โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
เรื่องผีใครน่ากลัวสุด
บีมว้อย
#21
บีมว้อย
09-02-2012 - 19:16:48

#21 บีมว้อย  [ 09-02-2012 - 19:16:48 ]





quote : note_the_star8


เรื่องของเรามีชื่อเรื่องว่า สะพาน 100 ศพ


เรื่องมันเริ่มที่ว่าวันนั้นเป็นวันปิดเทอม แล้วพอดีน้องที่รู้จักเขามาชวนไปเที่ยวเขาสวนกวางเปิดใหม่ แล้วเราก็ขึ้นรถไป
พอใกล้ถึงสะพานน้องเขาก็บอกเราว่า "กลั้นหายใจนะพอจะถึงสะพาน" เราก็ถามว่าทำไมแต่น้องเขาก็ไม่บอกเราก็ทำตามอ่ะนะ
พอใกล้จะถึงบ้านเราก็เลยถามอีกรอบน้องเขาบอกว่า "ตรงนั้นเป็นสะพานที่พอมีคนฆ่ากันตาย เขาจะเอาศพมาทิ้งไว้ที่นี้"
พอได้ฟังอย่างนั้น เราก็ไม่กล้าไปไกลจากบ้านอีกเลย
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่จ.ขอนแก่นแล้วเราก็กลัวความมืด แล้วก็การอยู่ที่ไหนคนเดียวด้วยไม่กล้าอยู่คนเดียวเลยอ่ะ


ขอนเเก่นเหมือนกันเลยค่ะ
อีกอย่างนึงเวลารถข้ามสะพานวิ่งเร็วอย่างกับหนีผีเลยค่ะ55



Que mal!
rocketness
#22
09-02-2012 - 21:45:57

#22 rocketness  [ 09-02-2012 - 21:45:57 ]




เรื่องที่หนึ่ง
เพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆตอนที่ไปเข้าค่ายเขาให้นอนละ 3 คน แล้วเรากับเพื่อนคนนึงกำลังแปรงฟังอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งเพื่อนอีกคนนอนอยู่บนเตียง
หลังจากที่เรากับเพื่อนออกมาจากห้องน้ำแล้วเพื่อนที่นอนอยู่ก็ลุกขึ้นมาแล้วถามว่า "ใครมาเขย่าเท้าเรา"แต่เรากับเพื่อนที่ออกมาจากห้องน้ำต่างไม่มีใครทำเพราะเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ


ิำbeboon54321
#23
09-02-2012 - 22:48:38

#23 ิำbeboon54321  [ 09-02-2012 - 22:48:38 ]






เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัว และ เจ็บใจที่สุด


เดือนที่แล้ว( มกรา )ผมกับเพื่อนๆ 7 คน ชวนกันขี่มอไซค์ ไปดูการแสดงรอบกองไฟ ของน้องๆม.2 ที่ค่าย ที่นั่น เป็นป่าช้าเก่า ทางโรงเรียนซื้อไว้เป็นค่ายของโรงเรียน และเพื่อ ให้มีกิจกรรม ต่างๆ โรงเรียนจึงไม่ปรับปรุงอะไรทั้งสิ้น เป็นป่ายังไง ก็อย่างงั้น เพียงแต่สร้างที่พัก ครู กับศาลเจ้าไว้
ที่นี่ ของแรง โคตรๆ ก่อนเข้าค่ายจะมีการ สาบาน ว่าจะไม่ทำเรื่องไม่ดีต่างๆ ผมไปที่นั่น กับเพื่อนตอนประมาณ 2-3 ทุ่ม 7 คนขี่มอไซค์ไป 2คัน
( ไปได้เนอะ ) คันนึงอัด 4 คันนึงอัด 3 ผมอยู่คันอัด 4 ทรมานมาก ไปถึงก็สนุกอยู่หรอก พอ 4 ทุ่มครึ่งงานก็เสร็จ เราก็พากันกลับ แต่ตอนกลับนั้น
รู้สึกร้อนมาก แต่ขนลุกตลอดเวลา ( เป็นทุกคน )ผมได้แต่คิดแต่ไม่กล้าพูด ยางรถก็แบนมากหนักสุดๆ ยังกะอัด 5 แล้วค่ายอยู่ไกลมาก กว่าจะถึงเมืองก็ปาเข้าไป 5 ทุ่มครึ่ง ตอนนั้น ในเมืองไม่ค่อยมีรถ เงียบสุดๆ ตอนแรกก็ไปส่งเพื่อนคน 2 คนในคันอัด 4 ก่อน แล้วค่อยไปว่งอีกคนในคันอัด 3 เป็นคันละ 2 คน มีหมวก กันน็อค กำลังจะ ไปส่งเพื่อนอีกคน ดันไปเจอ ด่านตำรวจ ไอ้เราก็คิดว่าดึกขนาดนี้มาตั้งด่านไรวะ แต่ก็คิดว่าไม่เป็นอะไรเพราะอัด 2 มีหมวก พ.ร.บ ครบ แต่ กลัวนิดๆ เพราะไม่มีใบขับขี่ ( ถ้าไม่เรียกก็ไม่รู้ ) เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อตำรวจ เรียกรถผมไป เรียกไปก็ เขียนยิกๆๆๆๆ เลยทีเดียว ผมกับเพื่อนถึงกับงง สงสัยเราหน้าเด็ก เขาเลยรู้ว่าม่มีใบขับขี่ เรา 4 คนก็เลยออกเงินกัน จ่ายไป 500 เมื่อขี่ออกมาสักพัก เพื่อน คนนึงขอใบสั่งไปอ่าน มันถึงกับร้องเฮ้ย ดังลั่นกลางเมือง เราก็ตกใจ เลยถามว่ามีอะไร มันหน้าซีดพร้อมหันไปดูข้างหลังผม มันยื่นใบสั่งให้ดู ปรากฎว่าในใบสั่ง เขียนข้อหาเดียวคือ รถผม ซ้อน 3 ผมนิ่งเงียบ แล้วบอกให้เพื่อนที่ขับ ไปวัดทันที เพื่อนผมรู้ทันที เพราะ เสียวมาตั้งแต่ ร้อนแล้วขนลุก-รถหนักเกิน แล้ว เมื่อเข้าไปก็ตรงดิ่งไปกุฎิพระทันที ท่านบอกว่า เขาตามมาเพราะ เขาเป็นผีเร่ร่อน พึ่งตาย ห่างจากค่ายไม่ไกล เป็นคนในเมืองแต่มาธุนะที่นี่แต่ทางมันมืดมาก จนตกถนน ลงทุ่งนา รถทับ มันด฿กมากไม่รู้จะกลับไปหาครอบครัวยังไง เลย ขอนั่งคันที่อัด 3 แต่ ย้ายมานั่งคันผมทีหลัง พระท่านเลยบอกให้เขาไปตามทางของเขาสักพักเราก็ไปกราบพระประธาน เมื่อการกราบไหว้เสร็จ ก็รีบออกมาทันทีเพราะตั้งแต่เข้าวัดหมาหอน ตลอดเวลา ตอนนั้น ( เที่ยงคืนกว่า ) โอ๊ยขนลุกสุดๆ แต่ที่เสียดายคือ เงิน500 บาท ถ้าไม่มีเขา ผมก็คงไม่ต้องเสียเงิน อ๊ากกกกกกก เงินเก็บตรู

waterman
sunisamisa


Abandoned
biyor
#24
09-02-2012 - 23:14:55

#24 biyor  [ 09-02-2012 - 23:14:55 ]






