แทนพระเยซู เพื่อจะได้ ลดข้อขัดแย้งค่ะ
________________________________________________________________
แนะนำ :
-ศาสดาของอิสลามที่ชื่อ อีซา หรือ สำหรับชาวคริสต์เขาคือ พระเยซู
-ศาสทูต = ศาสดา
อัลกุรอ่าน = คัมภีร์หนึ่งของอิสลาม
- อัลลอฮ์ = พระเจ้าอันเป็นที่รักของฉัน และของชาวมุสลิมทั่วโลก________________________________________________________________
โดยทั่วไปแล้ว เรามุสลิมเชื่อว่าพระเยซู หรือ นบีอีซา(อลัยฯ)
1. เป็นศาสนทูตที่แท้จริงของพระเจ้า
2. เป็นศาสดาพยากรณ์ที่พระเจ้าดลใจให้มาสอนมนุษย์
3. ถือกำเนิดอย่างอัศจรรย์ โดยพระผู้เป็นเจ้าบันดาลให้บังเกิดในพระครรภ์ของพระนางมารีโดยมิได้มีความสัมพันธ์กับบุรุษ
4.เป็น "ไครส์" หรือ "เมสสิยาห์" ที่ทำนายไว้ (อิสลามเรียก มะซีห์) ในไบเบิ้ลภาคพันธะสัญญาเก่า(เข้าใจว่าเป็นโตราห์-ผู้เขียน)
5.กำลังสถิตอยู่กับพระเจ้าในขณะนี้
6.ท่านจะกลับมายังโลกมนุษย์ในวันสิ้นโลกและเป็นผู้นำของเหล่าผู้ที่ศรัทธาต่อสู้กับพวกอธรรม
**************************
ยิวก็คือผู้ที่ไม่ยอมรับว่านบีอีซาเป็นศาสนฑูตของพระเจ้า
**************************
คนที่ถูกตรึงที่ไม้กางเขนและถูกตอกนั้น ไม่ใช่ ท่านนบี อีซา(พระเยซู)
อ่านกันเลย :: คำพูดต่อไปนี้ น่าสนใจมากๆค่ะ มาจากอัลลอฮ์
-“และพวกเขา(ยิว)ได้วางแผน(ที่จะฆ่าท่านนบีซา(พระเยซู))และอัลเลาะฮ์ก็ทรงวางแผน(ในการปกป้องท่านนบีอีซา)ด้วย
และอัลเลาะฮ์นั้นทรงเป็นผู้วางแผนที่ดีเยี่ยม”-
-“ จงรำลึกถึงขณะที่อัลเลาะฮ์ตรัสว่า โอ้อีซา(พระเยซู) ข้าจะเป็นผู้รับเจ้าไป(โดยยังมีชีวิตยู่)และจะเป็นผู้ที่ยกเจ้าขึ้นไปยังข้า และจะเป็นผู้ที่ทำให้เจ้าบริสุทธิ์ พ้นจากบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และจะทำให้ผู้ปฏิบัติตามเจ้าเหนือผู้ปฏิเสธทั้งหลาย จนกระทั่งถึงวันกิยามะฮ์(วันสิ้นโลก) และข้านั้นคือการกลับไปของพวกเจ้า แล้วข้าจะตัดสินระหว่างพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกัน”-
-“แล้วเราก็ได้สาปแช่งพวกเขา(ยิว) อันเนื่องด้วยการที่พวกเขาทำลายสัญญาของพวกเขา(ว่าจะยึดมั่นในบทบัญญัติของศาสนาตามข้อบัญญัติของคัมภีร์เตารอต(โตราห์)ที่ได้ประทานให้ท่านนบีมูซา(โมเสส)) และปฏิเสธบรรดาโองการของอัลเลาะฮ์ และฆ่าบรรดานบี(ศาสนทูตของพระองค์)(เช่น นบีซะการียา(ศาคาริยาห์) และยะห์ยา(ยอห์นบัพติศ)เป็นต้นและอีกหลายคนในอดีต) โดยปราศจากความเป็นธรรมและพวกเขากล่าวว่า หัวใจเรามีเปลือกหุ้มอยู่(เป็นการกล่าวแบบเย้ยหยัน) หามิได้ อัลเลาะฮ์ได้ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกเขาต่างหาก เนื่องจากการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ศรัทธา นอกจากเพียงจำนวนน้อยเท่านั้น”-
