โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
คอมพิวเตอร์อย่าเผลอวาง “หน้าตัก” เล่นไม่พักอาจ “ขาไหม้” ไป... “เป็นหมัน”
meenoil
#1
21-01-2011 - 18:24:07

#1 meenoil  [ 21-01-2011 - 18:24:07 ]







นักเลงที่ชอบเสี่ยงโชค สิงห์ชอบลุ้นทั้งหลายอาจเคยมีความรู้สึกฮึกเหิมประเภท “ขอวางหมดหน้าตัก” ไม่อยากพักเล่นเพราะมือกำลังขึ้น หรืออีกอย่างก็คือ “เลือดเข้าตา” แล้วจริงๆ

ดูไปก็คล้ายกับนักเล่นคอมพิวเตอร์ เพราะเผลอเมื่อไรก็อยู่ในโลกส่วนตัวเล่นเสียจนไม่เป็นอันกินอันนอน พ่อแม่ต้องมาคอยเคาะประตูเสิร์ฟข้าวน้ำทำเหมือนถูกขังเดี่ยว มีผู้คุมมาคอยผ่านดูอยู่เป็นระยะว่ายังมีลมหายใจอยู่ก็เป็นอันใช้ได้

สิงห์คอมพิวเตอร์จะมีอาการติดคอมฯได้จนถึงขั้นไม่ลุกเข้าห้องน้ำทีเดียว

อาการ “ติดเล่น” เช่นนี้มีอยู่มาก ระบาดไปทั่วโลกจนฝรั่งตั้งฉายาให้ว่า “เสพติดคอมพิวเตอร์ (Computer addiction)” จัดเป็นหนึ่งในอาการทางจิตประเภทย้ำคิดย้ำทำ (OCD) ได้ ที่รวมถึงคนติดอินเทอร์เน็ต โซเชียลเน็ตเวิร์ก สังคมออนไลน์หรือเกมคอมพิวเตอร์ด้วย

เมื่อติดจอติดแป้นพิมพ์จิ้มทั้งวัน เช่นนี้ก็ย่อมมีข้อเสียเกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพค่ะ สำหรับโรคจากคอมพิวเตอร์นั้นแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก หนึ่งคือ “โรคติดใจ” ที่ทำให้เกิดอาการหลงผิดคิดว่าโลกเสมือนจริงมีอยู่จริง วันหนึ่งอาจวิ่งไปฆ่าตัวตายหรือไปฆ่าคนอื่นได้อย่างในเกม หมกมุ่นมากเสียจนไม่ทำการบ้านการงานสำคัญ ตื่นเช้ามาไม่อยากไปเรียน ไม่อยากไปทำงาน

อยากอยู่แต่กับหน้าจอ!

ขอให้ได้เข้าเน็ต ไปเมนท์กระทู้กับชาวบ้านหรือต่อเกมสักนิดก็สุขแล้ว ทุเลาอาการลงแดงได้คล้ายกับคนติดเหล้าติดยาอยู่ไม่น้อยต้องค่อยๆ เลิกกันไปค่ะและสำหรับโรคร้ายที่มากับการใช้คอมฯแบบสุดโต่งประการสองก็คือ “โรคกาย” มีได้ตั้งแต่ สายตาเสีย (Computer vision syndrome, CVS) ปวดนิ้ว นิ้วล็อก ปวดข้อ ปวดหัวจนแทบน้ำตาร่วง และล่าสุดมีโรคร้ายสำคัญ ที่หมอฝรั่งจากทางสวิตเซอร์แลนด์เขาได้เจอกันก็คือ “โรคตักไหม้” จากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องพกพาที่เราเรียก โน้ตบุ๊ก (Notebook) หรือ แล็ปท็อป (Laptop) นั่นแหละค่ะ

สำหรับคำหลังนี้เองที่เป็นที่มาของโรค เพราะมันแปลว่า “ตั้งบนตัก” เพื่อให้ผู้ใช้สะดวกคล่องตัวขึ้น นั่งอยู่ที่ไหนก็ใช้ได้ ก็เลยผลิ
ตให้เล็ก บางและไม่หนักจนเกินไป บางรุ่นเบากว่านิตยสารบางเล่มเสียอีก แต่ข้างในนั้นเปี่ยมด้วยคุณประโยชน์ครบครันไม่ต่างกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop) เครื่องโตเลยทีเดียว

