โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
สิวเเก้ได้
sims lovelove 459
#1
12-07-2012 - 20:33:28

#1 sims lovelove 459  [ 12-07-2012 - 20:33:28 ]






วิธีทำให้รอยสิวหายเร็ว "ผิวสวย ใส ไร้จุดด่างดำ"

วิธีทำให้รอยสิวหายเร็วเหมาะอย่างยิ่งกับคุณผู้หญิงหรือใครๆ ที่อยากจะมีผิวสวย ใส ไร้จุดด่างดำ และวันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ก็มี วิธีทำให้รอยสิวหายเร็ว มาฝากคุณผู้หญิงกันอีกด้วยค่ะ ซึ่งคำแนะนำใน วิธีทำให้รอยสิวหายเร็ว นี้จะช่วยให้ครั้งหน้าหากเกิดสิวขึ้นกับคุณผู้หญิงอีกก็จะได้รู้ วิธีทำให้รอยสิวหายเร็ว กันแล้วนะค่ะ เพราะเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) เชื่อว่า พอสิวหาย สิวหมด สิวยุบ ทีไรมักจะทิ้งรอยแผลเป็น จุดด่างดำ ต่างๆ นาๆ ไว้บนหน้าสวยๆ ของคุณผู้หญิงทำให้คงทำให้คุณผู้หญิงดูกลุ้มอกกลุ้มใจกันมิใช่น้อยกับรอยแผลเป็นและจุดด่างดำที่เกิดจากสิวกันใช่ไหมล่ะค่ะ แต่ต่อจากนี้ไปปัญหารอยแผลเป็นและจุดด่างดำที่เกิดจากสิวคงใจไม่มากวนใจคุณผู้หญิงอีกต่อไปค่ะ เมื่อคุณมาเจอกับ วิธีทําให้รอยสิวหายเร็ว ที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) นำมาฝากกันในวันนี้ค่ะ เพียงแค่คุณผู้หญิงได้ลองทำตาม วิธีทําให้รอยสิวหายเร็ว เท่านี้จะช่วยคุณได้เยอะเลยค่ะ นั้นไม่รอช้ามาเริ่มวิธีทําให้รอยสิวหายเร็วกันเลยดีกว่าค่ะ




9 วิธีทำให้รอยสิวหายเร็ว

1. ล้างหน้าให้สะอาด

ในวันหนึ่งๆ เราควรล้างหน้าให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือตอนเช้าและตอนเย็น โดยเฉพาะในเวลาเย็นยิ่งต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษเพราะบนใบหน้ามีทั้งเครื่องสำอาง คราบเหงื่อไคล รวมทั้งฝุ่นละอองจากมลภาวะต่างๆ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้คลีนซิ่งเพื่อล้างสิ่งเหล่านี้ออกให้หมด โดยเลือกใช้คลีนซิ่งที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณเช็ดด้วยสำลีจนไม่มีคราบหลงเหลือให้เห็น แล้วจึงล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ซับหน้าให้สะอาด จากนั้นจึงทาครีมบำรุงผิวหน้า รวมผลิตภัณฑ์รักษาสิวและลดรอยด่างดำที่คุณใช้อยู่


2. หลบแดด

หลบเลี่ยงการเผชิญกับแดดจ้าหรืออยู่กลางแดดเป็นเวลานาน เพราะรังสียูวีในแสงแดดนอกจากจะทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองจากการอาการแพ้แดดแล้ว ยังทำให้ผิวคล้ำเสียซึ่งทำให้รอยแผลและจุดด่างดำดูเข้มขึ้นกว่าเดิมด้วย


3. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว ซึ่งนำมาสู่การเกิดแผลและรอยด่างดำเมื่อสิวหาย

เมื่อรอยแผลที่ไม่พึงปรารถนามีที่มาจากการเกิดสิว การป้องกันตั้งแต่สาเหตุแรกเริ่มน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด โดยทำได้ตามวิธีเหล่านี้
- สระผมให้สะอาดเป็นประจำเพื่อไม่ให้เป็นที่หมักหมมของน้ำมันจากหนังศีรษะ รวมถึงฝุ่นละอองและมลภาวะต่างๆ รวมทั้งไม่ปล่อยให้ผมตกลงมาระใบหน้าซึ่งจะนำพาให้เกิดสิวได้
- ไม่แต่งหน้ามากจนเกินไป เนื่องจากเครื่องสำอางต่างๆ จะเคลือบปิดรูขุมขนทำให้ผิวหน้าหายใจไม่ออก รวมถึงพยายามเลือกใช้เครื่องสำอางที่เป็นสูตรอ่อนโยนหรือที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติซึ่งจะเป็นมิตรกับผิวหน้ามากกว่า


4. รักษาสิวทันทีที่ผุดขึ้นบนใบหน้า

การรักษาสิวทันทีที่รู้สึกว่ามันกำลังจะผุดขึ้นบนใบหน้าเป็นอีกวิธีที่จะหลบเลี่ยงรอยแผลจากสิวได้ ยิ่งไหวตัวรักษาสิวเร็วเท่าไหร่โอกาสจะมีรอยด่างดำจากสิวก็น้อยลงเท่านั้น










5. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้สิวอักเสบ

เมื่อสิวอักเสบ เป็นหนอง สิ่งที่ตามมาแน่นอนเมื่อสิวหายก็คือ รอยแผล เพราะฉะนั้นหากสามารถทำให้อาการอักเสบทุเลาลงได้โดยเร็วก็จะยิ่งดีซึ่งทำได้โดย
- การรับประทานอาหารที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์อย่างวิตามินเอ ซี และ อี ซึ่งวิตามินเหล่านี้ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของผิวหนังได้
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าที่เป็นเนื้อเจลแทนเนื้อครีมจะเหมาะกับผิวที่กำลังมีสิวอักเสบ เนื่องไม่เพิ่มความมันของผิวหน้ารวมถึงการมากส์หน้าด้วยโคลนก็ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินได้ดีเช่นกัน
- หลีกเลี่ยงการโกนหากผิวบริเวณนั้นเป็นสิว หรือถ้าจำเป็นต้องโกนจริงๆ หลีกเลี่ยงการลากใบมีดไปโดยบริเวณที่เป็นสิว และเปลี่ยนใบมีดใหม่ก่อนทำการโกนเพื่อหลีกเลี่ยงอาการอักเสบ ติดเชื้อ ที่อาจเกิดขึ้นได้


6. ไม่บีบสิว

ไม่บีบ หรือเค้น แคะ แกะ เกา บริเวณที่เป็นสิวเด็ดขาด เพราะยิ่งบีบยิ่งสัมผัสก็ยิ่งทำให้แบคทีเรียกระจายออกไปแถมยังเปิดรูขุมขนให้สัมผัสสิ่งสกปรกได้ง่ายขึ้น รวมทั้งยิ่งบีบยิ่งเค้นก็จะทำให้ผิวช้ำและรอยแผลเป็นก็จะตามมานั่นเอง


7. ดูแลผิวหน้าเป็นพิเศษหากผิวเสี่ยงที่จะเป็นแผลเป็นง่าย

บางคนเมื่อเป็นแผลแล้วจะหายช้ากว่าคนทั่วไปแถมยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นแผลเป็นได้ง่ายด้วย สิ่งเหล่านี้นอกจากจะขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์แล้วยังขึ้นอยู่กับสภาพผิวและช่วงวัย หากคุณรู้ว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นแผลเป็นได้ง่าย ก็ยิ่งต้องดูแลผิวตัวเองให้มากเป็นพิเศษ


8. เลือกใช้ชีวิตแบบสุขภาพดี

การเลือกใช้ไลฟ์สไตล์แบบสุขภาพดีไม่ว่าจะทานอาหารมีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ รวมถึงออกกำลังกาย จะช่วยป้องกันการเกิดสิว การอักเสบ รวมถึงโอกาสที่จะเกิดรอยแผลจากสิวได้ การเลือกรับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงจะช่วยลดความรุนของอาการผิวหนังอักเสบรวมถึงสิวอักเสบ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมเซลส่วนที่เสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้รอยแผลจากสิวค่อยๆ จางลงได้ ส่วนการออกกำลังกายต่างๆ เช่น การเล่นโยคะ ก็จะทำให้เลือดสูบฉีดทั่วร่างรวมถึงบริเวณใบหน้าซึ่งจะช่วยขับของเสียออกจากรูขุมขนและทำให้ผิวสามารถดูดซับรับสารอาหารที่มีประโยชน์ได้ดีขึ้นนั่นเอง


9. พบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษา

หากลองทำมาหลายวิธีแล้วยังไม่ได้ผลที่น่าพอใจควรเข้าปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณและจะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพต่อไป นอกจากนี้อย่าลืมทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดเพื่อให้รอยแผลและจุดด่างดำจากสิวจางลงโดยเร็วค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลผิวสวยผิวขาวจาก health ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต


คัมมิ่ง
#2
คัมมิ่ง
13-07-2012 - 16:55:23

#2 คัมมิ่ง  [ 13-07-2012 - 16:55:23 ]




ขอบคุณค่ะ แต่หนูยังไม่เป็นสิว อายุแค่11เอง



{ All x JK }
โอมมี่
#3
13-07-2012 - 19:06:33

#3 โอมมี่  [ 13-07-2012 - 19:06:33 ]





เรปบนยังดี โอมมี่สิ เต็มหน้าเลย


zazagogo
#4
13-07-2012 - 19:08:09

#4 zazagogo  [ 13-07-2012 - 19:08:09 ]






อายุ 11 ปีเหมือนกันนะ แต่เรามีสิวแล้ว =..="



คิดถึงทุกอย่างเล้ยยยย
simswonder
#5
13-07-2012 - 21:47:30

#5 simswonder  [ 13-07-2012 - 21:47:30 ]





เรา 16 แล้วทำไมสิวไม่ขึ้น

เอ๊ะ!! รึว่าเราหน้าด้านหว่า = =



ออนเพื่อมาโหลดของแบบเงียบๆ
คัมมิ่ง
#6
คัมมิ่ง
14-07-2012 - 15:56:52

#6 คัมมิ่ง  [ 14-07-2012 - 15:56:52 ]




quote : simswonder

เรา 16 แล้วทำไมสิวไม่ขึ้น

เอ๊ะ!! รึว่าเราหน้าด้านหว่า = =


555



{ All x JK }
  • 1

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 22nd June 2025 19:44

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