-“และเนื่องจากการที่พวกเขาปฏิเสธศรัทธา(ต่อท่านนบีอีซา(พระเยซู))และกล่าวให้ร้ายแก่มัรยัม(มารีย์)(เป็นการกล่าวหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่หญิงที่บริสุทธิ์) ซึ่งเป็นความเท็จอันใหญ่หลวง”-
-“และการที่พวกเขากล่าวว่าแท้จริงพวกเราได้ฆ่า อัล-มะซีฮ์ อีซา(พระเยซู)บุตรของมัรยัม(มารีย์) ร่อซูล(ศาสนทูตศาสนา)ของอัลเลาะฮ์ และพวกเขาหาได้ฆ่าอีซาและหาได้ตรึงเขาบนไม้กางเขนไม่ แต่ทว่าเขา(ชายคนหนึ่ง นาม ยูดา)ถูกทำให้เหมือน(อีซา)แก่พวกเขา(ซึ่งเป็นแผนของอัลลอฮ์ เพื่อปกป้องอีซา) และแท้จริงบรรดาผู้ที่ขัดแย้งในตัวเขานั้น แน่นอนอยู่ในความสงสัยเกี่ยวกับเขา พวกเขาหาได้มีความรู้ใดๆต่อเขาไม่ นอกจากคล้อยตามความนึกคิดเท่านั้น พวกเขามิได้ฆ่าเขา(นบีอีซา(พระเยซู))อย่างแน่นอน”-
อธิบาย --หากไม่เข้าใจด้านบน
พวกเขามิได้ฆ่าท่านนบีอีซา(พระเยซู)แต่อย่างใด และไม่ได้ตรึงท่านบนไม้กางเขนอย่างที่พวกเขากล่าวอ้าง แต่ ยะฮูซา(ยูดาส อิทคาริโอท) ซึ่งเป็นสาวกที่ทรยศต่อท่านต่างหากที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน ทั้งนี้เนื่องจากอัลเลาะฮ์ ทรงให้เขามีลักษณะเหมือนกับท่านนบีอีซา และพวกยิวต่างก็มีความคิดเห็นขัดแย้งกันในตัวของท่านนบีอีซาว่าเป็นผู้ที่ถูกตรึงจริงหรือไม่ และไม่สามารถขจัดข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อนี้ได้ว่า ใครคือผู้ที่ถูกจับไปตรึงกันแน่
ไม่มีใครรู้จริงเกี่ยวกับตัวท่านได้ นอกจากใครคิดอย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีความคิดขัดแย้งกัน พวกเขาไม่ได้ฆ่าท่านนบีอีซา(พระเยซู)ด้วยความแน่ใจว่าเป็นตัวท่านจริง เพราะขณะที่กำลังตรึง ยะฮูซาบนกางเขนนั้น ก็ยังถกเถียงกันอยู่ว่าใช่ท่านนบีอีซาหรือไม่ และยะฮูซา(ยูดาส)ก็ปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่ท่านนบีอีซา แต่ในที่สุดพวกเขาก็ฆ่า ยะฮูซา ด้วยการตรึงบนไม้กางเขนโดยเข้าใจว่าเป็นท่าน นบีอีซา”
-“หามิได้ อัลเลาะฮ์ได้ทรงยกเขา(อีซา)ขึ้นไปยังพระองค์ต่างหาก และปรากฏว่าอัลเลาะฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ”-
ขอความสันติสุขจงประสปแด่ท่าน