มีหลายเรื่องอ่ะ เจอบ่อย ((ดีรึเปล่าเนี่ย ))

ตั้งแต่ ม.1 ไปเข้าค่ายที่วัด...(ไม่ขอออกชื่อวัดละกันนะ) แล้วตอนกลางคืนก็เข้านอนในห้องพักของแม่ชี มี 2 ชั้น ชั้นบนมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แต่ชั้นล่าง ไม่มีอะไรเลย พี่สาวเราเคยไปเข้าค่ายที่วัดนี้มาก่อนเล่าให้ฟังว่า มีแม่ชีคนนึงเสียชีวิตอยู่ที่ห้องพักชั้นล่าง ตรงเสาต้นที่ 4 แต่ตอนที่พี่ไปเข้าค่าย พี่นอนชั้นล่างไม่มีอะไรเลย แต่เพื่อนชั้นบนโดนกันแทบทุกคน เราก็กลัวแต่ อ.แบ่งให้อีกห้องไปชั้นบนส่วนห้องเรานอนชั้นล่าง แล้วเราได้นอนตรงเสาต้นนั้นพอดี (ไม่ได้ตั้งใจเลือกแต่เหลืออยู่ที่เดียว) ตอนกลางคืนเราก็สวดมนต์ก่อนนอน พอนอนไปสักพักกำลังจะหลับ ได้ยินเสียงคนเดินบนพื้น พื้นเป็นไม้ได้ยินเสียงแอ๊ดๆ เราก็หันไปมองก็ไม่มีใคร แต่มันก็ยังมีเสียงเดินๆไปรอบห้อง ไม่กล้าขยับตัวเลยตอนนั้นกลัวมาก นอนลืมตาตลอด ไม่เห็นอะไรนอกจากเสียงเดิน ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน ตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ว

เรื่องที่ 2 รุ่นพี่ที่ร.ร.เจอมา
ร.ร.เรามี 9 อาคาร แล้วอาคาร 5 เป็นอาคารที่มีห้องเรียนรำ ห้องดนตรีอยู่ชั้น 2 ห้องเรียนรำเป็นห้องหน้าต่างกระจกใส มองเห็นจากชั้นล่างเข้าไปข้างในได้ แล้วตรงริมหน้าต่าง จะมีหุ่นนางรำตัวนึงตั้งอยู่ มีพี่คนนึงอยู่รอพ่อแม่มารับที่ ร.ร. จนค่ำ ไม่ค่อยมีคนแล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ที่สนามกันหมด พี่คนนั้นเดินไปล้างมือที่อ่างอยู่ระหว่างอาคาร 4 กับอาคาร 5 ตรงข้ามกับห้องรำพอดี พี่ล้างมืออยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงดนตรีไทยเปิด ก็เลยคิดว่าใครมาซ้อมรำก็เงยหน้าขึ้นไปมองผ่านหน้าต่างกระจก ก็เห็นหุ่นนางรำกำลังรำอยู่ริมหน้าต่างประกอบเพลงไทย พี่ตกใจมากก็รีบวิ่งหนีไปเลย (เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า แต่มีคนเล่าเรื่องอาคาร 5 ชั้น 2 มาว่าเฮี้ยนมาก ทั้งห้องน้ำชั้น 2 ห้องรำ ห้องดนตรีไทย หลอนสุดๆใน ร.ร.)

เรื่องที่ 3 ห้องน้ำอาคาร 5
ร.ร.เราสร้างมา 112 ปีแล้ว ก็มีเรื่องเล่าเยอะมาก มีเด็กเสียชีวิตที่ ร.ร. หลายคน แล้วก็มีคนเล่าว่ามีเด็กมาเสียชีวิตที่ห้องน้ำอาคาร 5 ชั้น 2 ไม่แน่ใจว่าผู้คอตายหรือเป็นอะไรสักอย่าง หลังจากนั้นก็มีแต่คนเจออะไรในห้องน้ำนั้ตลอด ตอนนั้นเราเป็นเด็กใหม่ยังไม่รู้อะไรก็เดินดุ่มๆไปเข้าคนเดียว ตอนที่เข้าไม่มีใครเลย เงียบมาก ก็เลือกเข้าห้องตรงกลาง (มี 3 ห้อง) ตอนเช้า เห็นเงาคนลอดเข้ามาใต้ประตูเดินผ่านไป แล้วก็มีเสียงเดินย่ำพื้นแฉะๆที่เปียกน้ำก็คิดว่ามีเพื่อนแล้ว มีเสียงคนพูดอะไรอยู่ข้างนอกด้วย เราก็กำลังจะออกไป พอเปิดประตูออกไป ข้างนอกว่างเปล่า.... ไม่มีใครเลย ไม่มีแม้แต่น้ำแฉะๆที่อยู่ที่พื้น กลัวมากรู้แล้วว่าโดนเข้าแล้ว ก็เผ่นเลย ออกจากห้องน้ำแทบไม่คิดชีวิต
แล้วก็ที่เดียวกัน เพื่อนเราไปกัน 3 คน ตอนแรกก็ไม่มีอะไร พอออกจากล้างมือกัน ในห้องน้ำไม่มีใครเลยนอกจากเพื่อน 3 คน อยู่ๆก็มีเสียงน้ำเปิดในห้องน้ำห้องสุดท้ายก็เดินไปดูก็มีน้ำเปิดจริงๆก็เลยมีน้ำใจช่วยปิดให้ พอกำลังจะเดินออกมา น้ำห้องเดิมก็เปิดอีก ไม่ใช่น้ำไหลเอง แต่ก๊อกมันหลุดเปิดทั้งที่มั่นใจว่าปิดแล้ว เพื่อนเราเลยไม่มีน้ำใจปิดแล้ว เผ่นเลย


เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเขียนต่อนะ แม่ไล่แล้ว เรามีเยอะมากทั้งที่เจอเองแล้วก็มีคนมาเล่าให้ฟัง ส่วนใหญ่จะที่ ร.ร. เพราะเป็นโรงเรียนที่สร้างมานาน
อย่าเพิ่งรำคาญกันล่ะ ฝันดี ผีรอบเตียงนะทุกคน... ((โดนอัด ))


