โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
สโมสรบ้าน Resident evil (เร็วๆ นี้จะตั้งเป็นชมรมนะคะ ว่าแต่มันทำยังไง 555)
umaporn
#1
22-05-2010 - 13:53:34

#1 umaporn  [ 22-05-2010 - 13:53:34 ]






บ้านสโมสร Resident evil



"ห้ามเผยแพร๋ป้ายผู้อ่านกระทู้เด็ดขาด หากไม่ได้รับอนุญาต"


ยินดีต้อนรับทุกท่านที่เข้ามานะคะ


สารมารถ มาแชร์ ข้อมูลเกมส์ แลกเปลี่ยนความคืดเห็นได้นี่นะคะ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Content. บทสรุป


1. ผู้ให้กำเนิดเกมส์ดัง RESIDENT EVIL หน้า 7 เรปที่ #128
2. ประวัติ Umbrella Corp. หน้า 6 เรปที่ #113-114
3. แบบทดสอบตนเองแบบ Resident evil หน้า 4 เรปที่ #63
4. RE : 1 (Remake) หน้า 1 เรปที่ #2
5. RE : 0 (Zero) หน้า 1 เรปที่ #3
6. RE : 3 (Nemesis) หน้า 1 เรปที่ #11-12
7. RE : Veronica X หน้า 3 เรปที่ #56
8. RE : 5 หน้า 12 เรปที่ #223
9. RE : The Darkside Chronicles หน้า 12 เรปที่ #238

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


กิจกรรม


กิจกรรมที่ 1 : Reident evil – The Character Challenger.
http://www.thaithesims3.com/topic.php?topic=33187

เปิดรับสมัคร : 1 มี.ค. 54
หมดเขตรับสมัคร : 30 มี.ค. 54
ประกาศผล : 25 เม.ย. 54

รางวัลชนะเลิศ รับดาวไป 15 ดวง
รางวัลรองชนะเลิศ รับไป 10 ดวง
รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 2 รับไป 7 ดวง
รางวัลชมเชย (ผู้ที่ส่งผลงานเข้าร่วมรับไป คนละ 1 ดวง)



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


กระทู้ประมวลภาพจากกิจกรรม RE : The Character Challenger
และผลงานที่เราสร้างเองจ้า


RESIDENT EVIL : THE GALLERY by Sherryz




ไปชมผลงานได้ตามนี้จ้า : http://www.thaithesims3.com/topic.php?topic=35204


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




ข่าวดี!


เรียนสมาชิกสโมสรบ้าน RESIDENT EVIL ทุกท่าน
สมาชิกท่านใดสนใจอยากได้ ID Card ประจำ Club เรา
ให้ส่งข้อมูลดังรูป มาที่เราทาง PM
1. โดยส่งข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษมาให้เรา
2. พร้อมเลือกสังกัด (Rank) ตามต้องการ
3. รูปที่ต้องการติดลงบนบัตร






++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 166872


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-03-30 11:18:57
kimkim2525
ToyTempt
panicha52


คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
umaporn
#2
22-05-2010 - 14:04:47

#2 umaporn  [ 22-05-2010 - 14:04:47 ]






RESIDENT EVIL 1

เกิดคดีฆาตกรรมประหลาดขึ้นที่ป่าแรคคูน ...ซึ่งจากรายงาน สภาพศพมีร่องรอยการถูกกัดกินของอะไรบางอย่าง จากเหตุการณ์นี้ทางกรมตำรวจได้ส่งทีมพิเศษออกไปเพื่อทำการตรวจสอบคือ บราโว่ทีม ซึ่งประกอบด้วย เอนริโก้ มารินี่ หัวหน้าทีม ริชาร์ด ไอเคน, เคนเนท ซุลลิแวน , ฟอเรส สเปย์เยอร์ , รีเบ็คก้า แชมเบอร์ส และ เอด ดีเวย์ ผู้ทำหน้าที่ขับเฮลิคอปเตอร์ ( มีความสับสนเรื่องคนขับเฮลิคอปเตอร์ซึ่ง มีอีกคนชื่อ เควิน....
ในภาค original นั้น เอด เป็นคนขับ ภาค 2.0 เควินจะเป็นคนขับแทน...ตกลงว่าใครไม่รู้ครับ แต่ภาคซีโร่นี่เควินขับ.....คนละเควินกับ outbreak นะ) ไปที่ป่าแรคคูน แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ก็ไม่มีการติดต่อจากบราโว่ทีมกลับมาอีกเลย ดังนั้นจึงมีการส่ง อัลฟ่าทีม มาสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นที่ป่าแห่งนี้
( รายชื่อสมาชิก S.T.A.R.S.)
Richard Aiken ริชาร์ด ไอเคน
Enrico Marini เอนริโก้ มารินี่
Ed Deway เอด ดีเวย์
Kenneth J. Sullivan เคนเนท ซุลลิแวน
Joseph Frost โจเซฟ ฟรอส
Forest Speyer ฟอเรส สเปย์เยอร์
Rebecca Chambers รีเบ็คก้า แชมเบอร์ส
Chris Redfield คริส เรดฟิลด์
Jill Valentine จิล วาเลนไทน์
Barry Burton แบรี่ เบอตั้น
Albert Wesker อัลเบิร์ต เวสเกอร์
Brad Wicker แบรด วิคเกอร์
**Kevin ** เควิน-------->

