
เป็นข่าวที่ใครอ่านแล้วอาจรู้สึกสะเทือนใจ พร้อม ๆ กับเกิดความรู้สึกซาบซึ้งที่ได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งป่วยหนัก แต่ก็ยังแบ่งปันน้ำใจส่งต่อไปยังเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
โดยสำนักข่าวในประเทศจีน รายงานข่าวของหญิงสาวคนหนึ่ง นามว่า "เฝิงเมิ่งเหวิน" ที่เกิดมาพร้อมกับอาการผิดปกติกระดูกสันหลังแยก (Spina Bifida) ทำให้ร่างกายของเธอยังดูเหมือนเด็กอายุ 3 ขวบ โดยสูงเพียงแค่ 1 เมตรเท่านั้น แม้ว่าปัจจุบันเธอจะมีอายุถึง 22 ปีแล้ว
ในช่วงที่ "เฝิงเมิ่งเหวิน" หรือ "เหวินเหวิน" ที่พ่อแม่เรียกนั้นถือกำเนิดขึ้นมา แพทย์คาดว่า เธอไม่น่าจะมีชีวิตอยู่ถึง 10 ขวบ เพราะนอกจากเธอจะมีความผิดปกติที่กระดูกสันหลัง ทำให้ร่างกายไม่เจริญเติบโตแล้ว "เหวินเหวิน" ยังมีอาการป่วยมากมายรุมเร้า เช่น อาการผิดปกติที่ระบบท่อประสาท พ่อแม่ของเหวินเหวินจึงต้องเริ่มทำใจตั้งแต่นั้น แต่ทว่าด้วยกำลังใจที่ดีทำให้เหวินเหวินสามารถต่อสู้กับโรคร้ายมาได้ยาวนานถึง 22 ปี
เฝิงกั่นหมิง พ่อของเหวินเหวิน พูดถึงเหวินเหวินว่า เธอเป็นคนที่รักน้องสาวมาก เธอมีความหวังว่า สักวันหนึ่งจะได้ไปเที่ยวอียิปต์กับน้องสาว นอกจากนี้ เหวินเหวินยังเคยพูดกับพ่อแม่ด้วยว่า เธอไม่ต้องการให้พ่อแม่จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อรักษาอาการของเธอ แต่อยากให้นำเงินจำนวนนี้ส่งเสียน้องสาวให้เรียนจนจบมหาวิทยาลัยจะดีกว่า

แต่แล้วเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา อาการของเหวินเหวินก็ย่ำแย่ลงจนเข้าขั้นโคม่า เหวินเหวินรู้ว่าชีวิตของเธอกำลังนับถอยหลังแล้ว เธอจึงขอทำความหวังครั้งสุดท้ายให้เป็นจริง ด้วยการแสดงเจตจำนงจะบริจาคอวัยวะทั้งหมด โดยหญิงสาวใจบุญคนนี้เธอได้เขียนความปรารถนาของเธอไว้ว่า...
"ฉันเป็นเพียงคนพิการคนหนึ่ง และเป็นอัมพาตทั้งตัว ตั้งแต่เด็ก ๆ ฉันมีความปรารถนาข้อหนึ่ง คือต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสังคม ดังนั้นแล้วก่อนที่ฉันจะจากโลกนี้ไป ฉันจึงตัดสินใจจะบริจาคร่างกายของฉัน โดยขอบริจาคดวงตาให้เหล่าทหารหาญที่สูญเสียดวงตา ผิวหนังของฉันก็ขอมอบให้กับผู้ที่ประสบอุบัติเหตุจนผิวหนังถูกทำลาย หัวใจก็ขอมอบให้ผู้ที่ต้องการปลูกถ่ายเปลี่ยนหัวใจ ส่วนอวัยวะส่วนอื่น ๆ ก็ขอให้ทางโรงพยาบาลเป็นคนจัดการ ขอเพียงฉันสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ วันใดที่ฉันจากโลกนี้ไปแล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจแล้ว"

และในที่สุด "เหวินเหวิน" ก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา โดยเฝิงกั่นหมิง พ่อของเธอยืนยันจะทำตามในสิ่งที่เธอปรารถนา และไม่นานนัก เจ้าหน้าที่อาสาสมัครเชิญชวนบริจาคก็ได้เข้ามาหาเหวินเหวินที่นอนอย่างไร้ลมหายใจอยู่บนเตียงของโรงยาบาล เขาได้สวมหมวกอาสาสมัครสีแดงให้เธอ ในเวลานั้น ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาก้มลงจูบลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะร้องไห้อยู่ข้างใบหน้าของลูกสาว และเรียกชื่อ "เหวินเหวิน" อย่างแผ่วเบา แม้ว่าเธอจะไม่สามารถได้ยินและรับรู้ใด ๆ ได้อีกต่อไปแล้ว
จากนั้น แพทย์ 2-3 คน ซึ่งทำหน้าที่ผ่าตัดดวงตาก็เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับโค้งคำนับเหวินเหวิน 3 ครั้ง ก่อนจะพยุงพ่อแม่ของเหวินเหวินให้ออกจากห้อง ในเวลานั้น ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นมาด้วยน้ำตาอาบแก้มว่า "ผมดูแลลูกไม่ดีพ่อ ขอให้ชาติหน้าเธอได้เกิดใหม่และเป็นนักบินหญิงสมใจ..."
อย่าลืม...
เวลาคุณเข้ามาอ่านกระทู้ ส่วนเจ้าของก็ดูคนมาเม้น
ถ้าอ่านแล้วไม่เม้นเขียนไม่เป็น เจ้าของเห็นหมดแน่กำลังใจ
เบื่อแล้วกับพวกนักอ่านเงา แล้วถ้าคุณเป็นเราคิดว่าไง
แค่คำว่า ขอบคุณ ไม่เป็นไร มารยาทไทยรักษาไว้ชั่วลูกหลาน
CREDIT : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2268710