โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
สิ่งที่ไม่ควรกราบไหว้เดี๋ยวหน้าแตก
best10210
#1
19-04-2011 - 17:50:44

#1 best10210  [ 19-04-2011 - 17:50:44 ]




10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้
ลำดับ 10-1 ลำดับ 1-10
วันนี้ขอนำเสนอเรื่องแปลกๆกันบ้างใน "10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้"
10 ไข่นกกระจอกเทศ

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงามีชาวประมงพบไข่ขนาดใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าว ซึ่งเจ้าของไข่เปิดเผยว่าขณะที่เขาตระเตรียมอวนตาข่ายเพื่อหาปลาได้สังเกต เห็นวัตถุสีขาวลักษณะกลมรีคล้ายไข่ไก่ แต่มีขนาดใหญ่ผิดปกติตั้งอยู่บนพื้นในพงหญ้า จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆพบว่าลักษณะภายนอกเปลือกแข็งเหมือนไข่ทั่วไป มีสีขาวครีม ส่งกลิ่นคาวซึ่งชาวบ้านบางคนคาดว่าสัตว์ที่เป็นเจ้าของคงจะตัวใหญ่มากและ บริเวณที่พบมีน้ำลึกมาก อาจมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่มาอาศัยอยู่ขณะเดียวกันบริเวณนั้นอยู่ห่างจากทะเล ประมาณ 700 เมตรถือว่าไม่ไกลมากนักอาจมีสัตว์บางชนิดขึ้นมาจากทะเลแล้ววางไข่ก็เป็นได้ จึงมีการจุดธูปกราบไหว้บูชาและใช้แป้งโรยไปที่ไข่(หมายถึงไข่ใบที่เก็บมาจาก ทะเล) แล้วใช้มือลูบหวังให้เห็นเลขเด็ด เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นางระวีวรรณ ยิ่งวรรณศิริ หัวหน้าปศุสัตว์ จ.พังงา เปิดเผยว่าไข่ที่พบน่าจะเป็นไข่ของนกกระจอกเทศโดยที่จังหวัดพังงามีฟาร์มนก กระจอกเทศอยู่ 2-3 แห่งลูกจ้างของเจ้าของฟาร์มอาจจะขโมยมาจากที่อื่น แล้วนำมาทิ้งไว้เพื่อจะนำไปปรุงรับประทาน เพราะไข่นกกระจอกเทศนั้นมีราคาแพงมาก ใบละ 100กว่าบาท แต่เพื่อมั่นใจว่าใช่หรือไม่ ใช่ ต้องนำไข่ไปพิสูจน์ในห้องแล็บแต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการสอบถามเจ้าของไข่แล้ว ไม่ยอมให้นำไปพิสูจน์และขณะนี้พบว่าไข่เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว



9 ต้นหว้า

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ที่ อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมาชาวบ้านจำนวนมากแห่ไปมุ่งดูและกราบไหว้ต้นหว้าที่มีน้ำไหล ออกมาอย่างขาดสายเจ้าของที่ดินกล่าวว่า ตนเองกำลังจะตัดต้นไม้ต้นดังกล่าวเพื่อต้องการไถดินเพื่อนำนาแต่หลังจากทำ งานมาตลอดทั้งวันจึงได้หยุดพักโดยได้นั่งหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ดังกล่าวซึ่ง เป็นต้นหว้าแต่เมื่อนั่งไปได้ระยะหนึ่งรู้สึกว่ามีหยดน้ำไหลออกมาจากต้นไม้ ดังกล่าวเป็นจำนวนมากจึงเริ่มเดินตรวจสอบบริเวณต้นไม้จึงพบว่ามีหยดน้ำที่ ไหลลงมาจากต้นไม้และไม่ใช่หยดน้ำที่เกิดจากน้ำค้างอย่างแน่นอนและเมื่อข่าว แพร่สะพรัดออกไปชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันมาดูพร้อมกับน้ำภาชนะมารองรับน้ำ เพื่อนำกลับไปดื่มและอาบเพราะเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกทั้งชาวบ้านบาง ส่วนยังเชื่ออีกว่าน้ำที่หยดลงมานั้นเป็นหยดน้ำตาของต้นไม้ที่เสียใจว่าจะ ต้องถูกตัดทิ้งจึงได้ร้องไห้ออกมาอย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปตนเองคงจะไม่กล้า ที่จะตัดต้นไม้ต้นนี้ทิ้งอย่างแน่นอนเนื่องจากชาวบ้านต่างมามุงดูและไม่ยอม ให้ตนเองตัดทิ้ง เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นหว้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติความสูงประมาณ 15 เมตรมีอายุราว 20 ปี ซึ่งต้นว่าเป็นต้นไม้ที่รับประทานผลได้ส่วนสาเหตุของเรื่องประหลาดที่มีน้ำ หยดลงมานั้นจากการตรวจสอบพบว่าน้ำได้ไหลออกมาจากส่วนใบ ผ.ศ. ยงยุทธ์ จรรยารักษ์กล่าวว่านี่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น ความชื้นความกดอากาศ สภาวะแวดล้อม และ กระบวนการหาอาหารของต้นไม้ซึ่งในบางครั้งที่อากาศมีความชื้นสัมพันธ์สูงน้ำ จะระเหยเป็นไอสู่บรรยากาศได้น้อยลง ทำให้การคายน้ำลดลงแต่แรงดันน้ำในต้นพืชยังสูงอยู่จึงสามารถพบหยดน้ำที่ บริเวณกลุ่มรูเปิดที่ผิวใบซึ่งเรียกว่า ไฮดาโทด(hydathode) มักพบอยู่ใกล้ปลายใบหรือขอบใบตรงตำแหน่งของปลายท่อลำเลียงการคายน้ำในลักษณะ นี้เรียกว่า กัตเตชัน (guttation)ทำให้พืชสามารถดูดน้ำทางรากเข้าไปใช้ได้ไม่ได้เกิดจากความเศร้า เสียใจของต้นไม้แต่อย่างใด