คืนวันที่ 24 กรกฎาคม 1998
หน่วย S.T.A.R.อัลฟ่าทีมได้มาถึงที่นี่โดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อทำการค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับบราโว่ทีมซึ่งมีสมาชิก ประกอบด้วย อัลเบิร์ต เวสเกอร์ หัวหน้าหน่วย S.T.A.R. คริส เรดฟิลด์ , จิล วาเลนไทน์ ,แบรี่ เบอตั้น, โจเซฟ ฟรอส และ แบรด วิคเกอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ขับเฮลิคอปเตอร์ บนเฮลิคอปเตอร์นั้น......
คริส : อัลฟ่าทีมทำการบินรอบๆพื้นที่ป่าซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของแรคคูนซิตี้ ซึ่งเรากำลังทำการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ ของบราโว่ทีมเพื่อนของเราซึ่งหายไประหว่างปฏิบัติงาน
เวสเกอร์ : คริส...ไม่พบอะไรเลยเหรอ
คริส : ไม่...ชั้นไม่พบอะไรเลย บนเฮลิคอปเตอร์จิลได้มองเห็นควันไฟลอยขึ้นมาจากป่าแรคคูน
จิล : คริส....ดูนั่นสิ ทั้งหมดทำการลงจอดสำรวจที่บริเวณนั้น ซึ่งมีพื้นที่เป็นหญ้าสูง ทั้งหมดมาหยุดดูที่นี่ คริสเข้าไปตรวจสอบเฮลิคอปเตอร์
คริส : นี่คือ เฮลิคอปเตอร์ของบราโว่ทีม..ไม่พบใครอยู่ข้างใน...แต่..แปลกนะ...อุปกรณ์ต่างๆยังอยู่......ยังไงก็ตาม...เราพบมันแล้ว..แต่..ทำไม??
ที่เหลือแยกย้ายไปสำรวจ ขณะที่ทำการสำรวจอยู่นั้น โจเซฟ ได้พบกับร่องรอยอะไรบางอย่าง จึงตะโกนเรียกคนอื่นให้มาดู ซึ่งเมื่อหยิบขึ้นมาดูก็คือ แขนของคนที่กำลังจับปืนไว้อย่างแน่นและมีร่องรอยของการถูกกัดขาดโดยอะไรสักอย่าง ( เวป gamefaqs บอกว่าเป็นแขนของคนขับเฮลิคอปเตอร์ของบราโว่ทีม ) ทันใดนั้นเอง ต้นหญ้าข้างเขาก็สั่นไหว มีตัวอะไรสักอย่างอยู่ในบริเวณนั้น ในพริบตา มันก็กระโดดเข้าขย้ำ โจเซฟทันที อ๊ากกกกก......เสียงของโจเซฟร้องโหยหวน ทุกคนหันมาทันที
จิล : โจเซฟฟฟ
พบ!คล้ายสุนัข อยู่แถวเดียวกันกับที่ได้ยินเสียงของฟอเรส ทุกคนยิงปืนใส่มันทันที แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นอะไรเลย แล้วมันก็หายไปในพงหญ้า ทันใดนั้นเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ ก็ดังขึ้น เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆลอยสูงขึ้น แบรดนั่นเอง เขาตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึง รีบติดเครื่องเฮลิคอปเตอร์และบินขึ้น
คริส : ไม่.......อย่าพึ่งไป
คริสร้องตะโกนแต่ไม่ทันเสียแล้ว แบรดขับเฮลิคอปเตอร์หนีไปแล้ว พวกเขาถูกทิ้งไว้ที่ป่าแห่งนี้ ที่ซึ่งมี!ประหลาดอยู่ ทุกคนที่เหลืออยู่วิ่งไปเพื่อหาที่ปลอดภัย เสียงจากสุนัขนั่นคำราม อยู่ใกล้ๆพวกเขา ทุกคนต่างยิงปืนออกไปเพื่อขู่ พร้อมกับวิ่งไปด้วยเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด คริสได้มองเห็นที่พักอยู่ไกลๆจึงบอกว่า
คริส: จิล วิ่งไปที่บ้านนั่น
ซึ่งที่นั่นคือ คฤหาสน์ของ Spencer ทุกคนเข้าไปหลบอยู่ในนั้นเรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้นที่นี่ ทั้ง 3 ได้เข้ามาหลบอยู่ที่นี่ ซึ่งที่ๆทั้ง 3 เข้ามานั้นเป็นห้องโถง กลางคฤหาสน์มีบันได ขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งอยู่ ตรงข้ามกับประตูหน้าคฤหาสน์ที่ทั้ง 3 ได้เข้ามา
จิล : นี่มันเกิดอะไรขึ้นนี่
คริสส่ายหน้า เมื่อได้สติอีกทีจึงมองไปรอบๆแล้วนึกได้ว่า แบรี่ได้หายไปแล้ว
คริส : แบรี่... แล้วแบรี่ล่ะ
เวสเกอร์ : เสียใจด้วย แบรี่อาจจะ......
จิล : ไม่นะ.....
ทันใดนั้น ก็มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ซึ่งมาจากทางด้านซ้ายของคฤหาสน์ คริสบอกว่า
คริส : ชั้นจะไปดูเองว่ามีอะไร
เวสเกอร์ : งั้นชั้นกับจิลจะรออยู่ที่นี่ ถ้ามีเหตุการณ์ฉุกเฉิน
คริสจึงเดินไปทางประตูด้านซ้ายเพื่อสำรวจ จิลบอกกับคริสว่า
จิล : ระวังตัวด้วย
คริสหันมาพยักหน้า พร้อมเดินเปิดประตูเดินจากไป จิลกับเวสเกอร์จึงแยกไปสำรวจที่ห้องโถง จากนั้น ก็มีเสียงบิดประตูแและเคาะประตูดังขึ้น จิลยกปืนขึ้นเดินไปเพื่อเปิดประตูอย่างช้าๆ เมื่อเปิดประตูก็พบว่าเป็นแบรี่นั่นเอง แบรี่รีบปราดเข้ามาข้างในพร้อมกับล็อคประตูในทันที จิลถามว่า "เป็นอะไรไหม" แบรี่หอบหายใจถี่แต่บอกว่า "ไม่เป็นไร แล้วคนอื่นล่ะ" จิลหันกลับไปปรากฏว่าเวสเกอร์ได้หายไปแล้ว และได้ยินเสียงปิดประตูดังมาจากทางด้านขวาล่างของแมนชั่น จิลคิดว่านั่นคงเป็นเวสเกอร์นั่นแหละ จึงบอกแบรี่ว่า "นั่นไง เวสเกอร์" แบรี่จึงชวนว่า "ไปเถอะ"