แพรกะเหมียว
#25
แพรกะเหมียว
15-02-2012 - 20:30:24

#25 แพรกะเหมียว  [ 15-02-2012 - 20:30:24 ]





น่ากลัว

Blackozone


จมูกฉันกำลังจะพัง T0T
Blackozone
#26
16-02-2012 - 21:50:51

#26 Blackozone  [ 16-02-2012 - 21:50:51 ]




น่ากลัวทุกคนเลย


tos me hiper
#27
17-02-2012 - 14:48:01

#27 tos me hiper  [ 17-02-2012 - 14:48:01 ]




แหะๆ น่ากลัวนิดนึงดูสิอ่านแล้วยังนอนหลับอยู่เลย


yamaza
#28
17-02-2012 - 18:14:15

#28 yamaza  [ 17-02-2012 - 18:14:15 ]




มีหลายเรื่อง แต่ไม่แน่ใจอ่ะตอนป5 ซึ่ง ตอนนี้ยัง ป5 อยู่เลย=.=
1. หน้าห้อง ซาวเลป
วันไหนไม่รู้ เราจะขึ้นไปชั้น3 แต่ชั้น2 ผ่านหน้าห้องซาวเลป กับห้องวิทย์
ตอนนั้นยังไม่กลัว ลมพัด ฟิ้ววววว หันไป นึก(ไหนอ่ะ หน้าต่างก็ปิด มันมาจากไหนวะ=[]=)
สายตา เราจ้องห้องซาวเลป . * . ขนลุกมาก ประตูเปิดแง้มๆ ได้ยินไม่ชัดมา มาสิ<<<<ลากเสียงยาวว
เรารีบวิ่งไปที่ห้องของเราก่อนเลย
ปล. โรงเรียนลือว่าห้องซาวเลปเป็นห้องดับจิต<<<ว่ากันอย่างนั้น
**********************************************************
2.ห้องวิทย์
ห้องนี้ไม่มีอะไรมากนอกจาก หุ่นอวัยวะร่างกายครึ่งตัว กำลังยิ้มและจ้องไปทางหน้าต่าง ซึ่งเรา
และเพื่อนๆที่คุยมี3คน นั่งโต๊ะ5คน เราแอบสบตาหุ่นนั้น พบว่ายิ้มแฉ่งเลยอ่ะ- -" เลยบอกเพื่อนว่า
พิลึกๆแฮะ พอหันไปอีกที เฮ้ยยยย ปากทำไมเหมือนจะหุบฟะ0[]0 เรารีบหันไปบอกแล้วกระซิบว่า
หันไปดูสิ เพื่อนบอกว่า ไหนๆๆๆๆ อีกคน เฮ้ยจริงด้วยอ่ะคนในกลุ่มเงียบกริบแล้วฟังครูสอนต่อ
รวมถึง หนู ด้วย = ="
**********************************************************
3.ห้อง นาฎศิลป์
ห้องนี้เป็นห้องดนตรีไทย เกิดขึ้นไม่กี่วันนี้เอง ครูพาพวกเรา กลุ่ม1(รายงานหน้าชั้น) ไปห้องดนตรีไทย
ด้านหน้าจะมีกระจกอยู่บานใหญ่เหมือนคนซ้อมเต้นกันน่ะ เผลอไปเห็นขิมของชอบแต่ไม่เคยเล่น เลยไหว้ แล้วไปตี ดูตัวนึง
พอซ้อมกัน .................. ผ่านไปจนจบรายงาน พอออกจากห้อง เพื่อนคุยกันอยู่เลยไปถามว่ารู้สึกแปลกๆไหม
เพื่อนคนนั้นบอกว่า ไม่เพราะเราครอบครูแล้ว(เคยรำน่ะ)แล้วกระซิบ คนอื่นๆบอกว่ารู้สึกหนักหัวทุกคนตั้งแต่ออกจากห้อง
รวมถึง เราด้วย เหมือนกับว่าท่านกำลังชมรายงานของพวกเราไปด้วยเลยล่ะค่ะ
********************************************
4.ชั้น 4 ชั้นบนสุด
เพื่อนมาบอกเราว่า มีแม่ชีมาพัก ท่านบอกว่า เห็นผู้หญิง ผมยาวชุดขาว เปื้อนเลือดอยู่ด้วย แล้ว มีชายชุดขาว อีกท่าน
แล้วเห็นน้องกุมารลากเก้าอี้ออกมาจากห้องด้วยค่ะ แต่ เราก็ เชื่อ 50 ไม่เชื่อ 50 แต่ก็น่ากลัวน่าดู
**************************************************
3.ห้องครัว
มีแม่ครัวอยู่ แต่ตอนนี้ออกไปแล้ว เศร้ามากค่ะ = = เห็นลือว่า เคยถูกผีเข้าด้วย
แต่ เหมือนข้อบน เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง
*******************************************************
จบแค่นี้ก่อนนะ เราขนลุกอ่ะ ประทานโทษ แต่หนูไม่ได้ลบหลู่อะไร แต่เป็นการเล่าประสปการณ์ค่ะ -/\-
ปล. ปลดปล่อยไปแล้วโล่งเลย แต่บางเรื่องยังฝังใจอยู่แน่นมาก

แพรกะเหมียว


คาวาอี้เดสุเนะะ
เฟินจ้า
#29
เฟินจ้า
17-02-2012 - 19:18:10

#29 เฟินจ้า  [ 17-02-2012 - 19:18:10 ]





คือเรานั่งอ่านแทบทุกวัน จะบอกว่ากระทู้นี้หลอนจนลุกไปอาบน้ำไม่ได้เลยหล่ะ- -
เฮี้ยนจริงกระทู้นี้ นั่งอ่านทีไรก๊อกแก๊กหลังบ้านทุกที



Play TS2 เก่าแต่เก๊า (ฝากโหวตหน้าเพจหน่อย)
lookhanoon
#30
17-02-2012 - 21:40:15

#30 lookhanoon  [ 17-02-2012 - 21:40:15 ]




่ก็ไม่มีอะไรจะเล่าแต่ขอเอารูปมาให้ดู อันนี้เพื่อนถ่ายติดที่โรงเรียน^น่ากลัวมากก
พี่ของมิสที่โรงเรียนบอกว่าก่อนที่จะเป็นโรงเรียนนี้(แล้วไหนบอกจะไม่เล่า)เป็นโรงเรียน...(ไม่ขอเอยนาม)มีนักเรียนตกตึกตายต่อมาโรงเรียน...ก็ขายให้โรงเรียนที่หนูกำลังเรียนอยู่ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้
ปล.รูปมันกลับหัวกลับหางและก็ไม่ค่อยชัดต้องขออภัย
ดูดีๆหลังเสาจะมีเงาอยู่แต่เสามันกว้างแค่ฝ่ามือเด็กป.6
 1334343