8 ควาย

บ่ายวันที่ 23 กันยายน 2550ได้มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศในจ.ศรีสะเกษจำนวนมากนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบ ไหว้ลูกควายประหลาดมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนถูกจัดวางให้อยู่ในสภาพนอนหงาย แขนขากางออกจากกันลักษณะเหมือนกับท่าทางคนนอนหลับ เจ้าของลูกควายประหลาดเปิดเผยว่า มีควายอยู่ทั้งหมด 9 ตัว โดยแม่ของลูกควายประหลาดนี้เป็นตัวที่5 ได้ตกลูกออกมาเมื่อ มีลักษณะประหลาดท่าทางเหมือนคนทุกอย่าง ตั้งแต่ศีรษะปาก จมูกหู รวมทั้งขาทั้ง 4 ข้าง (เหมือนคนทุกอย่าง???)แต่ไม่มีอวัยวะแสดงลักษณะของเพศผู้หรือเพศเมียและลูก ควายประหลาดได้เสียชีวิตทันทีตั้งแต่แรกตนกับสามีจึงได้นำซากควายประหลาดไป ฝังดินไว้ในนาของตัวเองชาวบ้านบางส่วนได้นำน้ำปะพรมบนซากควายประหลาดและเอา แป้งทาตามร่างของซากลูกควายเพื่อขอหวยตามความเชื่อของตัวเองอย่างคึกคัก พร้อมนำเงินมาทำบุญใส่ในขันเงินและหยอดตู้ไม้ตามแต่ศรัทธา เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรมบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าอาตมาเห็นว่าการที่ชาวศรีสะเกษพากันแห่ไปกราบไหว้ซากลูกควายประหลาด นี้ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถจะทำได้แต่ว่าตามหลักธรรมคำสอนของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ว่าจะต้องให้พุทธศาสนิกชนไปกราบ ไหว้ซากสัตว์แต่อย่างใด



7 เห็ดเขาเหม็น

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมามีชาวบ้านล่ำลือกันว่าพบเห็ดประหลาดโผล่ขึ้นมามีลักษณะ คล้ายกับหนวดปลาหมึกสูงประมาณ 7-8 นิ้ว โผล่ชูหนวดขึ้นมาประมาณ 8-9หนวดแถมยังมีน้ำคล้ายน้ำเมือก เจ้าของเห็ดกล่าวว่าก่อนหน้านี้ตนก็ได้ฝันเห็นงูสีปีกแมงทับเขียวมรกตขนาด ใหญ่ 3 ตัวในฝันนั้นบอกว่างูทั้ง 3ตัวเป็น**เมียและลูกได้มาเกี้ยวพันกันอยู่ในขื่อภายในบ้านของตนแต่ก็ไม่ ได้ฝันอะไรต่อไปอีกจึงทำให้ตนสงสัยว่าจะเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ หรือไม่เพื่อความสบายใจของประชาชนในละแวกนี้และผู้ที่พบเห็นตนจึงได้นำ ดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาเพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุที่ดีแก่ครอบครัว และชุมชน เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... เช่นเดียวกับเห็ดมือผีที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อนเห็ดชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม ของเห็ดเขาเหม็น (Stink Horn) เห็ดกลุ่มนี้มีลักษณะพิเศษคือจะส่งกลิ่นเหม็นเมื่อดอกเห็ดแก่เพื่อดึงดูด แมลงให้มาตอมซึ่งจะทำให้สปอร์ติดตัวไปกับแมลงเพื่อกระจายพันธุ์ยังที่อื่น ได้เป็นเห็ดที่มีลักษณะแตกต่างไปจากราทั่วไป คือบางชนิดมีรูปร่างคล้ายการพนมมือไหว้ เช่น เห็ดในสกุล Pseudocolusหรือบางชนิดอาจมีลักษณะคล้ายเขาสัตว์