ทางด้านคริส
หลังจากแยกกับด้านซ้ายล่างของแมนชั่นเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ คริสเดินสำรวจ ไปทั่วห้อง แต่ไม่พบอะไรผิดปกติ จึงเปิดประตูเข้าไปอีกเพื่อสำรวจต่อก็เจอกับห้องทางเดินและได้ยินเสียง แปลก จึงเดินไปเพื่อดูต้นตอของเสียง คริสพบว่ามันเป็นคล้ายๆมนุษย์กำลังกัดกินอะไรสักอย่าง จากนั้นมันก็หันกลับมา มันลุกขึ้นเดินมาทางคริสอย่างช้าๆ คริสยกปืนขึ้นขู่แต่มันยังเดินเข้ามาเรื่อยๆอย่างไม่กลัว คริสตัดสินใจ ลั่นกระสุนออกไปหนึ่งนัด ลูกกระสุนเข้ากลางลำตัว มันถอยหลังเพราะแรงกระสุนเล็กน้อย แต่แล้วก็เดินเข้าหาคริสอีก คริสตกใจมากที่มันไม่เป็นอะไรเลย จากนั้นจึงลั่นกระสุนเข้าที่ลำตัว 3-4 นัด อย่างต่อเนื่องจนเลือดกระฉูดออกมาจากตัวของมัน มากมาย ได้ผลมันล้มลงไปนอนกองกับพื้น คริสหายใจระรัว นี่..นี่มันอะไรกันนี่ ทำไมมีตัวแบบนี้อยู่ที่นี่ คริสเดินเลี่ยงห่างจากตัว ของมันเดินไปเพื่อดูว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ ที่นั่นคริสพบกับ ร่างของ "เคนเนท ซุลลิแวน" ซึ่งเป็นสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. บราโว่ทีมนั่นเอง
ตัวประหลาดนี่กำลังกินศพของเคนเนทอยู่ คอของเคนเนทขาดหลุดออกมาจากลำตัว ขณะที่คริสสำรวจอยู่นั้น ตัวประหลาดนั่นก็ขยับตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง คริสประหลาดใจมาก นี่มันยังไม่ตายอีกหรือนี่ คริสรัวกระสุน 5 นัดซ้อนเข้าที่ลำตัวอีกรอบ มันล้มลงไปนอนอีกครั้ง คริสยกปืนเล็งไปที่ร่างมันเผื่อว่ามันจะลุกขึ้นมาได้อีก แต่คราวนี้นิ่งสนิทไป คริสรู้ดีว่ากระสุนของเขาจะหมดแล้ว จะทำยังไงดีถ้าเกิดต้องเจอกับนายพวกนี้อีก พวกมันเหมือนกับซอมบี้ ที่เขาเคยดูในภาพยนต์เหลือเกิน จากนั้น คริสจึงทำการค้นที่ศพของเคนเนทเผื่อว่าจะมีปืนหรือกระสุนเหลืออยู่ โชคดีของคริสที่ศพของเคนเนทคริสพบว่ามีกระสุนปืนเหลืออยู่อีก 2 แม็คคริสเก็บกระสุนปืนมา พลันคิดว่า จิลกับเวสเกอร์จะเป็นยังไงบ้างแล้ว คริสรีบวิ่งกลับไปที่ห้องโถงทันที แต่ไม่พบใครเลยคริสตะโกน
คริส : "จิล เวสเกอร์"
แต่เงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับ
คริส : เกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่นี่??
คริสคิดว่าทั้งคู่จะต้องเจอกับอะไรบางอย่างแล้วเช่นกัน คริสคิดว่าทั้งคู่จะต้องไปทางด้านขวาแน่นอนเพราะด้านซ้ายตัวเองไปมา และไม่ได้ยินเสียงจิลเลย