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-02-17 21:42:14
sunisamisa

koblovejohncena
#31
17-02-2012 - 21:48:24

#31 koblovejohncena  [ 17-02-2012 - 21:48:24 ]




เราก็มีเรื่องจะเล่า...
ก็มีอยู่ว่าที่โรงเรียนจะมี..พระพุทธรูปองค์สีดำอยู่ใจกลางโรงเรียน
แล้ววันหนึ่งเราไปโรงเรียนดราก็อยากกลับบ้านแล้วก็ร้องไห้จน
แม่ต้องพากลับบ้าน..เป็นแบบนี้ประมาณ3วันแล้ว ตา-ยาย
ก็พาไปที่ลพบุรี ไปหาคนเข้าทรง แล้ว..เขาก็พูดว่ามีผีตาม
แล้วเขาก็เข้าทรงแล้วยายเราก็ถามท่านผีว่ามาตามหลานทำไม
แล้วท่านผีกบอกว่า...จะเอาไปอยู่ด้วย...แล้วยายก็
บอกไปอีกว่า...จะกินอะไรเดี๋ยวจะถวายไปให้แต่อย่ามาตามหลาน
ท่านผีก็บอกว่า..ชื่ออาหารขอไม่บอกนะ..แล้วทรงก็ออก
แล้วตา-ยายก็พากลับบ้านแล้วเตรียมของเตรียมอาหาร
แล้วก็ไปที่หน้าบ้านแล้วก็เชิญพระมาถวายให้ท่านผี
แล้วก็ผ่านวันต่อไปเราก็ไปโรงเรียนแต่เราไม่ยอมอีก
ร้องไห้อีก ตา-ยายเลยพาไปหาคนเข้าทรงอีก
คนเข้าทรงก็บอกว่า..เอากุมารไปเลี้ยง
แล้วเราก็เอามา 2 องค์ ...แล้วอาการก็หาย
ไปโรงเรยนตามปกติ


ผิงผิง
#32
19-02-2012 - 09:03:06

#32 ผิงผิง  [ 19-02-2012 - 09:03:06 ]




เรื่อง ครืดๆ ป๊อกๆ

มีคืนหนึ่งตอนตี 5 ฉันได้ยินเสียง"ครืดๆ ป๊อกๆ" เสียงจะหยุดตอน 6 โมง เสียงจะเกิดขึ้น เฉพาะ"วันพระ"
และครั้งหนึ่งฉันเดินลงไปดูปรากฏว่า"เสียงครืด คือ ยายขัดถูมีดให้มันคม(เป็นแคล็ดค่ะ) เสียงป๊อกๆ คือ ยายฝนมือมาหั่นของต้นยำแล้วนำไปตำ สรุป ยายทำแกงไก่ไปให้พระตอน 7 โมง"


Ploy_Aom
#33
19-02-2012 - 09:20:40

#33 Ploy_Aom  [ 19-02-2012 - 09:20:40 ]






quote : ผิงผิง

เรื่อง ครืดๆ ป๊อกๆ

มีคืนหนึ่งตอนตี 5 ฉันได้ยินเสียง"ครืดๆ ป๊อกๆ" เสียงจะหยุดตอน 6 โมง เสียงจะเกิดขึ้น เฉพาะ"วันพระ"
และครั้งหนึ่งฉันเดินลงไปดูปรากฏว่า"เสียงครืด คือ ยายขัดถูมีดให้มันคม(เป็นแคล็ดค่ะ) เสียงป๊อกๆ คือ ยายฝนมือมาหั่นของต้นยำแล้วนำไปตำ สรุป ยายทำแกงไก่ไปให้พระตอน 7 โมง"


ไม่น่ากลัวเลยอ่ะ!! ...แต่ว่าก็ ฮา! นามินะ!!



:)
Ploy_Aom
#34
19-02-2012 - 09:20:40

#34 Ploy_Aom  [ 19-02-2012 - 09:20:40 ]






แต่ก็น่ากลัวทุกเรื่องนะ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-02-19 09:21:16


:)
Blackozone
#35
19-02-2012 - 18:12:09

#35 Blackozone  [ 19-02-2012 - 18:12:09 ]




ว่างแล้ว พร้อมเล่าแล้ว หึ หึ.........


Blackozone
#36
19-02-2012 - 22:27:43

#36 Blackozone  [ 19-02-2012 - 22:27:43 ]




ตอนนั้นนานแล้วปกติพ่อจะทำงานดึกแล้วก็มีเพื่อนพ่อทำงานอยู่ด้วยคนนึงคนนั้นเขาจะใช้เครื่องพิมพ์ดีดเวลาทำงานส่วนพ่อใช้โน๊ตบุคส์
และวันนั้นตอนเที่ยงเพื่อนพ่อถูกรถชนตอนข้ามถนนกระทันหัน พอตอนเย็นพ่อก็ทำงานดึกเหมือนเดิมตอนนั้นประมาณเที่ยงคืน
เหลือพ่อผมทำงานอยู่คนเดียวสักพักพ่อก็บอกว่าได้ยินเสียงเครื่องพิมพ์ดีดดังแต๊ก แต๊ก เสียงประมาณนี้นะครับ พ่อก็นึกว่ามีคนอยู่
ก็เดินไปดูก็ไม่มีคนเสียงดังมาจากเครื่องพิมพ์ดีดของเพื่อนพ่อที่โดนรถชน เสียงก็ยังดังอยู่แต่ไม่มีคนพิมพ์ พ่อก็นึกว่าเครื่องพังเลยลองก้มดูที่
ปลั๊กไฟ พ่อบอกว่าตอนนั้นรู้แล้วว่าโดนผีหลอก เพราะปลั๊กเครื่องพิมพ์ดีดไม่ได้เสียบ เสียงพิมพ์ก็ถี่ขึ้นพอเลยสวดมนต์บทที่ปู่ให้พ่อ
สักพักเครื่องพิมพ์ก็เงียบ พ่อก็กับไปทำงานต่อแล้วก็เห็นเงาคนผ่านไปตรงกระจก
พ่อบอกว่าเพื่อนที่ตายคงนึกว่าตัวเองยังไม่ตายเพราะเพื่อนพ่อตายแบบกระทันหัน หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลย
แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นโดนรึเปล่าเพราะไม่มีใครเคยอยู่ดึก หึ หึ.........
ยังมีอีกหลายเรื่องเดี๋ยวเล่าให้ฟังอีกนะครับ


Blackozone
#37
20-02-2012 - 19:11:41

#37 Blackozone  [ 20-02-2012 - 19:11:41 ]




ใครเคยอ่าน I LIKE บ้างเป็นหนังสือวัยรุ่นแต่เด็กก็อ่านได้ มคเรื่องผีทุกเล่ม 4 เรื่อง 2เรื่องเป็นผีทั่วไป อีก 2 เรื่องเป็นผีในโรงเรียน เรื่องพวกนี้
เป็นเรื่องจากทางบ้านส่งมา เดี๋ยวหาภาพมาให้ดู+เล่าให้ฟัง
มาแอดเป็นเพื่อนบ้างนะ
ชอบโหวตกระทู้ให้หน่อยแล้วจะเล่าให้ฟังตลอดครับ