6 ปลาจระเข้

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีที่แล้วชาวปทุมธานีพบกับปลาประหลาดที่ลำตัวมีเกล็ดสีดำเทาเงา คล้ายเกล็ดงูเห่ามีลิ้น 2 แฉก ลักษณะแฉกมนคล้ายรูปหัวใจ และมีกลิ่นคาวปลาเหม็นแรงกว่าปลาชนิดอื่นๆ มีความแปลกเหมือนมีลักษณะของอวัยวะในส่วนต่างๆของปลา งู จระเข้ รวมกัน ซึ่งเจ้าของปลาดังกล่าว เล่าว่าตนฝันแปลกๆฝันเห็นว่ามีผู้หญิงแก่เดินเข้ามาหาและจับมือตนไว้ จากนั้นเข้ามากอดเมื่อหญิงแก่คนนั้นกอดตนแล้วสภาพร่างกายของหญิงแก่ก็กลาย สภาพเน่าเฟะเหม็นเหมือนศพ จากนั้นตนสะดุ้งตื่น ตอนเช้ามาจึงใส่บาตรทำบุญและจุดธูปไหว้ขอขมา ซึ่งชาวบ้านที่เข้ามาดูต่างพากันมาลูบที่ตัวปลามีบางคนมาขอเกล็ดไปไว้บูชา ที่บ้านบ้าง จุดธูปไหว้บ้างวันนั้นทั้งวันตนไม่เป็นอันขายของเพราะต้องเดินเข้าออกไปมา หยิบปลาประหลาดให้ชาวบ้านที่แห่มาขอดู เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ปลาที่พบคือ ปลาจระเข้หรือปลาอัลลิเกเตอร์ การ์ อาศัยอยู่มากในแถบรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับปลาชนิดนี้เป็นปลาที่กินเนื้อเป็นอาหารโดยส่วนมาก ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงามและเลี้ยงไว้ในบ่อตกปลาปลาในข่าวอาจจะมีผู้นำมา เลี้ยงเมื่อเกิดเบื่อก็นำมาปล่อยทิ้งหรืออาจจะหลุดออกมาในช่วงน้ำท่วม ซึ่งในปีพ.ศ.2545ทางกรมประมงประกาศห้ามนำเข้าปลาจระเข้ เนื่องจากเป็นปลากินเนื้ออาจทำลายระบบนิเวศของแหล่งน้ำ ด้วยการกินปลาพื้นเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าจนทำให้ระบบนิเวศเกิดความเสียหาย หรือปลาอาจสูญพันธุ์ได้



5 ต้นบุก

ในวันที่ 24 เมษายน 2550 ชาวบ้านเมืองพิจิตร ต่างมาชุมนุมกันหลังทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีต้นไม้ประหลาดผุดขึ้น มาจากพื้นดินมีลักษณะคล้ายพานพุ่มที่จัดวางบนโต๊ะหมู่บูชา โดยต้นไม้ดังกล่าวสูงประมาณ25 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตรซึ่งหากมองจากทางด้านข้างจะเห็นคล้ายพานพุ่มแต่ถ้ามองจากด้านบนจะ คล้ายใบโพธิ์เรียงล้อมรอบ ชาวบ้านที่เดินทางมาดูต้นไม้ประหลาดดังกล่าวต่างพากันจุดธูปเทียนกราบไหว้ พร้อมทั้งบนบานขอให้มีโชคลาภเพราะลือกันว่าในงวดที่ผ่านมามีผู้ถูกรางวัลเลข ท้ายสองตัวจากจำนวนก้านธูปที่คนนำมากราบไหว้กัน เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... มันคือต้นบุก ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นบอน (Araceae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบไม่มีแก่น สูง 3-6 ฟุต มีดอกสีม่วงเหมือนดอกหน้าวัว เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น จีน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดจีน ในประเทศไทย คนไทยใช้เป็นอาหารกันมาช้านานแล้ว โดยใช้ต้นใบ และหัวบุกมาทำขนม เช่น ขนมบุกแกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว) ซึ่งการนำบุกมาทำอาหารจะแตกต่างกันในแต่ละภาค นอกจากประโยชน์ดังกล่าวแล้วบุกใช้เป็นไม้ประดับที่สวยงามโดยนักจัดสวนนิยมนำ มาประดับตามใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นที่มีป่าโปร่งหรือจะนำมาใส่กระถางเป็นไม้ ประดับ



