ความรัก .......

บ่อยครั้ง เมื่อเราได้ยินคำว่า รัก อาจให้ภาพเกี่ยวกับอารมณ์ หรือ ความสัมพันธ์ที่เรามีกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เช่น พ่อแม่ เพื่อน เด็ก ความรักมีความหมายมากกว่าอารมณ์ ความรักแท้มุ่งหาผู้อื่นมากกว่าสิ่งที่ได้รับตอบแทน สุดยอดของความรักเป็นสภาพที่พระเจ้าทำงานได้อาศัยเราเป็นช่องทางแห่งพระพร
จุดประสงค์ชีวิต คือการยอมให้ความรักของพระเจ้าเผยแสดงในโลกอาศัยเรา ดังนั้น ความรักคือการบริการที่ยิ่งใหญ่ ที่เราสามารถมอบให้ผู้อื่น ความรักเป็นพื้นฐานสำหรับเราทุกคน ที่ควรจะเป็น เช่น รอยยิ้มของเด็กทารก ในดอกกุหลาบ ในมิตรภาพ ในบทเพลง ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิได้คิดถึงตนเอง ในสุนทรพจน์ที่ให้กำลังใจ ในการให้น้ำถ้วยหนึ่งแก่คนที่กระหาย
ความรักเป็นสภาพความเป็นอยู่ ตระหนักว่าเป็นช่องทางแห่งพระพร
บทบัญญัติเอก
“ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาของท่าน นี่คือบทบัญญัติเอกและเป็นบทบัญญัติแรก บทบัญญัติประการที่สองก็เช่นกัน คือ ท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” (มัทธิว 22 : 37-39)
เมื่อเรารักพระเจ้ามากกว่ารักตนเอง ในวันนี้ ชั่วโมงนี้ เราจะทำ จะบริการ โดยมิเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว จะทำให้ดีที่สุด โดยไม่คิดหวังผลหลับคืน
ความรักคือการให้
ความรักที่ไม่คิดถึงตนเองจะปราศจากข้อจำกัด และผ่านเราไปสู่ผู้อื่น เป็นกระบวนการชีวิตช่วยให้เติบโต ให้บริการและรักกันและกัน เหมือนดังที่พระผู้สร้างทรงรักเรา พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก จึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนจะมีชีวิตนิรันดร
การเผยแสดงความรัก
บัญญัติเอกเตือนใจเราให้รักพระเจ้าสุดจิตใจ สุดวิญญาณและสุดสติปัญญา เราจะประยุกต์ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ก็โดยการอธิษฐานภาวนา การไตร่ตรองรำพึง และการประยุกต์ ความจริงการอธิษฐานภาวนาและการไตร่ตรองรำพึง เป็นอุปกรณ์ช่วยเราให้รู้วิธีรัก ช่วยเราให้เข้าใจความรักแท้ของพระเจ้า ที่เผยแสดงในพระเยซูคริสตเจ้า
“เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย ให้ท่านรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (ยอห์น 13 : 34)
ตัวอย่างหนึ่ง คือ ฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจ ให้เวลาฟังคนอื่น อย่าพยายามตอบ ใช้หูฟังว่าเขาต้องการอะไร พยายามเป็นช่องทางแห่งความรักต่อคนอื่น
สรุป ความรักของพระเจ้าไม่มีขอบเขต ดังเช่นดวงอาทิตย์ทอแสง และให้ความอบอุ่นแก่ทุกคนและทุกสิ่ง โดยปราศจากการตัดสิน หรือเงื่อนไขใดๆ พระเจ้าทรงรักทุกคนเท่าเทียมกัน พระองค์ทรงรักทั้งคนดีและคนชั่ว ทั้งศรัทธาชน และผู้ละทิ้งความเชื่อ ทั้งผู้ที่เรารักและไม่ชอบ ความรักของพระเจ้าพร้อมเสมอทุกสถานการณ์ การรักพระเจ้าสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญา และการรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง จึงเป็นกฎของพระเจ้า เป็นจุดประสงค์ของเราในโลกนี้
เราเป็นผู้ร่วมงานกับพระเจ้า ให้เราเผยแสดงความรักที่พระผู้สร้างมีต่อเรา แต่ละวันให้ปฏิบัติสิ่งที่พระองค์ทรงพระประสงค์ กลายเป็นช่องทางแห่งพระพรสำหรับผู้อื่น เพื่อสมจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า
“ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง... ขณะนี้ยังมีความเชื่อ ความหวัง และความรักอยู่ทั้งสามประการ แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมด คือ ความรัก” (1 โครินธ์ 13 : 4-7, 13)
Credit:Click here