โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
สัตว์ทะเล ที่เป็น อันตรายที่พบในน่านน้ำไทย
ponza114
#1
21-01-2011 - 19:20:17

#1 ponza114  [ 21-01-2011 - 19:20:17 ]




กุ้งมังกร (Lobster)
กุ้งมังกรหรือกุ้งหัวโขนหรือกุ้งหนามเป็นกุ้งทะเลขนาดใหญ่ มักพบอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง เปลือกที่คลุมหัวและอกมีลักษณะแข็งและมีหนามกระจัดกระจายทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณฐานหนวด มีหนามยาวและแข็งหากจับกุ้งชนิดนี้โดยไม่ระมัดระวัง ก็อาจถูกหนามแทงจนเกิดบาดแผลได้
 466789


ponza114
#2
21-01-2011 - 19:20:58

#2 ponza114  [ 21-01-2011 - 19:20:58 ]




ปู (Crabs)
ปูเป็นครัสเตเซียนที่วิวัฒนาการจากกุ้ง โดยมีส่วนท้องลดขนาดลงและพับอยู่ใต้อกปูมีขาเดิน 5 คู่ คู่แรกเปลี่ยนแปลงไปเป็นก้านหนีบใช้ในการจับเหยื่อและป้องกันตัว ปูส่วนใหญ่มีก้ามแข็งแรง สามารถใช้หนีบศัตรูให้บาดเจ็บได้ โดยเฉพาะปูทะเล ปูม้า และปูใบ้ขนาดใหญ่ การจับปูเหล่านี้จึงต้องระมัดระวังโดยเฉพาะปูที่ยังมีชีวิตและถูกแก้มัดออกแล้ว ตลอดจนปูใบ้ที่มีเปลือกแข็งแรง ก้ามแข็งแรงมาก เมื่อหนีบแล้วจะไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม อันตรายจากปูหนีบนั้นยังไม่ร้ายแรงเท่ากับการรับประทานปูมีพิษ เช่นเดียวกับแมงดาไฟ ซึ่งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ตัวอย่างปูมีพิษได้แก่ ปูใบ้แดง (Artergatis intergerrinus) ปูใบ้ลาย (Lophozozymus pictor) เป็นต้น
 466790


ponza114
#3
21-01-2011 - 19:21:35

#3 ponza114  [ 21-01-2011 - 19:21:35 ]




ดาวหนาม (Clown-of-thorn Sea Star)
ดาวหนามหรือดาวมงกุฎหนามเป็นดาวทะเลชนิดหนึ่งที่มีแขนงจำนวนมาก ตามผิวลำตัวมีหนามยาวประมาณ 1 นิ้ว อาศัยอยู่ตามแนวปะการังโดยกินโพลิปปะการังเป็นอาหาร นอกจากผลกระทบต่อระบบนิเวศในแนวปะการังแล้วดาวหนามยังเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวและชาวประมงที่ดำน้ำอยู่บริเวณปะการังด้วย เพราะหากเหยียบลงไปบนตัวดาวหนามแล้วจะทำให้เกิดบาดแผลได้รับความเจ็บปวด
 466792


ponza114
#4
21-01-2011 - 19:21:56

#4 ponza114  [ 21-01-2011 - 19:21:56 ]