4 จิ้งจก

ในเวลาราวๆ ตีสาม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชาที่บ้านหลังหนึ่งใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมากลางดึกและจิ้งจกสีแดงตัวหนึ่ง เกาะอยู่ในมุ้งซึ่งตอนแรกเจ้าของบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไรและนอนหลับไปจนกระทั่ง เช้าจิ้งจกสีแดงก็ยังเกาะอยู่ที่เดิมจึงอธิษฐานจิตบอกจิ้งจกตัวนั้นว่า "อยากอยู่ด้วยกันก็ได้"พร้อมทั้งยกมือไหว้แล้วเอื้อมมือไปจับจิ้งจกได้อย่าง ง่ายดายโดยมันไม่ได้คลานหลบหนีไปไหน และได้ไปนำเอาตู้ปลามาใส่เลี้ยงไว้พร้อมตั้งชื่อเจ้าจิ้งจกสีแดงว่า "ถุงเงินถุงทอง"โดยจิ้งจกตัวดังกล่าวมีสีแดงทั้งตัว ขนาดความยาวประมาณ 10 เซนติเมตรนอกจากนี้นิ้วเท้าทั้ง 4 ข้าง ยังแปลกประหลาดกว่าจิ้งจกทั่วไปซึ่งปกติจะมีนิ้วข้างละ 4 นิ้ว แต่จิ้งจกสีแดงดังกลาวมีนิ้วข้างละ 5 นิ้วเจ้าของบ้านจับใส่ไว้ในตู้ปลามีมุ้งลวดปิดคลุมไว้ซึ่งบริเวณแผ่นกระจก ด้านนอกตู้ ได้มีชาวบ้านนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดไว้บางรายนำผ้าแพร 3 สี และพวงมาลัยมาผูกไว้ที่หน้าตู้ประชาชนที่เดินทางไปดูจิ้งจกสีแดงต่างแสดง ความตื่นเต้นประหลาดใจบางคนก็พูดว่าเป็นมันเป็นจิ้งจก นปช. เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นายอรรถกร สุขทวี ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน สวนสัตว์ดุสิตกล่าวว่ายังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจิ้งจกดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ อะไรเนื่องจากยังไม่เห็นตัวจริง แต่เบื้องต้นจากลักษณะที่บอกคาดว่าอาจเป็นจิ้งจกสายพันธุ์ต่างประเทศที่มี ผู้นำเข้ามาเลี้ยงแต่ยังไม่สามารถระบุชื่อพันธุ์ได้ชัดๆ เพราะไม่มีในเมืองไทย ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้นิยมนำสัตว์เลื้อยคลานจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงเป็น จำนวนมาก- อย่างไรก็ดีทางผู้ชื่นชอบสัตว์เลื้อยคลานจากเว็บ siamreptileเชื่อว่าเป็นจิ้งจกบ้านหางอ้วนตัวเมียที่ตกถังสีมาและยังกล่าว ไว้ว่าจิ้งจกดังกล่าวนั้นมี 5นิ้วอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด



3 เสาอาคาร

เรื่องเล่ามีอยู่ว่า มีคนงานสาวชาวพม่าตกลงไปในแบบหล่อเสา ขนาดใหญ่แต่เพื่อนคนงานไม่รู้เลยเทปูนซีเมนต์ทับลงไป ทำให้ฝังร่างเหยื่อทั้งเป็นมารู้อีกครั้งก็ตอนแกะแบบเหล็กออกไปแล้วจึงเห็น เป็นรูปตัวคนปรากฏอยู่ในเสาวิศวกรคุมงานสั่งให้คนงานช่วยกันกะเทาะคอนกรีต เพื่อนำศพออกมาแต่เนื่องจากคอนกรีตหล่อเสาดังกล่าวมีความแข็งมากจึงนำศพออก มาได้เพียงบางส่วนจากนั้นวิศวกรจึงสั่งให้อัดซีเมนต์เข้าไปในรอยกะเทาะดัง เดิมและฉาบปูนปิดทับแต่ก็ยังคงปรากฏเป็นรอยปะอยู่ที่เสาสองรอยซึ่งบริเวณตรง กลางเสาต้นดังกล่าวมีร่องรอยการฉาบปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ 2 จุดลักษณะคล้ายถูกเจาะเนื้อปูนเดิมออกแล้วมีการฉาบปูนใหม่ปิดทับผิดกับเสา ต้นอื่นที่จะมีลักษณะของเนื้อปูนที่ราบเรียบสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน โดยบริเวณรอยฉาบปูนมีคราบแป้งคล้ายมีคนมาถูหาตัวเลขและมีแผ่นทองคำเปลวมาติด ที่ต้นเสาเพื่อขอหวยนอกจากนี้ยังมีผู้นำสายสร้อยลูกปัดมาแขวนไว้คล้ายเป็น เครื่องเซ่นไหว้สักการะ ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอได้ติดต่อไปทางวิศวกรผู้สร้างอาคารดังกล่าวและ ได้คำอธิบายว่าโครงสร้างของเสาที่อาคารหลังนั้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริม เหล็กเป็นเสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 60 เซนติเมตรซึ่งภายในเสาจะเสริมด้วยเหล็กเสริมขนาด 28 มิลลิเมตรมัดรวมกัน จำนวน 60เส้น ซึ่งรอยปูนนั้นเกิดจากการไหลเวียนขอวงน้ำปูนขณะเทคอนกรีดบางช่วงน้ำปูนไหล ไม่สะดวกซึ่งเกิดจาการติดเหล็กเส้นจำนวนมากทำให้เกิดรอยดังกล่าว และในขณะทำการหล่อเสานั้นจะมีการตรวจสอบที่ละเอียดอย่างต่อเนื่องทั้งก่อน การเทคอนกรีต ขณะเทคอนกรีต และหลังการเทคอนกรีตถ้ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆเช่นเศษลวดหรือเศษไม้ทางผู้ตรวจสอบ จะไม่อนุมัติให้เทปูนจึงยากที่จะมีวัสดุแปลกปลอมหลุดเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้วจำนวนเหล็กเสริมที่ผูกเรียงกันข้างในนั้นทำให้มีพื้นที่ภายใน เสาเพียง 35เซนติเมตร ซึ่งแคบกว่าคนจะเข้าไปได้นอกจากนี้แล้วอาจารย์ภาควิศวกรรมโยธาแห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำเอาเครื่อง Ultra Sonic ไปตรวจสอบ และไม่พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆอยู่ในเสาต้นนั้นอย่างที่ข่าวลือกล่าวไว้เลย