ทางด้านจิล
หลังจากเดินเข้าประตูทางขวาของคฤหาสน์แล้วก็พบกับห้องๆหนึ่งซึ่งมีรูปภาพประดับอยู่บนผนังมากมาย ทั้งจิลและแบรี่เดินสำรวจ แต่ไม่พบอะไรแบรี่บอกว่าได้ยินเสียงทางนี้ น่าจะเป็นเสียงเวสเกอร์ ทั้งคู่เลยเปิดประตูเข้าไปอีก พบว่าที่นี่เป็นห้องที่คล้ายระเบียงทางเดินยาวๆ มีพวกวัตถุอะไรสักอย่างโชว์อยู่ที่ตู้ตามทาง ที่หน้าต่างถูกปิดไว้ด้วยกระจก จิลเดินดูสำรวจไปเรื่อยๆจนสุดปลายทางก็พบว่าอีกด้าน มีประตูอยู่ ทันใดนั้นเอง กระจกที่หน้าต่างด้านที่จิลเดินผ่านมาตอนแรกก็ได้แตกออก พร้อมกับมีตัวอะไรสักอย่างกระโจนเข้ามา...มันคือหมา ที่ทั้งคู่พบตอนที่อยู่นอกคฤหาสน์นั่นเอง มันเดินจ้องมองมาที่พวกเขา จิลยกปืนขึ้นเล็งแต่ดูท่าว่ามันไม่รู้สึกกลัวเลยยังคงเดินตรงเข้ามาหา..
จิลยิงมันไปหนึ่งนัดที่กลางลำตัว มันปลิวและล้มลงจากแรงกระสุน เหมือนกับเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นี่ มีพวกมันกระโดดเข้ามา ทางหน้าต่างเดียวกันอีก 4 ตัว หมาตัวที่ถูกยิงนั้นก็ลุกขึ้นมาด้วย มันแยกเขี้ยวใส่จิล แบรี่เห็นท่าไม่ดีแล้วจึงเรียก "จิล......................" จิลเบนสายตา มามองที่แบรี่ แบรี่ส่งสายตามองไปที่ประตูนั่น แบรี่ตะโกน "วิ่งงงง....." ทั้งคู่ออกตัววิ่งไปที่ประตูทันที พวกมันวิ่งตามมาอย่างเร็วแบรี่เปิดประตู จิลกระโดดกลิ้งเข้าไปข้างในทันที แบรี่รีบปิดประตูล็อคทันที เสียงพวกหมานั่นยังอยู่อีกด้านของประตู พวกมันพยายามวิ่งชนประตู...แต่ไม่ได้ผล.."นั่นมันอะไรน่ะ....ทำไมหมานั่นถึงไม่ตายล่ะ เกิดอะไรขึ้นที่นี่.." จิลบ่นให้แบรี่ฟังแต่แบรี่ได้แต่ส่ายหน้า "ชั้นก็ไม่รู้..เวสเกอร์กับคริส จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"