แมงดาทะเล (Horse-shoe Crab)
แมงดาทะเลเป็นสัตว์ทะเลโบราณที่ยังคงเหลืออยู่ในโลกปัจจุบันเพียง 4 ชนิด และมีอยู่ 2 ชนิดที่พบในทะเลไทย คือ แมงดาจานหรือแมงดาหางเหลี่ยม (Tachypleus gigas) และแมงดาถ้วยหรือแมงดาหางกลม (Carcinoscorpiu srotundicauda) ทั้งสองชนิดมีความเป็นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยแมงดาจานอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย ส่วนแมงดาถ้วยอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและลำคลองในป่าชายเลน เท่าที่มีรายงานในประเทศไทย เฉพาะแมงดาหางกลมเท่านั้นที่อาจเป็นพิษ และเรียกชื่อแมงดาที่เป็นพิษนี้ว่า แมงดาไฟหรือเหรา (อ่านว่า เห-รา) จนบางครั้งทำให้เข้าใจสับสนว่า เหรา เป็นแมงดาชนิดที่สามจากคำบอกเล่ามักอธิบายถึงลักษณะของเหราว่าตามลำตัวมีขนยาวที่นักอนุกรมวิธานได้ศึกษาแน่ชัดแล้วว่า แมงดาไฟ หรือ เหรา ก็คือแมงดาหางกลมบางตัวนั่นเอง แต่การเป็นพิษนั้นจะเกิดเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม เหตุที่แมงดาถ้วยมีพิษเป็นบางช่วงนี้ สันนิษฐานได้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวอาจมีการเจริญแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วจนเกิดการสะพรั่งของแพลงค์ตอนบางชนิดในกลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต เช่น (Gonyoulax catenella) ที่สร้างสารพิษแล้วแพลงค์ตอนชนิดดังกล่าวถูกกินโดยหอยหรือหนอนซึ่งเป็นสัตว์หน้าดิน เมื่อพิษเข้ามาสะสมในหอยหรือหนอนแล้วถูกกินโดยแมงดาทะเล พิษจึงสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดาถ้วย เมื่อคนรับประทานแมงดาถ้วยตัวที่มีสารพิษสะสมอยู่ จึงทำให้เกิดเป็นพิษขึ้นมาได้ แม้ว่าไข่หรือเนื้อที่รับประทานจะได้ปรุงให้สุกแล้วก็ตาม และหากเหยียบย้ำโดนหางของแมงดาทะเลจะทำให้ได้รับบาดเจ็บจาก
 466794


ponza114
#5
21-01-2011 - 19:22:22

#5 ponza114  [ 21-01-2011 - 19:22:22 ]




เม่นทะเล (Sea Urchin)
เม่นทะเลเป็นสัตว์มีหนวดตามผิวลำตัวเช่นเดียวกับดาวทะเล แต่เม่นทะเลมีหนามยาวจำนวนมาก ชนิดที่พบค่อนข้างชุกชุมในแนวปะการังของชายฝั่งทะเลไทยคือเม่นดำหนามยาว (Diadema setosum) มีหนามขนาดยาวอยู่รอบตัว การท่องเที่ยวเดินใต้ทะเลในบริเวณที่มีเม่นทะเล คลื่นอาจซัดให้โยนตัวไปเหยียบย่ำเม่นทะเลได้ หนามของเม่นทะเลมักหักเปราะฝังอยู่ในผิวหนัง ซึ่งไม่สามารถบ่งออกได้อย่างหนามเล็กๆหรือหนามจากพืช การแก้ไขเมื่อถูกหนามเม่นตำคือการทุบอย่างเบาๆ เพื่อให้หนามเม่นแตกเป็นชิ้นขนาดเล็ก ร่างกายจะสร้างสารออกมาย่อยสลายหนามของเม่นได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เม่นทะเลบางชนิดมีต่อมน้ำพิษเมื่อถูกหนามเม่นตำแล้ว น้ำพิษยังอาจเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง เจ็บปวดและเป็นไข้ได้ นอกจากหนามที่แหลมคมแล้ว เม่นยังมีโครงสร้างพิเศษที่เรียกว่า เพดดิเซลลาเรีย (pedicellariae) กระจัดกระจายแทรกอยู่ระหว่างหนาม ตรงปลายมักมี 3 แฉกคล้ายคีม ซึ่งทำหน้าที่เก็บเศษอินทรีย์และจุลินทรีย์ออกจากผิวลำตัวในหนามเม่นบางชนิดเพดดิเซลลาเรียมีต่อมน้ำพิษอยู่ด้วย อันตรายจากเม่นทะเลจึงไม่มีเฉพาะหนามเพียงอย่างเดียว
 466797


ponza114
#6
21-01-2011 - 19:23:20

#6 ponza114  [ 21-01-2011 - 19:23:20 ]




พวกที่กัดได้ (Snapper) ได้แก่ งูทะเล(Sea snake) ปลาไหลมอเล่ย์ (Moray eel) ปลาฉลาม (Sharks) ปลาหมึกยักษ์ที่เรียกว่า Blue-ringe Octopus) เป็นต้น ซึ่งพิษมีผลต่อระบบประสาทอยู่ในต่อมน้ำลายทำให้ผู้ที่ถูกกัดมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ช็อค และอาจทำให้เสียชีวิตได้ เพื่อให้เข้าใจและตระหนักถึงอันตรายที่อาจได้รับจากสัตว์ทะเล ตัวอย่างสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ พร้อมอธิบายถึงอันตรายที่จะได้รับ ดังนี้