2 แผ่นเจลลดไข้

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 เกิดพายุฝนตกฟ้าคะนองอย่างรุนแรงที่อำเภอลานสักจังหวัดอุทัยทานี และปรากฎวัตถุเรืองแสงคล้ายผีพุ่งไต้หล่นลงมาจากฟากฟ้าเมื่อพายุสงบลงเจ้า ของบ้านหลังหนึ่งได้พบสิ่งมีชีวิตประหลาดมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่นคล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง มีจุดเล็ก ๆ 2 จุดคล้ายตาและมีติ่งยื่นออกมาคล้ายใบหูมีขนาดเท่าฝ่ามือ ซึ่งพอจับจะหดตัว แต่พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้นเจ้าของบ้านหลังนั้นจึงนำธูป หมากพลูและดอกไม้มาบูชาเชื่อว่าหากใครมีในครอบครอง 7 อัน (เช่นเดียวกับดราก้อนบอล)จะทำให้เจริญรุ่งเรือง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้มากไปกว่านั้นยังนำเอาเนื้อเยื่อที่หลุดลุ่ยไป คลุกเคล้ากับข้าวกินกันในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีประชาชนเดินทางไปดูเป็นจำนวนมากทั้งนี้ชาวบ้าน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ก่อนจะลงมือจุดธูปเทียนขอเลขเด็ดไปเเทง หวย เลขที่ได้รับความสนใจคือ 115เเละ 17 โดยตัวเเรกเป็นเลขที่บ้าน ส่วน 17เป็นจำนวนปล่องที่นับได้จากตัวหนอน จากข้อมูลที่ได้มาตามเว็บบอร์ดต่างๆว่าแท้จริงแล้วหนอนที่ตกมาจากฟ้านั้น นั้นเป็นเพียงเจลลดไข้ที่อมน้ำไว้ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์พันธุวิศวกรรมฯจึงได้ทดสอบนำหนอนประหลาดที่ส่งมาจาก ชาวบ้านมาเปรียบเทียบกับแผ่นเจลลดไข้ที่แช่น้ำไว้ พบว่าวัตถุทั้ง 2 ชิ้นมีลักษณะเหมือนกันทุกประการและหลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไปแผ่นเจลลดไข้ ก็ถึงกับขาดตลาดเนื่องจากผู้คนแห่กันไปซื้อมาเล่นโดยมีการนำเอาเอาแผ่นเจลมา ย้อมสีและทำการตกแต่งประดับไปด้วยวัสดุต่างๆเป็นที่สนุกสนานกัน