ตอนนี้มาดูโรคพิสดารที่เกิดจากการ “ตั้งตัก” กันดีกว่าค่ะ



โรคพิสดาร ระรานหน้าตัก

บริเวณหน้าตักของเรานั้นมีชิ้นเนื้อ ที่แสนจะบอบบางอยู่หลายส่วนที่มีโอกาสถูกกวนจากคอมพิวเตอร์แบบตั้งตักได้ ซึ่งถ้าจะเรียงตั้งแต่พังยากไปจนถึงพังง่ายก็ได้ดังนี้ค่ะ

1. กระดูกต้นขา อันนี้พังยากสุดเพราะทั้งแข็งและอยู่ลึก แต่ก็ไม่แน่นักเพราะถ้ารักจิ้มคอมฯมากไปแบบไม่ลุกเลยก็กระดูกผุกระดูกพรุนวุ่นลึกได้เหมือนกันเพราะกระดูกต้นขาของผู้ใหญ่นี้เป็นที่รับน้ำหนักหลักเปรียบเสมือนเสาเข็มหลัก ถ้าหักไปแล้วยากที่จะสมานและการที่จะลุกขึ้นอีกครั้งหลังจากกระดูกเสาเข็มหักนี้เป็นเรื่องยากมากค่ะ สำหรับผู้อาวุโสแล้วจึงไม่อยากให้กระดูกหักเลยเพราะจะกลายเป็นต้องนอนเฉยอยู่อย่างนั้น

2. หลอดเลือด แถวหน้าตักมีหลอดเลือดสำคัญที่มาเลี้ยงกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก มดลูกและอวัยวะน้อยใหญ่แถวๆท้องน้อย รวมถึงขาทั้ง 2 ข้างเองด้วย ถ้าหลอดเลือดตรงบริเวณนี้อุดตันไปอาจทำให้ถึงต้องตัดขาหรือว่าอวัยวะอุ้งเชิงกรานพัง และถ้านั่งนานเต็มที่ก็มีสิทธิ์เกิดลิ่มเลือดก้อนใหญ่วิ่งตุหรัดตุเหร่ขึ้นไปอุดหัวใจกับสมองได้

3. อวัยวะอุ้งเชิงกราน เป็นส่วนที่บอบบางมาก ทนต่อความร้อนได้ไม่ดี อวัยวะ ส่วนนี้ได้แก่รังไข่ มดลูก ต่อมลูกหมากและใต้อุ้งเชิงกรานไปถึงอัณฑะในผู้ชาย เนื้อเยื่ออ่อนนุ่มเหล่านี้ทำหน้าที่สร้าง “เชื้อพ่อ” และ “เชื้อแม่” ที่ใช้สืบเผ่าพันธุ์ ถ้ามันถูกซุกไว้ในที่อับแถมยังได้รับรังสีร้อนจากคอมพิวเตอร์หน้าตักอีกก็มีสิทธิ์ที่จะเสื่อมและฝ่อลง ประชากรเชื้ออสุจิลดลงดังมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กยืนยันตรงกันมา ถ้าอยากรู้ละเอียดขึ้นก็ขอบอกว่าอวัยวะที่มีปัญหามักจะเป็นซีกซ้ายมากกว่าขวาเพราะ “อนาโตมี่” ของคอมพิวเตอร์นั้นมักออกแบบให้มี “แบตเตอรี่ (ตัวทำร้อน)” อยู่ด้านซ้ายของเครื่องค่ะ

4. กล้ามเนื้อ หน้าขามีกล้ามเนื้อลายเป็นมัดอยู่มาก ลองนึกภาพเนื้อสเต๊กเป็นปั้นใหญ่ที่เคยกิน ส่วนใหญ่เนื้อก้อนขนาดนั้นมักหั่นมาจากเนื้อหลังบ้างหรือเนื้อต้นขาเพราะว่ามีกล้ามรวมเป็นมัดอัดกันสวย ช่วยให้เวลาตัดมาแล้วเนื้อเรียงกันอยู่เป็นชิ้น-เป็นอัน แต่สำหรับการมีกล้ามเนื้อมากนั้น ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ต้องมี “เลือด” มาเลี้ยงมาก หากนั่งเกร็งเล่นคอมพิวเตอร์บนหน้าตักอยู่นานก็จะพาลให้กล้ามเนื้อฝ่อไปแถมใยกล้ามเนื้อยังอาจ “สุก” ได้จากความร้อนที่ย้อนผ่านเข้ามัดกล้ามอีก ปลายประสาทที่อยู่ตามกล้ามก็จะตายแล้วตายเลย เกิดอาการชาที่หน้าขาได้ ยิ่งในท่านที่ใส่กางเกงทรงเดฟรัดๆ แล้วยังหัดเล่นคอมฯแบบตั้งตักอีกยิ่งมีโอกาสป่วยสูงค่ะ