๐นู๋อิJ๐
#38
๐นู๋อิJ๐
22-02-2012 - 19:19:45

#38 ๐นู๋อิJ๐  [ 22-02-2012 - 19:19:45 ]






ไม่รู้ว่ามันจะมีหรือเปล่า ตอนนั้นเราอยู่ป.3 มีเพื่อนคนนึงชื่อเนยมันนั่งอยู่บนโต๊ะเราก็คุยกับมันอยู่น่ะอยู่ ๆก็มีเงาอะไรไม่รู้สีส้ม
เหลืองแดงอ่ะผ่านหลังเพื่อนไปเลย



No comeback ,Bye TTS :')
Nebula Eva
#39
22-02-2012 - 21:29:58

#39 Nebula Eva  [ 22-02-2012 - 21:29:58 ]





น่าหนุกนี่ขอเล่ามั่งนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราว่าขนลุกที่สุดเท่าที่เคยเจอ (ขอบอกไว้ก่อนว่าเรื่องมันยาวต้องเล่าตั้งแต่เริ่มไม่งั้นอาจงง)

เริ่มเลยละกัน...

      เรื่องมีอยู่ว่าตอนปีหนึ่ง(เทียบกับสายสามัญก็ประมาณ ม.4)ที่ รร.ยังมีเรียนวิชาลูกเสืออยู่น่ะ แล้วมันต้องไปเข้าค่ายลูกเสือ(ไม่ได้อยากไปเลยบอกตามตรงT^T) ซึ่งค่ายที่ว่าเป็นค่ายทหารอยู่ติดเขา ชื่อค่ายอะไรไม่รู้ลืมไปแล้ว(มันตั้งสามปีมาแล้วเลยลืมชื่อ) ไปถึงครูฝึกเขาก็บ้าพลังๆ ถึงปุบก็จับแยกหมู่ จับฝึกซ้ายหันขวาหันอยู่ทั้งวัน วันนั้นทุกคนเหนื่อยมาก พอตกเย็นครูพวกก็พาไปที่พัก ให้พวกลูกเสือจะกลุ่มกันเองเพื่อเลืือกห้องพัก(แยกชายหญิงนะแต่นอนตึกเดียวกัน) เราก็จับกลุ่มกันกับเพื่อนในห้องเรียน ทั้งกลุ่มมีมติเป็นเอกฉันฑ์ให้เราเป็นคนไปจับกุญแจเอาห้องพัก(ค่ายนี้ใช้ระบบพึ่งดวงน่ะ ใครได้พักชั้น1ก็เป็นห้องแอร์ ส่วนชั้น2-3เป็นห้องพัดลม) หมารยเลขห้องพักที่เราจับได้คือ 103 เพื่อนในกลุ่มดีใจกันใหญ่ ได้ชั้นหนึ่งห้องสาม(ก็ห้องแอร์นิ - -)ในขณะที่เรารู้สึกทะแม่งๆตั้งแต่จับได้ละ แต่ไม่มีเพื่อนคนไหนรู้สึกได้เลย หลังจากที่ได้ห้องพักกันแล้วครูฝึกก็ให้เอาของไปเก็บที่ห้องพักแล้วเปลี่ยนชุดเพื่อทำการฝึกต่อในช่วงค่ำ ภายในห้องพักที่เลือกได้ก็สุดจะบรรยาย ไม่ใช่ว่าสกปรกหรือทรุดโทรมอะไรหรอก มันเหมือนห้องเช่าทั่วไปนั่นแหละ โชนแรกตรงทางเข้าขวามือเป็นห้องน้ำกันห้องว่างเล็กๆไว้ใช้แต่ตัวมั้งห้องหนึ่ง เปิดประตูเข้าไปอีกเป็นห้องนอน มีเตียงเดี่ยว สองเตียง(คนที่จะพักมีสิบคน) ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก(หันหน้าเข้าหาเตียง เหมือนในเรื่องบุปผา ราตรีน่ะ) โต๊ะกระจกที่เดินพ้นประตูไปได้ไม่เท่าไรก็จะเห็นเงาตัวเองสะท้อนออกมา ทีวีโบราญรุ่นไหนไม่รู้จอ 20 นิ้วตั้งอยู่ในห้อง พื้นห้องเป็นหินอ่อนสิขาวสะอาดตาไร้รอยเปื้อน ถัดไปเป็นระเบียงแคบๆไว้ตากผ้า ทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็พากันไปหาขนมกินข้างล่าง(แม้ค่ายจะดูกันดารแต่รถเข็นขายขนมก็ยังเข้าถึง) เพื่อนบ้างคนที่ยังไม่เสร็จเราก็ให้กุญแจห้องไว้กับมัน ให้คนสุดท้ายที่จะออกจากห้องเป็นคนปิด พอคนสุดท้ายที่ออกจากห้องเอากุญแจห้องมาคืนเรา มันท่าทางตื่นๆลุกลี้ลุกลนแปลก เราเลยถามมันว่าเป็นอะไร มันบอกว่าตอนจะออกจากห้องเหมือนมีคนจ้องมันข้างหลัง เราเลยว่ามันฟุ้นสร่างเอาเองก่อนเอากุญแจไปเก็บแล้วไปฝึกต่อ วันแรกของการฝึกเล่นเอาเราจับไข้เลย พอตกกลางคืนประมาณห้าทุ่มครึ่งครูฝึกพากลับมาที่พัก เพื่อให้พวกลูกเสืออาบน้ำเข้านอนกัน พอห้องเราอาบน้ำเสร็จ ก็จะพากันนอน เราเลือกนอนเตียงที่อยู่ใกล้โต๊ะกระจก(เพราะมันนิ่มกว่าอีกเตียง) ส่วนพวกที่เหลือพากันนอนเบียดกันที่พื้นเพราะกลัวเรื่องที่เพื่อนที่ออกจากห้องคนสุดท้ายเล่าให้ฟัง เราเลยแกล้งว่า อย่าให้เตียงว่าง ไม่งั้นอาจจะมีคนแฝงกายเข้ามานอนด้วย(การแหย่เพื่อนเป็นความสุขส่วนตัวเราน่ะ) แทนที่จะมีคนขึ้นมานอนบนเตียงพวกมันกลับเอาสัมภาระทั้งหลายแหล่ขึ้นมากองบนเตียงแทน คนที่กลัวหน่อยก็ขึ้นมานอนเบียดเรา พอจะนอนพวกเพื่อนก็พากันสวดมนต์(เคารพเจ้าที่กันดีจังเนอะ) เราก็สวด สวดเสร็จเราเลยถือโอกาศขอเจ้าที่เจ้าทางแถวนั้นว่า วันนี้พวกหนูเหนื่อยมาก ขอให้คุ้มครองให้พวกหนูหลับสบาย อย่าให้อะไรมารบกวนจนกว่าจะเช้านะคะ ขอเสร็จก็กราบๆๆ เพื่อนที่ได้ยินก็มองหน้าเราเหวอๆ แล้วให้เราไปปิดไฟ(พวกมันกลัว เพราะถ้าจะปิดไฟต้องเดินผ่านกระจก)พอเอาเข้าจริงพวกมันดันไม่นอน ไอ้ห้องข้างๆก็หน้ารำคาญไม่รูกรี๊ดก๊าดอะไรของมัน แต่สักพักมันก็เงียบ เราเลยได้หลับจริงๆ พอเช้าวันรุ่งขึ้น ลูกเสือคนอื่นๆพากันมองหน้าคนที่นอนห้องเรากันแปลกๆ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร ตอนกลางวันพักกินข้าวเพื่อนห้องเราที่ไปพักคนละห้องก็มาเล่าให้เราฟังว่า "ประมาณตีสาม มีคนไม่ยอมนอนแล้วส่งเสียงดัง ครูฝึกเลยเรียกลงมาทำโทษแล้วมีอยู่ห้องหนึ่งไม่ยอมลงมา ครูฝึกเลยขึ้นไปตามแต่ห้องก็ล็อค ครูฝึกทั้งถีบประตูทั้งด่าให้ออกมาห้องแกก็ไม่มีใครออกมา เสียงตอนที่ครูฝึกด่าห้องแกก็ดังมากนะ พวกข้างล่างได้ยินกันชัดเจนเลย ตอนแรกก็มีครูฝึกคนเดียวขึ้นไปตามเกือบครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีใครออก คราวนี้ครูฝึกอีกสองคนก็ขึ้นไปช่วยกันด่า และถีบประตูก็ไม่ีใครออกมาเปิด จนครูฝึกเลิกด่าแล้วลงมากันหมด ถึงมีคนลงมากัน พอเ็ห็นมีคนลงมาครูฝึกก็เตือนๆแล้วปล่อยให้ไปนอนต่อ" พวกที่ห้องเราเลยแย้งว่า ถ้าจะขนาดนั้นพวกเราก็ลงมาตั้งแต่เขาเรียกปรี๊ดแรกแล้วเพราะพวกเรายังไม่นอน ตีสามพวกเรายังคุยกันอยู่เลย แล้วก็พากันหันมามองเราประมาณว่าเราเป็นสาเหตุขอเรื่องนี้ เราเลยว่า ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เราไปขอเจ้าที่เจ้าทางอะไรแผลงๆ มันอยู่ที่ว่ากลุ่มสุดท้ายที่ลงมาน่ะใครกัน ในเมื่อพวกเราก็ไม่ได้ออกจากห้อง แล้วที่ว่าครูฝึกทั้งถีบทั้งด่าอยู่หน้าห้องน่ะ ต่อให้ถีบหรือด่าผิดห้อง ห้องเราก็ต้องได้ยินบ้างล่ะ ก็ห้องมันไม่ใช่ห้องปิดเสียงนี่ แต่เมื่อคืนมันเงียบๆจริงๆนะเราเลยไม่มีใครออกมากัน แล้วแรงถีบครูฝึกทหารสามคนนี่ประตูมันจะไม่พังเลยเหรอ พอเราพูแบบนี้ก็ไม่มีใครอยากขุดเรื่องนี้ขึ้นมาต่อ เพราะเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่ามีคนลงมาจริงๆ จนครบครูฝึกถึงได้ปล่อยให้ไปนอนต่อ แต่ไม่มีใครสักคนในที่นั้นสักเกตุใบหน้าคนที่ลงมาเลยเหรอ ตรงนี้แหละที่เราสงสัย หากเป็นการแกล้งกันของเพื่อนที่ไปนอนห้องอื่น มันจะเตี๊ยมกัมทั้ง รร. เลยเหรอ แม้แต่ครูฝึกก็ยืนยันว่าคืนนั้นมีเรื่องแบบนี้จริงๆ พอคืนที่สองในการนอนค่าย มีเพื่อนคนหนึ่งสังเกตุเห็นรอยของหยดเลือดที่อยู่ปลายเตียงที่เรานอน หัวข้อสนทนาในห้องพักจึงเกิดขึ้น เพราะตอนแรกทุกคนก็สำรวจดูแล้ว ว่าพื้นห้องสะอาดมากไม่มีรอยเปื้อนอะไร พวกเพื่อนพากันกลัว และก็ถามหาที่มาของรอยเลือด เพราะอาจจะมีใครเป็นเม็นแล้วทำเม็นหยดก็ได้ แต่ข้อสรุปที่ได้เหมือนกันคือวันที่เขาค่ายผู้หญิงที่นอนห้องนี้ไม่มีใครประจำเดือนมา ทุกคนพากันหน้าถอดสี เราเลยว่าบ้างทีอาจจะเป็นรอยเปื้อนที่พวกเราไม่ได้สังเกตุเห็นก็ได้(แต่มันก็น่าคิดนะ เพราะรอยเลือดที่ว่ามันไม่ใช่รอยเล็กๆที่จะมองข้ามไปได้) เพราะเท่าที่เราดูรอยเลืดมันออกสีคลำๆและแห้งกรังติดพื้นเหมือนมีมานานแล้ว พวกเพื่อนกพยายามจะคิดแบบนั้นก็เลยพากันรีบนอน แต่ก็ไม่วายมาสั่งห้ามเราพูดหรือขออะไรแปลกๆอีก สุดท้ายคนที่ต้องเดินไปปิดไฟก็เป็นเราอยู่ดี(เพื่อนน๊อเพื่อน) พอวันที่สาม เราลั๊นลาสุดๆก็วันนี้จะได้กลับบ้านนิ เราตื่นขึ้นมาเก็บของพร้อมด้วยความร่าเริงในขณะที่คนรอบข้างพากันหดหู่ พอเราถามว่าเป็นอะไรพวกมันก็บอกว่ากลับไปค่อยเล่า เราไม่ติดใจอะไรมากนักเลยไม่ได้คาดคั้นอะไรต่อ พอจะออกจากห้องเราก็ไหว้เจ้าที่เจ้าทางบอกลาพอเป็นพิธี แต่พวกเพื่อนนี่สิมันเล่นตั้งวงขอขมาอะไรกันอยู่หน้าโต๊ะกระจกไม่รู้ ด้วยความที่นึกสนุก เราเลยลากเก้าอี้ตรงโต๊ะกระจกออกมาจัดต่ำแหน่งเหมือนให้คนมานั่งหันหน้าเข้าหาพวกมัน สักพักก็พากันหน้าซีดปากพะงาบ พอรู้สึกว่าแกล้งแรงไปแล้วเราเลยลากเก้าอี้กลับเข้าที่ ตอนที่ลากกลับก็รู้สึกว่าเก้าอี้มันหนักๆพิกล หันไปดูเพื่อนอีกทีพวกมันก็ตั้งท่าแผ่นแนบกันไปแล้ว เราเลยต้องเป็นคนปิดห้องล็อคกุญแจ
      ขากลับขณะที่รอรถพวกเพื่อนที่นอนห้องเดียวกับเรามันเริ่มเปิดปากออกมาทีละคน คนแรกชื่อมล(เล่ามาตั้งนานเพิ่งใส่ชื่อให้เพื่อน - -) มันบอกว่าตอนคืนที่สองมันรู้สึกว่ามีคนสะกิดมัน แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกๆของผู้หญิง มันเลยคิดว่ามีเพื่อนตื่นขึ้นมาแล้วมันเลยตื่น มันเลยเรียกชื่อเพื่อนทุกคนแต่ไม่มีใครตอบ มันเลยแน่ใจล่ะว่าไม่ใช่คนแน่ มันเลยปลุกคนข้างๆ ซึ่งคือนุก นุกก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น มลเลยบอกว่ามันเลยพยายามข่มตาหลับต่อ นุกก็เลยว่า โล่งอกที่แท้มลนี่เอง นึกว่าโดนอะไรไม่รู้ดึงขาเลยไม่ยอมตื่น เดี๋ยวก่อนนะถ้านุกบอกว่าตอนนั้นนุกตื่นอยู่แต่ไม่รุ้โดนอะไรดึงขาเลยแกล้งหลับต่อ แล้วก่อนหน้านั้นล่ะมลเรียกชื่อเพื่อนๆจะไม่มีใครตื่นเลยเหรอ(เราคิด) คราวนี้เหวินมันเลยเล่าบ้างว่าตอนที่มันอาบน้ำอยู่ก่อนเข้านอนมันรู้สึกเหมือนมีคนมองมันลงมาจากช่องตรงเพดานห้องน้ำ(ห้องน้ำในห้องพักที่เราจับได้ เพดานมันพัง เข้าเลยเอาฝ้าออกจนเป็นรู แล้วไม่ได้เอาอะไรมาปิดไว้) ส่วนคนอื่นๆที่เหลือบอกว่าโดนเหมือนกันคืนเมือนมีใครยืนจ้องอยู่ข้างหลัง คราวนี้มีเพื่อนคนหนึ่งใจกล้าเข้าไปถามครูฝึกว่าคืนแรกเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงเหรอ หรือว่านัดกันอำพวกเด็กที่นอนห้องเรา ครูฝึกทุกคนก็ยืนยันว่าเรื่องจริงและยังว่าเพื่อนคนนั้นว่าทำไมครูเรียกตั้งนานแล้วลงมาช้า เพื่อนเราเลยย้อนกลับไปและรับสารภาพตามตรงว่าคืนนั้น พวกเราไม่ได้ลงมาช้าแต่ไม่มีใครลงมาเลย แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงใครเรียกด้วยเพราะประมาณตีสามตีสี่พวกเรายังแอบคุยกันอยู่เลย เท่านั้นแหละครูฝึกก็อึ้ง แล้วถามเราว่าอยู่ห้องไหน เพื่อนคนนั้นเลยบอกไปว่า 103 พอครูฝึกได้ยินคำตอบก็หน้าซีด แล้วเดินดุ่มๆไปหาครูฝึกที่เอากุญแจห้องมาให้ลูกเสือจับเลือกห้อง แล้วว่า "ทำไมเอากุญแจห้อง 103 มาให้เด็กจับวะ" ครูฝึกที่ถูกว่าเลยบอกกลับอย่างงงๆ "ก็ไม่ได้เอามาให้จับสักหน่อย มีเรื่องอะไรเหรอ" แล้วครูฝึกทั้งสองก็กระซิบกระซาบกันสักพักก็พากันหน้าซีด หลังจากนี้เราก็ไม่รู้อะไรเลยว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะโดนไล่ให้ขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว พอถึง รร. พวกเพื่อนก็พากันว่า ว่าเราขออะไรแปลกๆเพื่อนที่นอนห้องนั้นเลยโดน แถมห้องที่เราจับได้เลขก็อัปมงคลมาก 103 ตัด 0 ออกก็เป็น 13 พอจับเลขนี้ตะแคลง ก็จะได้คำว่า "..ผอ..สระอี.." สรุปคือความผิดเราใช่ไหมเนี่ย

