิธีใช้แน่ชัด
ป้ายของร้านมีตัวอักษรเขียนว่า โควรินโดว
ที่นั่นคือร้านขายอุปกรณ์นามว่า "โควรินโดว" นั่นเอง
เอเชีย : "คุณรินโนะสุเกะ ?"
ไม่มีใครมาที่ร้านเสียนาน
รินโนะยังอยากอ่านหนังสืออยู่ แต่ลูกค้าคือพระเจ้า,
จะแกล้งทำเป็นไม่อยู่ก็ไม่ได้เสียด้วย
เอเชีย : อยู่ใช่มั้ย ?
พระเจ้าที่สวมชุดดำมาอยู่ข้างหลังโดยไม่รอให้รินโนะเลิกแกล้งทำเป็นไม่อยู่ด้วยซ้ำ
รินโนะ : อะไรกัน เอเชียเองเหรอ, บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเข้ามาตามอำเภอใจน่ะ ?
เอเชีย : ที่สำคัญกว่านั้นคือช่วยฟังหน่อยสิ, ฉันเจอเรื่องแย่ๆมาล่ะ -*-
รินโนะ : อะไรอีกล่ะ
เอเชีย : ก็วันนี้น่ะเป็นวันครบรอบที่พวกมนุษย์จะเข้ามาที่นี้ได้นะสิ...
รินโนะ : แล้วมันยังไงหล่ะ...?
เอเชีย : ก็มีอาหารมาทั้งที่แต่ด้วยสัญญานั้นเลยทำให้อดเลย T_T
รินโนะ : ก็จริงนะ แต่ใช้ว่าปีนี้จะมีมนุษย์มาซะหน่อย
เอเชีย : อ้าว ? เคียว นี่นา มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไงน่ะ...?
เคียว : นั่นมันคำพูดของทางนี้ต่างหากล่ะ ฉันน่ะ, แค่มาดูว่ามีของอะไรใหม่ๆเข้าร้านบ้างรึเปล่า
เท่านั้นแหละเป็นลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบไงล่ะ
รินโนะ : เอเชีย ไม่ควรชี้ร้านของผมแล้วพูดว่าที่ "แบบนี้" ไม่ใช่เหรอ...?
เอเชีย : มากี่ครั้งก็ไม่เห็นมีลูกค้าเลยนี่นา ทำเลก็แย่อีกต่างหาก
ฉันน่าจะพูดไปแล้วนะว่าฉันเป็นลูกค้า, เคียวพูดแบบนั้น พลางเริ่มอ่านหนังสือที่รินโนะกำลังอ่านอยู่
ส่วนเอเชียก็เริ่มหยิบกาน้ำชาจากชั้นวางของมาใส่ใบชาตามอำเภอใจ
สองคนนี้ชอบทำตามอำเภอใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ทั้งที่ไม่ใช่ลูกค้าด้วยซ้ำ
2 เดือน กับอีก 3 วัน ต่อมา
ณ.ศาลเจ้าฮาคุเรย์
ฮารุ : ยังอยู่ดีใช้มั้ย บอสซัน ?
บอสซัน : ก็อย่างที่เห็น ยัยนักข่าว แล้วเธอมาทำอะไรที่นี้
ฮารุ : ก็แน่นอน หนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ไง มีข่าวพวกชินเรย์ลงหน้า 1 ด้วยนะ
บอสซัน : งั้นเหรอ ขอบใจนะ
เคียว : ยัยนักข่าวฉันบอกแล้วใช้มั้ยว่า ศาลเจ้านี้ไม่รับหนังสือพิมพ์
ฮารุ : เอาน่าแค่ 500 เยน ต่อวันเอง....
เคียว : ที่นี้รับเฉพาะของฟรีเท่านั้นว้อย...!!!
คฤหาสน์มารแดง
ฟราน : เข้านี้มีอะไรกินบ้างอ่ะ...
ลูกเกด : ตื่นมาก็ถามหาของกินเลยนะ...
ฟราน : เธอมานี้ได้ไง...? แถมเป็นในห้องฉันด้วย
ลูกเกด : ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอหรอก ฉันแค่มีเรื่องมาบอกน่ะ
ฟราน : เรื่องอะไร ?
ลูกเกด : ก็เรื่องพวกชินเรย์ไง ฉันรู้แล้วนะว่าต้นเหตุมาจากโลกวิญญาญ
ฟราน : งั้นเหรอ... ฉันว่าเราลองไปที่โลกวิญญาญดูมั้ย ?
ณ.โรงเตี๊ยมนิรันดร์
ฮิเดโยชิ : ช่วงนี้น่าเบื่อจริงๆมีแต่เรื่องปวดหัว
คิงะ : งั้นไม่ลองไปลืบเรื่องนี้หน่อยล่ะ
ฮิเดโยชิ : ขี้เกียจ...ไม่เอาด้วยหรอก
คิงะ : งั้นไปโลกวิญญาญกันมั้ย ?
ฮิเดโยชิ : น่าสนใจนะ งั้นก็ไปกันเลยสิ