1 น้ำท่อส้วม

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 ชาวบ้าน อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่และหมู่บ้านใกล้เคียงนับพันคนแห่มาดูสิ่งประหลาดในรั้วของบ้าน หลังหนึ่งที่มีน้ำผุดขึ้นจากดินไหลนองไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานมา ให้กับประชาชนที่ยากจนได้ใช้น้ำดังกล่าวไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และเป็นสิริมงคล เจ้าของพื้นที่ที่น้ำผุดขึ้นมา กล่าวว่าเห็นสนามหน้าบ้านผิดสังเกตตั้งแต่ในช่วงเช้าเมื่อตรวจสอบพบว่ามีน้ำ ซึมออกมาจากดิน เมื่อลองเอานิ้วเขี่ยดูน้ำยิ่งออกมากขึ้น จึงได้บอกให้ชาวบ้านมาดู ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุตนได้ฝันเห็นยายซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันบอกว่าไม่ สบายอยากได้ยาพาราเซตามอล เมื่อตนเดินไปหยิบยามาให้ยายก็หายไปแล้วยายอาจมาเข้าฝันบอกเรื่องยารักษาโรค ในขณะตอนเช้าน้ำก็ผุดขึ้นมาทำให้นึกถึงฝันดังกล่าวและเชื่อว่าเป็นยารักษา โรคจึงได้เอาธูปเทียนดอกไม้มาบูชา และขอน้ำไปเก็บไว้เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ชาวบ้านบางคนกล่าวว่าเข้าคิวรอ ตักน้ำตั้งแต่ทราบข่าวในตอนเช้ากว่าจะได้ตักน้ำก็เกือบเที่ยงโดยนำธูป เทียน-เงินถวายจำนวน 20 บาท วางใส่ในถาดดอกไม้คงเป็นบุญของชาวบ้านที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจชาวบ้านที่ อยู่ในสภาวะข้าวยากหมากแพง จึงประทานน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้รักษาโรคคนยากคนจนโดยชาวบ้านต่างรุมล้อมเพื่อ ขอตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปบ้านในขณะที่น้ำใต้ดินก็ผุดขึ้นมาตลอดเวลาชาวบ้านที่ นั่งรอน้ำผุดขึ้นมามีทั้งน้ำและฟองอากาศเมื่อชาวบ้านร้องขอให้แสดง ปาฏิหาริย์ให้ผุดฟองอากาศบ่อน้ำขนาดเล็กก็สำแดงให้เห็นทันที เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ ในขณะที่จะเข้าไปตักน้ำปรากฏว่าน้ำที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงหยุดทันทีและยุบ ตัวจนพื้นดินแห้งซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที น้ำก็ผุดขึ้นมาอีกทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแพทย์ที่ไปเก็บตัวอย่างน้ำสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจเมื่อไหลออกมาอีก นายสุรินทร์ นิภาโยธิน กำนันตำบลแม่จั๊วะได้นำลูกบ้านขุดหาที่มาของน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวก็พบท่อ เก่าเป็นท่อพีวีซีขนาด 6 หุน ซึ่งมีน้ำไหลออกมาเมื่อขุดตรวจสอบไปอีกจึงพบว่าเป็นท่อจากส้วมเก่าบ้านติด กันห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 4เมตรเท่านั้น ซึ่งกำลังมีการสร้างส้วมและกำลังทำการเปลี่ยนปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำเข้าไปใน ส้วมเมื่อชาวบ้านทราบว่าน้ำดังกล่าวมาจากท่อในส้วมเก่าหลายคนที่ดื่มน้ำ ศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้วถึงกับอาเจียนออกมาทันที

เครดิต http://toptenthailand.com/display.php?id=2717
เมนต์กันบ้างนะครับ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 17:55:43


ฮ่าๆๆๆ (ขำไรวะ?)
koko_191
#2
19-04-2011 - 17:55:55

#2 koko_191  [ 19-04-2011 - 17:55:55 ]





อัน 1 จะ น้ำท่อส้วมมมมม

อัน 2 น่ารักกก

แต่มันก็แปลกจริงนะ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 18:00:25
best10210

vchukkrit
#3
19-04-2011 - 17:56:57

#3 vchukkrit  [ 19-04-2011 - 17:56:57 ]








น้ำท่อส้วม


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 18:10:00
best10210


newza77
#4
19-04-2011 - 17:59:22

#4 newza77  [ 19-04-2011 - 17:59:22 ]




ฮ่า ๆ


hningzazaoo1
#5
19-04-2011 - 17:59:42

#5 hningzazaoo1  [ 19-04-2011 - 17:59:42 ]





น้ำท่อส้วม อย่างงั้นเรอะ

best10210


All i wanna do
vchukkrit
#6
19-04-2011 - 18:09:12

#6 vchukkrit  [ 19-04-2011 - 18:09:12 ]








อันนี้เป็นของภาพแรก

ภาพน้ำท่อส้วม


จากเว็บนี่มีภาพเพียบเลย http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=2189010


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 18:09:54
best10210


ka3z
#7
19-04-2011 - 18:14:10

#7 ka3z  [ 19-04-2011 - 18:14:10 ]







มีข่าวนึงไม่รู้รู้เปล่า
เดี๋ยวเอามาให้ดู อย่างฮา!!!

ความบกพร่องของสื่อไทย

ขอสงบนิ่งยืนไว้อาลัยให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวของกับเรื่องนี้ทุกท่านเป็นเวลา 1 นาที

เมื่อคืนมีโอกาสได้ดูรายการรายการหนึ่งทางช่อง 7 ที่ว่าเกี่ยวกับเรื่องเล้นลับที่พิสูจน์ไม่ได้
ขอไม่เอ่ยแล้วกันว่ารายการอะไร ปกติไม่ค่อยดูรายการนี้หรอก แต่เมื่อคืนบังเอิญเปิดไปเจอเข้าพอดี

ไม่บอกชื่อรายการ แต่จะแปะคลิปให้ดูกันชัด ๆ เลยค่ะ


http://video.mthai.com/player.php?id=0M1252051105M0&utm_source=embed_flash&utm_medium=image&utm_campaign=video_embed
(คลิปเรื่องจริงผ่านจอ ต้องดูนะอย่างฮา!!!!!!!!!)