ปล.เรื่องนี้ใครจะไม่เชื่อก็ได้ แต่มันเป็นเรื่องจริงนะขอบอก พอรุ่นน้องที่ต้องไปเข้าค่ายลูกเสือที่ค่ายนี้อีก อ. ที่ไปค่ายด้วยก็บอกว่า ทางค่ายจัดที่พักที่ใหม่ใกล้กับที่พักของครอบครัวทหารแทน ส่วนที่พักที่เราได้ตอนแรกก็พึ่งมีรุ่นเรานี่แหละที่ได้พัก

ife


เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ
pridez
#40
22-02-2012 - 22:04:23

#40 pridez  [ 22-02-2012 - 22:04:23 ]




มีไม่กี่เรื่องหรอกค่ะ :)
แต่อยากเอามาแชร์

1.

ตอนเย็นของทุกๆวัน เราต้องส่งน้องไปที่สระว่ายน้ำเพื่อไปเรียนว่ายน้ำ
ช่วงที่ไปก็ 18.30 - 18.54 ได้ อยู่ในเวลาพลบค่ำพอดี
ซึ่งทางที่ผ่านค่อนข้างจะเปลี่ยว และมีบ้านร้างค่อนข้างเก่าแก่ ระหว่างทางไปมีสะพานเก่าๆอยู่ ซึ่งก็ผ่านอยู่ทุกวัน ไม่ได้มีเหตุอะไรแปลกๆ
จนกระทั่งเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน ขี่รถไปส่งน้องตามธรรมดา น้องเรียนว่ายน้ำกลับประมาน 2 ทุ่มได้
เราก็ขี่มารับตามปกติ ระหว่างทางที่ผ่านสะพาน มองไปเหมือนเห็นมือคนโบกไหวๆอยู่ข้างๆสะพาน ตอนนั้นคิดว่าตัวเองตาฝาด ( แต่ก็รีบๆขี่ให้ผ่าน เพราะกลัว ._. )
หลังจากรับน้องมาแล้ว ต้องผ่านบ้านร้างค่ะ ไม่ทราบประวัติสักเท่าไหร่ เห็นคนสอนน้องว่ายน้ำบอกว่า
บ้านหลังนั้นสร้างไม่เสร็จ เพราะเจ้าของตายไปเสียก่อน ก็คิดว่าไม่มีอะไรหรอก
จนกระทั่งขี่ผ่าน ระหว่างที่ผ่าน น้องชายก็กอดเอวเราแน่น เราก็คิดว่าคงหนาว เพราะอากาศค่อนข้างจะเย็นกว่าทุกวัน
แต่พอกลับถึงบ้าน น้องเพิ่งมาบอกว่า ก่อนถึงสะพาน เห็นคนนั่งอยู่บนขอบสะพาน นั่งไม่ขยับ นิ่งมากๆ
พอพ้นสะพานมา ก็ต้องผ่านบ้านร้าง น้องเราบอกว่า เห็นคนแบบเดิม นั่งยองๆ อยู่ข้างทาง ลักษณะเดียวกับคนที่อยู่บนสะพาน?
ซึ่งเราไม่เห็น ! เลยเปลี่ยนทางไปรับไปส่งน้องเลยล่ะค่ะ