5. ผิวหนัง นี่เลยคือ “ด่านหน้า” ที่จะรับ “พิษจากคอมพิวเตอร์” เพราะเผลอหน่อยเดียวก็จะไหม้ได้เกรียมเหมือนกับ หมูแผ่น เป็นรอยด่างไหม้ให้ลายพร้อยกลางเป็นเทรนด์ผิวแบบธรรมชาติ แต่เป็นประเภทนิยมไพรชวนให้คิดถึงนางแมวป่าหรือเสือปลาไปได้ ถ้าไม่มากแค่เบาะๆ ก็เป็นรอยแดงพองามค่ะ สำหรับคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายหรือแห้งง่ายอยู่แล้วจะยิ่งเสี่ยงกว่าคนทั่วไปได้ผิวเทรนด์เกาหลีมีด่างจังแกเป็นอาทิ

ฟังดูน่ากลัวแต่ที่จริงวิธีแก้ก็แค่หาเบาะรองบนหน้าตัก (Lap cushion) หรือท่องคาถาศักดิ์สิทธิ์คือ “ย้ายที่(คอมพิวเตอร์)” กับ “หักใจ” ให้เล่นเป็นเวลา วันละกี่ชั่วโมง ก็ว่าไป ขออย่าได้ยึดคอมพิวเตอร์ไว้เป็นสรณะแห่งชีวิต เครื่องนิดๆ แต่กลับตรึงคนให้นั่งจ้องคุยอยู่กับมันได้เป็นนาน ขนาดการงานก็วางไว้ก่อนได้หรือให้แฟนกับลูกเต้าเฝ้ารอปากแห้งกันไป

ฤทธิ์ของมันได้ถึงขนาดนั้น



วิธีแก้ที่ดีอีกประการหนึ่งก็คือให้พาตัวออกไปสู่ “โลกจริง” วิ่งเล่นบ้าง ข้างนอกยังมีสิ่งสวยงามให้ท่องเที่ยวดูอีกมาก หากจมอยู่กับโลกเสมือนจริงที่ตั้งนิ่งอยู่บนตักอย่างเดียวก็ดูน่าเสียดายเวลาชีวิตไปไม่น้อย คุณพ่อคุณแม่ก็มีส่วนช่วยลูกได้ ให้มาทำ กับข้าวด้วยกันหรือวันว่างก็ออกกำลังกายตอนเย็นๆ หรือถ้าเป็นพนักงานในบริษัทก็จัด “มุมสงบ” ไว้ให้นั่งพักสบายไร้คอมพิวเตอร์หรือทีวีมากวน จัดสวนน้อยๆ ไว้ให้พักสายตา หาเพลงเบาๆ มาเปิดให้เกิดปีติแล้วก็มีมุมฟิตเนสเล็กๆ ไว้ให้เอ็กเซอร์ไซส์พอหอมปากหอมคอ (เพราะถ้าหนักไปก็อาจทำให้ล้าหรือว่าบางท่านอาจไม่ชอบออกกำลังใกล้เจ้านาย)

ค่อยๆ ช่วยกันไปแล้วจะไม่ยากค่ะ



ผิวพัง ถ้านั่งเล่น(คอมพิวเตอร์)นาน

ที่สวิตเซอร์แลนด์แดนนมเนยก็เคยมีกรณีชี้ว่าคอมพิวเตอร์แบบ “ตั้งตัก” นี้มีฤทธิ์ร้ายขนาดทำให้คนต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว นั่นคือมีเด็กชายรายหนึ่งอายุราว 12 ปีถูกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพาเข้ารับการตรวจใหญ่เหตุเพราะมีรอยไหม้เกิดขึ้นที่หน้าตักเป็นแผลกว้างกินไปถึงขา 2 ข้างและยังทำท่าจะลามไปถึงหัวเข่า