เขาพูดถึงเรื่อง... นางตะเคียน (ขนลุก) ซึ่งกล่าวว่ามีชาวบ้านพบเห็นและได้ถ่ายรูปไว้ได้
ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นนางตะเคียน จึงนำรูปนั้นไปกราบไหว้บูชา

ไม่ได้อยากจะลบหลู่ความเชื่อหรอกนะคะ หากรูปที่เราได้เห็นในจอทีวีนั้น กลับทำเอาอึ้งไปชั่วขณะ
รู้สึกขนลุกเสียยิ่งกว่าเจอนางตะเคียนตัวจริงอีกค่ะ ก็ที่เราเห็นนั้นมัน คิมแจจุง ณ ดงบังชินกิ !
และชาวบ้านก็ได้นำเอารูปไปใส่กรอบ กราบไว้บูชา ทำจี้ห้อยคอ (เฮ้ออ)

มันเป็นอารมณ์ที่ทั้งขำและสงสารเจ้าตัวเขาอย่างบอกไม่ถูก
จะโทษชาวบ้านเขาก็ไม่ได้ เพราะก็คงจะไม่รู้จัก ดงบังชินกิ อยากเอารูปจริงไปอัดกรอบใหญ่ ๆ แล้วเอาไปให้ดูชัด ๆ เสียจริง และคลิปวีดีโอด้วย คงตะลึงมิใช่น้อย นางตะเคียนเต้นเพลง "O" Jeong. Ban. Hap.

รูปซ้ายมือคือรูปแจจุงค่ะ และทางขวาเป็นรูปที่ถูกอ้างว่าเ็ป็นนางตะเคียน ถ่ายด้วยมือถือ i-mobile
ย้ำนะคะ เขาอ้างว่ารูปนี้เป็น หญิงสาว (?)



เหมือนกันราวกับฝาแฝด หรือแจจุงจะมีแฝดเป็นนางตะเคียน ?


รูปต้นฉบับค่ะ รูปแจจุงจากรายการ Golden fish

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1433007#ixzz1JxzvCWz6



อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1433007#ixzz1JxzTRZAO


คนไทยนับถือเกาหลีกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่วัยรุ่นลุงป้าน้าอาด้วย 55


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 18:18:11
best10210

zaza008
#8
19-04-2011 - 18:23:03

#8 zaza008  [ 19-04-2011 - 18:23:03 ]




quote : vchukkrit

อันนี้เป็นของภาพแรก

ภาพน้ำท่อส้วม


จากเว็บนี่มีภาพเพียบเลย http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=2189010


เห้ย นั่นห้องน้ำหมา มากกว่า อยากจะ


best10210
#9
19-04-2011 - 18:25:16

#9 best10210  [ 19-04-2011 - 18:25:16 ]




quote : ka3z

มีข่าวนึงไม่รู้รู้เปล่า
เดี๋ยวเอามาให้ดู อย่างฮา!!!

ความบกพร่องของสื่อไทย

ขอสงบนิ่งยืนไว้อาลัยให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวของกับเรื่องนี้ทุกท่านเป็นเวลา 1 นาที

เมื่อคืนมีโอกาสได้ดูรายการรายการหนึ่งทางช่อง 7 ที่ว่าเกี่ยวกับเรื่องเล้นลับที่พิสูจน์ไม่ได้
ขอไม่เอ่ยแล้วกันว่ารายการอะไร ปกติไม่ค่อยดูรายการนี้หรอก แต่เมื่อคืนบังเอิญเปิดไปเจอเข้าพอดี

ไม่บอกชื่อรายการ แต่จะแปะคลิปให้ดูกันชัด ๆ เลยค่ะ


http://video.mthai.com/player.php?id=0M1252051105M0&utm_source=embed_flash&utm_medium=image&utm_campaign=video_embed
(คลิปเรื่องจริงผ่านจอ ต้องดูนะอย่างฮา!!!!!!!!!)



เขาพูดถึงเรื่อง... นางตะเคียน (ขนลุก) ซึ่งกล่าวว่ามีชาวบ้านพบเห็นและได้ถ่ายรูปไว้ได้
ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นนางตะเคียน จึงนำรูปนั้นไปกราบไหว้บูชา

ไม่ได้อยากจะลบหลู่ความเชื่อหรอกนะคะ หากรูปที่เราได้เห็นในจอทีวีนั้น กลับทำเอาอึ้งไปชั่วขณะ
รู้สึกขนลุกเสียยิ่งกว่าเจอนางตะเคียนตัวจริงอีกค่ะ ก็ที่เราเห็นนั้นมัน คิมแจจุง ณ ดงบังชินกิ !
และชาวบ้านก็ได้นำเอารูปไปใส่กรอบ กราบไว้บูชา ทำจี้ห้อยคอ (เฮ้ออ)

มันเป็นอารมณ์ที่ทั้งขำและสงสารเจ้าตัวเขาอย่างบอกไม่ถูก
จะโทษชาวบ้านเขาก็ไม่ได้ เพราะก็คงจะไม่รู้จัก ดงบังชินกิ อยากเอารูปจริงไปอัดกรอบใหญ่ ๆ แล้วเอาไปให้ดูชัด ๆ เสียจริง และคลิปวีดีโอด้วย คงตะลึงมิใช่น้อย นางตะเคียนเต้นเพลง "O" Jeong. Ban. Hap.