ทางด้านคริส
คริสเดินไปเปิดประตูด้านล่าง แต่พบว่าประตูถูกล็อคจากอีกด้านหนึ่ง คริสจึงวิ่งไปขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 เพื่อหาทางไปด้านขวาของคฤหาสน์ให้ได้ ซึ่งด้านบนของห้องโถงนั้นทางด้านขวามีประตูอยู่ 2 บาน คริสเดินไปเปิดประตูแต่พบว่าประตูถูกล็อคเช่นกัน จึงเดินไปเปิดประตูอีกบาน ก็พบกับทางเดินแคบๆ ปลายทางนั้นเป็นประตูซึ่งมีรอยเลือดอยู่บนกำแพงใกล้ๆ คริสบรรจุกระสุนเตรียมรับมือทันที เดินเข้าไปหาประตูช้าๆ คริสแง้มประตูพบว่าที่นี่เป็นระเบียงนอกคฤหาสน์ซึ่งมืดสนิทและไม่มีทางเชื่อมต่อกับตัวคฤหาสน์ทางฝั่งขวาเลย มีเพียงแสงไฟจากห้อง ที่เขาเปิดประตูออกมาส่องสว่างให้พอมองเห็นเท่านั้น คริสกวาดตามองไปที่ปลายระเบียงมีอะไรบางอย่างอยู่ คริสเดินเข้าไปหาช้าๆ คริสพบว่า นี่คือ ศพของ "ฟอเรส สเปย์เยอร์" จากบราโว่ทีมเช่นกัน ตามร่างกายของเขามีร่องรอยการถูกจิกกัดของ!บางอย่าง จนมองเห็นกระดูก คริสคิดว่ารอยเลือดที่หน้าประตู คงเป็นเลือดของฟอเรสนั่นเอง คริสสำรวจที่ศพฟอเรส ได้พบกับกระสุนปืนอีก 2 แม็คเช่นกัน คริสเก็บมาขณะที่กำลังเดินกลับไปที่ประตูนั้น ฝูงอีกา 2-3 ตัวได้บินโฉบเข้ามาเล่นงานคริสทันที คริสตกใจ ปัดอีกาทิ้ง พร้อมกับก้มตัวลงด้านล่างแต่อีกายังคงบินตามมาเล่นงานเขา คริสลั่นกระสุนออกไปทันที โดนที่ปีกอีกา 1 ตัว อีการ่วงลงกับพื้นทันที แต่ยังคงกระพือปีกพยายามพยุงตัวลุกขึ้นเพื่อจะเข้าจู่โจมคริส ที่เหลือก็บินเข้าใส่คริสอีก คริสเห็นท่าไม่ดี จิงยิงปืนอีกนัดพร้อมกับกระโดดกลิ้งตัวไป ที่ประตูแล้วปิดประตูทันที เสียงอีกายังคงดังอยู่อีกด้านของประตู นี่มันอะไรกัน ทำไม!พวกนี้ถึงเข้าทำร้ายคน พวกมันดูเหมือนจะไม่ตกใจกลัวเสียงปืนและไม่สนใจหรือรู้สึกกับอาการบาดเจ็บของตนเลย การหลบหนีออกไปครั้งนี้ท่าจะลำบากเสียแล้วเพราะมีแต่!ประหลาด ที่ไม่กลัวกระสุนและไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวมันเองเลย
คริสคิดว่าต้องรีบไปจากที่นี่แล้ว ต้องหาคนอื่นให้พบแล้วหาทางหนีไปให้ได้ คริสออกมาที่ห้องโถงชั้น 2 ไปทางด้านซ้ายเผื่อว่าจะมีทางเชื่อมไป ทางด้านขวาของคฤหาสน์ได้ นี่เป็นชั้น 2 มองไปข้างล่างเป็นห้องอาหารที่คริสผ่านมา มีรูปปั้นอยู่ที่ระเบียงด้วย คริสเดินสำรวจรอบ แต่ไม่พบอะไรเลย มีประตูอีกบานด้านนั้น คริสเข้าประตูไปพบห้องโล่งมีประตูอยู่ไกลๆ2บานและ มีบันไดลงไปทางด้านล่าง คริสได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรสักอย่างอยู่ภายในห้องด้านล่างจึงถือปืนเตรียมพร้อม ซอมบี้นั่นเองดูเหมือนว่ามันพยายามเปิดประตูห้องอยู่ คริสเดินลงบันไดมาช้าๆ เล็งปืนไปที่หลังของมัน ดูเหมือนว่าซอมบี้รู้สึกได้มันหยุดยืนนิ่ง จากนั้นมันก็หันกลับมาตรงเข้าหาคริสทันที คริสรัวกระสุนไม่ยั้งจนมันล้มลงคริสยิงซ้ำอีกจนมันหยุดเคลื่อนไหว คริสแปลกใจว่าหลังประตูบานนั้นมีอะไร จึงเดินไปที่ประตู ประตูนั่นใกล้พังแล้ว คริสกระแทกเปิดประตูเข้าไปก็มีสเปรย์ฉีดมาที่หน้าคริสทันที
คริส : "เฮ้ นี่มันอะไรนี่ .."
คริสเอามือบังที่หน้าทันที สเปรย์ถูกหยุดลงคริสมองดูพบว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เอวคาดกระเป๋ามีตราสัญลักษณ์กากบาทแดงเหมือนพยาบาล
รีเบ็คก้า : เดี๋ยวๆ โอ้ ...ขอโทษ ชั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอย่างนั้นเลย
คริส : อ่า เธอคงเป็นสมาชิกหน่วยบราโว่ทีมสินะ
รีเบ็คก้า : ใช่ ชั้นชื่อ รีเบ็คก้า.. รีเบ็คก้า แชมเบอร์ส ชั้นพึ่งเข้ามาใหม่น่ะมาอยู่ที่บราโว่ทีมเมื่อปลายเดือนที่แล้วเอง
รีเบ็คก้า : ขอโทษจริงๆนะเมื่อกี้ เป็นอะไรรึเปล่า
คริส : ไม่เป็นไร ชั้นชื่อ คริส เรดฟิลด์ จากอัลฟ่าทีม... ที่นี่มีแต่เธอเหรอที่มาจากบราโว่ทีมน่ะ
รีเบ็คก้า : ใช่ เพราะว่าเกิดการลงจอดฉุกเฉิน ชั้นวิ่งหนีมาหลบที่นี่ น่ะ แต่......
คริส : ผมเข้าใจ.. เธอทำอะไรไม่ได้หรอก จะดีกว่าถ้าเธออยู่ที่นี่
รีเบ็คก้ายกมือขึ้นแสดงท่าวันทยาหัตถ์เคารพพร้อมพูดว่า
รีเบ็คก้า : เยสเซอร์
รีเบ็คก้า : แต่ มันแปลกๆนะ ชั้นพึ่งดูแลเฮลิคอปเตอร์มาไม่นานนี้เอง แต่ดูเหมือนว่าเครื่องยนต์จะผิดปกติ มันช่างเป็นเที่ยวบินที่สั้นจริงๆ
คริสเดินสำรวจห้อง พบว่าห้องนี้มีเซรุ่มและถุงเลือดอยู่ คล้ายจะเป็นห้องเก็บของของห้องพยาบาล ขณะที่คริสจะออกจากห้องเพื่อไปต่อนั้น รีเบ็คก้าก็บอกว่า
รีเบ็คก้า : นี่..จะให้ชั้นทำอะไรดีล่ะ ถ้าเธอจะไปสำรวจต่อ ให้ชั้นไปด้วยได้ไหม
คริส : ตกลง ไปกันเถอะ
รีเบ็คก้ายกมือขึ้นแสดงท่าวันทยาหัตถ์เคารพพร้อมพูดว่า
รีเบ็คก้า : เยสเซอร์
รีเบ็คก้า : ชั้นจะทำให้ดีที่สุดเลย แต่ขอเตรียมตัวแปบนึงนะ ไปก่อนได้ไหม