รอยเผานี้เกิดจากคอมพิวเตอร์ตั้งตักค่ะ

...เพราะเมื่อคุยกันไปมากับพ่อหนู จึงได้รู้ว่าแต่ละวันนั้นหนุ่มน้อยรายนี้นั่งหน้าทิ่ม “จิ้ม” แต่คอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกมจนเข้าขั้น “ติด” พอคิดจะไปที่ไหนก็จะหอบคอมพิวเตอร์ส่วนตัวนี้ไปด้วย นั่งแหมะตรงไหนก็กางออกมา “ตั้งตัก” แล้วก็นั่งเล่นอยู่ได้ทีละหลายๆ ชั่วโมงจนตักพัง แต่ก็ยังสู้ทนฝืนเล่นต่อทุกวันไม่มีเบื่อ เมื่อหนักเข้า ก็ทำให้บริเวณหน้าตักซึ่งเป็นที่วางพักคอมพิวเตอร์นั้นทนรับความร้อนไม่ไหวเลยเกิดอาการผิวไหม้รุนแรงขึ้นมาเป็นรอยตารางประหลาดจนหมอฝรั่งที่เขาพบลักษณะนี้ได้ตั้งฉายาว่า “กลุ่มอาการผิวลายขนมปังปิ้ง (Toasted skin syndrome, Erythema AbIgne)”

ฟังน่ากิน แต่จริงๆ แล้วน่ากลัวมากค่ะ

เพราะอุณหภูมิจากคอมพิวเตอร์เครื่องจิ๋วนั้นเวลาร้อนจัดมันสูงได้ถึง 52 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว!

เพื่อให้ท่านที่รักได้เห็นภาพชัดก็ขอเปรียบกับว่าท่านวางกาน้ำชาร้อนไว้บนหน้าตัก เหมือนกับเปิดเครื่องทำน้ำร้อนที่ขีดสุดให้ราดตัวอยู่นานเป็นชั่วโมง!

ผิวจะสุกเกรียมได้กลายๆ เหมือนกับถูกย่างด้วยไฟอ่อนๆ

...เรียกว่าเล่นจริง เจ็บจริงกันหมดหน้าตักไม่รู้ตัว ตอนนี้ฝรั่งเริ่มกลัวกันแล้วเพราะจากการค้นดูในกรณีศึกษา (Case report) ที่มีรายงานจากทั่วโลกก็ปรากฏว่ามีปรากฏการณ์ “โน้ตบุ๊กรังแกฉัน” อยู่ไม่น้อย ที่โดนหนักหน่อยก็มีถูกความร้อนจัดจนตักไหม้ไป 1 ราย (Skin burn advanced degree) และอีก 9 รายนั้นเกิดรอยแดง (Erythema) อย่างน่ากลัว

วิธีแก้ปัญหาโดยการหา “หมอนรองตัก” หรือวางคอมพิวเตอร์บนโต๊ะนั่งเล่นสบายๆ ก็ช่วยได้แล้วค่ะ

เครดิต http://www.koosangkoosom.com/mag_view.php?id=164



roppeep

meenoil
#2
21-01-2011 - 18:33:31

#2 meenoil  [ 21-01-2011 - 18:33:31 ]






ดัน


Luke Gulden
#3
22-01-2011 - 23:16:58

#3 Luke Gulden  [ 22-01-2011 - 23:16:58 ]






น่ากลัว



◎‿‿◎
tongeye0002
#4
22-01-2011 - 23:27:58

#4 tongeye0002  [ 22-01-2011 - 23:27:58 ]






โหว
สุดยอด


babyking
#5
23-01-2011 - 00:01:56

#5 babyking  [ 23-01-2011 - 00:01:56 ]




thank you หลายๆ


Nidnaja
#6
23-01-2011 - 00:07:31

#6 Nidnaja  [ 23-01-2011 - 00:07:31 ]





เคยอ่านเจอในคู่สร้างคู่สมค้า เนื้อ เหมือขนมปังปิ้งเลย

เเถมเรายิ่งเคยว่าไว้ด้วยคิดเเล้วเสียว


อุจิวะ มาดาระ โทบิ
#7
อุจิวะ มาดาระ โทบิ
23-01-2011 - 01:02:26

#7 อุจิวะ มาดาระ โทบิ  [ 23-01-2011 - 01:02:26 ]






ติดงอมแงม



คิดถึงวันเวลาเก่าๆวันแรกที่เข้ามาที่นี่มีความสุขมา...
  • 1

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