รูปซ้ายมือคือรูปแจจุงค่ะ และทางขวาเป็นรูปที่ถูกอ้างว่าเ็ป็นนางตะเคียน ถ่ายด้วยมือถือ i-mobile
ย้ำนะคะ เขาอ้างว่ารูปนี้เป็น หญิงสาว (?)



เหมือนกันราวกับฝาแฝด หรือแจจุงจะมีแฝดเป็นนางตะเคียน ?


รูปต้นฉบับค่ะ รูปแจจุงจากรายการ Golden fish

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1433007#ixzz1JxzvCWz6



อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1433007#ixzz1JxzTRZAO


คนไทยนับถือเกาหลีกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่วัยรุ่นลุงป้าน้าอาด้วย 55


จริงด้วย



ฮ่าๆๆๆ (ขำไรวะ?)
best10210
#10
19-04-2011 - 18:26:14

#10 best10210  [ 19-04-2011 - 18:26:14 ]




แต่ถ้ามีจริงก็ไม่รลบหลู่นะครับ



ฮ่าๆๆๆ (ขำไรวะ?)
vchukkrit
#11
19-04-2011 - 18:27:55

#11 vchukkrit  [ 19-04-2011 - 18:27:55 ]








ก็ต้องดูเหตุผลให้แน่ก่อนจะเชื่อ บางอย่างมันอาจไม่จริง



Winsohm_98
#12
19-04-2011 - 18:29:05

#12 Winsohm_98  [ 19-04-2011 - 18:29:05 ]





ท่อน้ำส่วม ดื่มไปได้ไงน่ะ



ผมกลับมาแล้ว... ว่าแต่ มันเล่นยังไงนะครับ ลืม 55
Partcha
#13
19-04-2011 - 18:31:37

#13 Partcha  [ 19-04-2011 - 18:31:37 ]






น้ำท่อส้วม55555+ แต่เจลลดไข้เหมือนกระดึ๊บใช่ป่ะ


vchukkrit
#14
19-04-2011 - 18:34:02

#14 vchukkrit  [ 19-04-2011 - 18:34:02 ]








พูดถึงเรื่องกระดึบแล้ว เคยมีหนังเรื่องกระดืบด้วยนี่ ฮาดี



kulathida-love
#15
19-04-2011 - 18:42:24

#15 kulathida-love  [ 19-04-2011 - 18:42:24 ]






คนเรานะคนเรา
งมงายไม่เข้าเรื่อง


ณัฐณิชา
#16
ณัฐณิชา
19-04-2011 - 18:43:06

#16 ณัฐณิชา  [ 19-04-2011 - 18:43:06 ]




*0*กระดึ๊บน้อยคิดว่าเป็นแค่หนังสะอีก^_^
 658669


panglove
#17
19-04-2011 - 18:49:33

#17 panglove  [ 19-04-2011 - 18:49:33 ]





555 55 ท่อน้ำส้วม


milkway
#18
19-04-2011 - 18:50:05

#18 milkway  [ 19-04-2011 - 18:50:05 ]




โอ้มายก๊อด
แต่ละเรื่องนี่

ชาวบ้านนี่งมงายจริงๆ

ทำไมไม่หัดคิดถึงสภาพความเป็นจริงบ้าง

แต่โอ้ไม่นะ
แจจุงกลายเป็นเจ้าแม่ตะเคียนไปแล้ว
ชอบแผ่นเจลลดไข้
น่าร้ากกก > <


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 18:51:56

aoeyzz
#19
19-04-2011 - 18:50:28

#19 aoeyzz  [ 19-04-2011 - 18:50:28 ]







คุณพระ น้ำท่อส้วม

แอบงงข่าวเจ้าแม่ตะเคียน เค้าบอกว่าถ่ายต้นไม้แล้วติดมา
แล้วทำไมถึงติดเป็นภาพแจจุงล่ะ = =a
แล้วตอนนี้เค้ารู้กันแล้วใช่มั้ยคะ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 19:02:15

นาe Lชิ่มLบอะ
#20
นาe Lชิ่มLบอะ
19-04-2011 - 19:26:33

#20 นาe Lชิ่มLบอะ  [ 19-04-2011 - 19:26:33 ]




คนไทยนี่ช่าง....


  • 1
  • 2

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 15th June 2024 02:34

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