คริสไม่ว่าอะไรเดินออกมาที่นอกห้อง "แอ๊ดดดดด...." มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นไม่ไกลนัก เสียงดังมาจากที่ชั้นล่างนี่แน่ๆ คริสชักปืนขึ้นมาอีกครั้ง เดินเลียบกำแพงมาดู พบว่ามีซอมบี้ 2 ตัวกำลังเดินตรงเข้ามาหาเขา คริสยกปืนเล็งไปที่ตัวหนึ่งลั่นกระสุนไป 5 นัดมันลงไปนอนกอง อีกตัวเดินเข้ามาใกล้
ทันใดนั้นหัวของซอมบี้ก็มีเลือดทะลักออกมาพร้อมกับเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัดดังมาจากข้างหลังคริส รีเบ็คก้านั่นเอง คริสหันไปบอก "ขอบใจ" รีเบ็คก้าเดินเข้ามาใกล้ "พวกนี้ต้องยิงที่หัวไม่อย่างนั้นพวกมันไม่ตายหรอก" ซอมบี้อีกตัวลุกขึ้นมา คริสยิงเข้าที่หัวทันทีมันล้มลงไปนอนอีกรอบ นิ่งไม่ไหวติง "อย่างนี้นี่เอง" คริสพึมพำ พร้อมกับเดินสำรวจต่อ