2.
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเด็กๆ
ไปงานวันเกิดของเพื่อนบ้าน คนไม่เยอะมากสักเท่าไหร่
ไปประมาณ 4 ทุ่มได้ ก็กำลังเฮฮากันอยู่ หลังกินอาหารเสร็จก็มาจับกลุ่มนั่งคุยกัน
อยู่ๆพี่ในกลุ่ม ไม่รู้มันคิดอะไร มันเล่าเรื่องผีค่ะ ถึงไม่อยากฟังก็ต้องฟังค่ะ
เพราะผู้ใหญ่ร้องคาราโอเกะอยู่ในบ้าน ไม่อยากไปรบกวนเขา
เล่าวนๆกันไปค่ะ จนถึงคิวเด็กคนนึงเด็กข้างบ้าน
เขาถามพวกเราว่า ถ้าแม่ใครทำแท้ง วิญญาณเด็กจะตามมาอยู่บ้านด้วย พวกแกเชื่อไหม
ฉันตอบว่าไม่เชื่อ แน่จริงก็พาไปดูซิ ซึ่งแม่ของเด็กที่ไปงานวันเกิดนั้น บังเอิญเธอเคยทำแท้ง
เด็กคนนั้นบอกว่า ลองเดินดูรอบๆบ้านซิ เผื่อจะเจออะไร
เราเดินกันไปเรื่อยๆค่ะ จนถึงจุดจุดนึง เป็นทางเข้าหลังบ้าน ซึ่งมืดมากกกกก
ไม่กล้าไปค่ะ เลยหยุดอยู่ตรงนั้น
อยู่ๆเด็กคนนั้นก็บอกว่า อาจจะอยู่ตรงนั้นก็ได้นะ ว่าแล้วก็เดินเข้าไป
ระหว่างที่เด็กเดินเข้าไป เราเห็นเป็นเหมือนคนโผล่หัวออกมา แต่ไม่คิดไร เพราะอาจจะเป็นสุนัข
บ้านที่ไปเลีย้งสุนัขตัวใหญ่มาก แต่อยู่ๆเด็กคนนั้นก็เดินออกมา กึ่งเดินกึ่งวิ่ง
พวกเราตกใจมากค่ะ เลยรีบพาไปหาผู้ใหญ่
เด็กคนนั้นพูดว่า เราเจอแล้ว เราเจอแล้ว มีจริงๆ นะ เขาพูดเสียงสั่น
แล้วเช้าวันต่อมาเขามาเล่าให้ฟังว่า ตอนเดินเข้าไป เห็นเด็กคนนึง นั่งห้อยขาอยู่หลังบ้าน
แล้วหันมามองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
แล้วอีกสองวันต่อมาเด็กคนนั้นก็ย้ายบ้านไปเลยล่ะค่ะ



3.
เรื่องนี้อยู่ในเหตุการณ์และพบเจอกับเพื่อนๆอีกกลุ่มใหญ่
ตอนนั้นอยู่ ป.6 ต้องไปซ้อมดนตรีไทยทุกวันที่ตึกดนตรีไทย
ไปกับเพื่อนๆในห้องค่ะ ทั้งกลุ่มเลยล่ะ
เรือนไทยนี้มีประวัติค่ะ มีเด็ก ป.4 เคยเข้าไปเล่น แล้วไม่ไหว้ครู ( เรียกไม่ถูกอะจ่ะ พวกหัวโขนอะไรทำนองนี้น่ะค่ะ -/\- )
เจอผู้หญิงใส่ชุดไทยนั่งอยู่ตรงบันได หน้าขาวซีด จ้องมองลงมา เรือนไทยมีสองชั้นค่ะ
เด็กคนนั้นขวัญเสียมาโรงเรียนไม่ได้เป็นอาทิตย์เลยล่ะค่ะ
ซึ่งทุกครั้งที่พวกเราไปจะไหว้ครูทุกครั้งค่ะ จนอาทิตย์นึง ครูแก่ไม่อยู่ เราต้องซ้อมกันเอง
ด้วยความที่ทุกวันมีครูแก่มาคอยไล่กลับบ้าน ทำให้ไม่กลับช้าจนเกินไป
แต่วันนี้ครูแก่ไม่อยู่ค่ะ ต้องซ้อมเอง เลยกลับก็ปาไปหกโมง
ต้องขึ้นไปปิดชั้นสอง ซึ่งชั้นสองเฮี้ยนมาก !!
พอขึ้นไป รู้สึกได้ถึงบรรยากาศน่าขนลุกเลยล่ะค่ะ เราเดินไปปิดหน้าต่างเพื่อนๆคนอื่นก็เก็บกวาด
ระหว่างปิดอยู่นั้น มีเพื่อนคนนึง ปากมันไม่ดีอ่ะค่ะ มันพูดมาว่าผีอ่ะ ไม่มีจริงหรอก
เชื่อไหมคะ หน้าต่างที่ปิดไปหมดแล้ว พร้อมใจกันเปิดออกแล้วปิดเข้ามาดังปั้ง !!
เท่านั้นแหละ ทุกคนไม่อยู่แล้วค่ะ วิ่งกันชุลมุน
แต่มีเพื่อนตัวเล็กสุดในกลุ่มบอกว่า ระหว่างวิ่งลงมา แหงนมองไปบนชั้นสอง ( ช่องระหว่างบันได )
เห็นขาผู้หญิงใส่ชุดไทย เห็นแค่ขานะคะ กำลังจะเดินลงมาค่ะ
พอวันต่อมาเล่าให้ครูแก่ฟัง แกบอกว่า ถ้าไม่ไปลบหลู่เขา เขาก็ไม่มาให้เห็นหรอก
หลังจากนั้นทุกๆวัน เราก็ต้องทนซ้อมกัน แล้วรีบกลับบ้านอย่างไวเลยล่ะค่ะ
น่ากลัวมากๆ

จบจ้า .___. เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ ไม่ได้อ้างอิงอะไรทั้งสิ้น !!


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-02-22 22:18:30


ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 25th April 2025 13:24

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