งูทะเล (Sea Snakes)
งูทะเลมีลักษณะแตกต่างจากงูบกคือลำตัวส่วนท้ายแบนทางด้านข้างจนถึงปลายหางมีลักษณะคล้ายใบพาย เพื่อใช้สำหรับว่ายน้ำ งูทะเลทุกชนิดมีพิษอยู่ที่เขี้ยวในปาก บางชนิดว่ายน้ำเหมืออย่างปลา และบางชนิดอาจขึ้นมาวางไข่บนชายฝั่งเช่นเดียวกับเต่าทะเล พิษของงูทะเลมีอันตรายร้ายแรงมาก แม้จะถูกนำขึ้นมาบนบกแล้วก็ไม่ควรใช้มือจับ การเดินไปตามแนวปะการังควรใส่รองเท้ายางหุ้มข้อ รวมทั้งงูที่ตายแล้วก็ต้องระมัดระวังพิษจากเขี้ยวที่ยังสามารถออกฤทธิ์ได้ น้ำพิษจากงูทะเลมีผลโดยตรงต่อระบบกล้ามเนื้อ ปัสสาวะของผู้ป่วยจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ภายในเวลา 3-5 ชั่วโมง เนื่องจากเม็ดสีถูกปล่อยออกมาจากเซลล์กล้ามเนื้อที่ถูกทำลาย ระบบหายใจขัด หรือการทำงานของหัวใจล้มเหลว ( งูทะเล มีมากมายหลายชนิดครับ น่ะคับพี่น้อง )
 466798


ponza114
#7
21-01-2011 - 19:23:53

#7 ponza114  [ 21-01-2011 - 19:23:53 ]




ปลาไหลมอเล่ย์ (Morey Eel)
ปลาทะเลในแนวปะการังหลายชนิดเป็นสัตว์กินเนื้อ และมีฟันแหลมคม โดยเฉพาะปลาไหลมอเล่ย์ซึ่งซ่อนตัวอยู่ตามโพรงหินปะการังและโผล่หัวออกมาเฝ้าระวังเหยื่อหรือศัตรู หากนักท่องเที่ยวว่ายน้ำผ่านบริเวณที่ปลาอาศัยอยู่ ปลาก็อาจพุ่งตัวออกมาฉกกัดคล้ายงูได้ แม้ว่าปลาไหลมอเล่ย์จะไม่มีเขี้ยวพิษอย่างงูทะเล แต่เมือกในปากของปลาก็มีพิษอ่อนๆ
 466799


ponza114
#8
21-01-2011 - 19:24:16

#8 ponza114  [ 21-01-2011 - 19:24:16 ]




ฉลาม (Sharks)
ปลาฉลามเป็นปลาที่คนโดยทั่วไปเข้าใจว่าเป็นสัตว์ดุร้าย หรือเป็นปลากินคน ความจริงแล้วปลาฉลามเป็นสัตว์กินเนื้อพวกหนึ่ง ซึ่งมีฟันแหลมคมไว้ล่าเหยื่อเป็นอาหารแต่ก็มีบ่อยครั้งที่ปลาฉลามขนาดใหญ่อาจเข้าจู่โจมกัดนักประดาน้ำหรือผู้คนที่เล่นน้ำอยู่ตามชายหาดซึ่งเป็นโดยธรรมชาติของปลา การหลีกเลี่ยงอันตรายจากการถูกปลาฉลามกัดจึงควรป้องกันไว้ก่อน เช่น ไม่ว่ายน้ำแยกตามลำพัง หรือทำให้ฉลามได้รับความตื้นตกใจ เช่น กลุ่มของฉลามหูดำ ซึ่งพบได้ทั่วไปในน่านน้ำไทย
 466801


cherryjung
#9
21-01-2011 - 19:28:18

#9 cherryjung  [ 21-01-2011 - 19:28:18 ]





น่กลัวทั้งนั้นเลย

ปล.ปากปลาฉลามหน้ากลัวจังเลย



TOMORROW X TOGETHER
tongeye0002
#10
21-01-2011 - 19:33:59

#10 tongeye0002  [ 21-01-2011 - 19:33:59 ]






เม่นทะเล
กับฉลามน่ากลัวงะครับ


Pom_
#11
21-01-2011 - 20:17:19

#11 Pom_  [ 21-01-2011 - 20:17:19 ]







กุ้งมังกรน่าจับมากินจริงๆ
ฉลามตัวใหญ่จังเลย


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-01-21 20:18:05

  • 1

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 19th April 2025 05:12

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