ทางด้านจิล
จิลตัดสินใจแยกกับแบรี่สำรวจที่ห้องแถวๆนี้ จิลเดินเปิดประตูเข้ามาในห้องหนึ่งเป็นห้องแคบๆโล่งๆมีเพดานสูง ข้างหน้ามีประตูอยู่ จิลเปิดประตูเข้าไปพบว่าที่กำแพงห้องมีชอทกันแขวนอยู่ จิลหยิบออกมาดู มีเสียงกลไกอะไรสักอย่างดังขึ้นแต่จิลไม่ได้สนใจ เพราะเธอต้องมีอาวุธไว้สำหรับเอาตัวรอดที่นี่ จิลสำรวจทั่วห้องแต่ไม่มีอะไรอีก จึงเดินกลับออกมาที่ห้องโล่งๆนั่น จิลเดินไปบิดประตูเพื่อจะ ออกไปข้างนอกแต่พบว่ามันถูกล็อค เสียงดัง ครืนนน... ดังมาจากด้านบน จิลแหงนหน้าขึ้นไปมอง พบว่าเพดานกำลังเลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ จิลรีบหันกลับไปที่ประตูห้องที่มีชอทกันอีกด้านแต่ว่าประตูถูกล็อคเช่นกัน...จิลถูกขังเสียแล้ว...เพดานเลื่อนต่ำมาเรื่อยๆ จิลทุบประตูเสียงดัง
จิล : เฮ้..เกิดอะไรขึ้นนี่
แบรี่ที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงจิล จึงรีบวิ่งมาที่หน้าประตูทันที
แบรี่ : จิล.. นั่นเธอใช่มั้ย จิล... เกิดอะไรขึ้น
จิล : แบรี่..ช่วยด้วย.. ประตูเปิดไม่ได้.
เพดานเลื่อนต่ำมาเกือบถึงหัวจิลแล้ว
แบรี่ : ออกห่างจากประตู ชั้นจะพังมันเอง
จิลถอยห่างจากประตู แบรี่ถีบประตู เปรี้ยง.... ประตูถูกเปิดออก
แบรี่ : เร็ว...ออกมาทางนี้
จิลรีบออกมา รอดจากกับดักมาได้อย่างหวุดหวิด
จิล : โอ้..แบรี่....
แบรี่ : โอ...อีกนิดเดียวเองนะเนี่ย...เกือบกลายเป็นจิลแซนวิทซะแล้วสิ
จิล : 55 ใช่เลย
จิล : แบรี่.. ขอบใจมากที่ช่วยชีวิตชั้นไว้
แบรี่ : yeah..yeah
แบรี่บอกกับจิลให้ไปต่อเถอะ จิลคิดว่าที่แท้เสียงของกลไกนั่นคือ เสียงกับดักถ้าหยิบปืนออกมาจากห้องนั่นเอง แบรี่เดินเปิดประตูไปอีกด้านทั้งคู่เดินออกมาก็พบกับซอมบี้ยืนอยู่ที่ทางเดินมันตรงเข้ามาทั้งคู่ จิลตกใจมาก "นี่มันตัวอะไรนี่.." แบรี่ยกปืนขึ้นขู่ ซอมบี้ยังคงตรงเข้าหาทั้ง 2 แบรี่ลั่นกระสุนไป 3 นัดตรงเข้าที่หัวซอมบี้ 1 นัดมันล้มลงไปนอน แบรี่เดิน สำรวจรอบๆตัวมัน จิลคิดว่าคริสกับเวสเกอร์จะเป็นยังไงมั่งเนี่ย สักพักแบรี่ก็เดินเข้ามาบอกว่า "เราแยกกันสำรวจเถอะ" แบรี่กล่าวอย่าง ไร้เยื่อใย "คฤหาสน์นี้กว้างเหลือเกิน" แบรี่เดินเข้ามาหาจิลพร้อมกับแบ่งกระสุนที่มีให้จิลด้วย "ระวังตัวให้ดีล่ะ" จิลพยักหน้าตอบรับ แล้วแบรี่ ก็เดินจากไป

ทางด้านคริส
หลังจากเดินสำรวจคริสพบปืนชอทกันที่ห้องข้างๆพร้อมกับกระสุนจำนวนหนึ่ง คริสโล่งใจขึ้นเพราะยังพอ มีกระสุนต่อสู้ คริสแบ่งกระสุนปืนให้รีเบ็คก้าและสำรวจจนมาพบห้องๆหนึ่งดูเหมือนจะเป็นห้องพัก มีเตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะหนังสือโดยมีหนังสือ วางอยู่บนโต๊ะริมห้อง รีเบ็คก้าเดินไปเพื่อจะดู ที่หน้าหนังสือเขียนว่า keeper's diary รีเบ็คก้าเรียก "คริสมาดูนี่สิ" คริสเดินไป ทันใดนั้นตู้เสื้อผ้าก็ถูกเปิดออก คริสกับรีเบ็คก้าหันกลับไปทันที ซอมบี้ที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าตรงเข้าใส่ทันที ทั้งคู่ลั่นกระสุนเข้าใส่จนมันแน่นิ่งไป รีเบ็คก้าเกาหัวอย่างงงๆ "มันมาแอบหลบอยู่นี่ได้ไงเนี่ย" แต่คริสไม่ใส่ใจอ่านหนังสือไว้มีข้อความเขียนว่า



9 พฤษภาคม 1998
คืนนี้ พวกเราเล่น poker กัน มี สกอต ที่เป็นยาม เอเลียส กับ สตีฟ เป็นนักวิจัย สตีฟดวงดีชะมัด ชั้นว่ามันต้องเล่นโกงแน่
10 พฤษภาคม 1998
วันนี้ เจ้าหน้าที่วิจัยระดับสูงถามผมเรื่องการดูแล!ประหลาดตัวใหม่นั่น มันดูเหมือนกับ .. กอริลล่าที่..ไม่มีผิวหนัง พวกเขาบอกให้ผมให้อาหารสด(เป็นๆ)แก่มัน เมื่อผมโยนหมูไปให้..พวกมันเล่นกับหมูนั่น...มันฉีกขาหมู และกระชากมันออกมาเมื่อ พวกมันจะกิน
11 พฤษภาคม 1998
ราวตี 5 ได้ สกอตมาหาและปลุกผมทันที เขาสวมชุดป้องกันซึ่งดูคล้ายกับ ชุดอวกาศ เขาบอกผมว่าให้สวมชุดนี้ไว้จะดีกว่า ผมได้ยินว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ห้องทดลอง ไม่น่าแปลกใจเลย นักวิจัยเหล่านั้นไม่เคยได้พัก แม้ว่าจะกลางคืนก็ตาม
12 พฤษภาคม 1998
ผมสวมชุดน่ารำคาญนี่ตั้งแต่เมื่อวาน ผิวหนังมีกลิ่นเหม็นสาบและรู้สึกคันมาก ดังนั้นวิธีแก้แค้นคือ ผมไม่ให้อาหารหมาเหล่านั้นวันนี้ ... ขณะนี้ผมรู้สึกดีขึ้น
13 พฤษภาคม 1998
ผมไปที่ห้องพยาบาลเพราะที่แผ่นหลังเริ่มบวมและรู้สึกคัน พวกเขาพันผ้าพันแผลให้ หมอบอกผมว่า อย่าสวมชุดป้องกันนั่นอีก ผมคิดว่าคืนนี้น่าจะหลับสนิท
14 พฤษภาคม 1998
ตื่นขึ้นมาเช้านี้พบว่ามีตุ่มแผลเพิ่มขึ้นมาที่เท้าผม มันน่ารำคาญมาก สุดท้ายผมต้องทนลากขา นั่นไปที่กรงหมา พวกมันนิ่งเงียบตั้งแต่เช้าซึ่งนี่มันผิดปกติมากแล้ว ผมพบว่าพวกมันบางตัวได้หลุดออกจากรง หนีไปแล้ว ผมเจอกับปัญหาเข้าจริงๆแล้ว ::
15 พฤษภาคม 1998
แม้ว่าผมจะรู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่ผมตัดสินใจจะไปหาแนนซี่ มันเป็นวันแรกที่หยุดหลังจาก ไม่ได้หยุดมานาน แต่พวกยามไม่ให้ผมออกไป เขาบอกว่านี่เป็นคำสั่งจากทางบริษัท ห้ามทุกคนออกนอกเขต พื้นที่ ผมถูกห้ามโทรศัพท์.... นี่มันเรื่องตลกอะไรกันนี่...
16 พฤษภาคม 1998
ผมได้ยินเสียงนักวิจัยซึ่งพยายามหนีจากคฤหาสน์ถูกยิงเมื่อคืน กลางคืน ทั่วร่างผมรู้สึกร้อนและ คันมาก เมื่อผมเกาที่แขนซึ่งบวมนั่น ก้อนเนื้อซึ่งเหมือนจะเน่าก็หลุดออกมาและตกลงที่พื้น นี่มัน... ...เกิดอะไรขึ้นกับผมนี่...
19 พฤษภาคม 1998
รู้สึกว่าไข้หายไปแล้วแต่คันมาก รู้สึกหิว..และ..กินอาหารหมา....คัน...คัน สกอตมาหาผม รู้สึกเหม็นหน้ามันนัก...ดังนั้น..ฆ่ามัน .......อร่อย 4 คัน .... หิวว

คริสคิดว่าคนที่เขียนไดอารี่นี้ต้องกลายเป็นซอมบี้แน่นอน สาเหตุน่าจะมาจากการเกิดอุบัติเหตุที่ ห้องทดลอง ให้ตายเถอะ การทดลองอะไรกันนี่ แล้วห้องทดลองอยู่ที่ไหนล่ะ รีเบ็คก้าก็คิดเช่นดียวกัน คริสเดินไปที่ประตูบอก "ไปกันต่อเถอะ" รีเบ็คก้าหันชำเลืองมองที่ซอมบี้พลางคิดว่า ซอมบี้ตัวนี้คือผู้ที่เขียน ไดอารี่นี้รึเปล่าแต่ ไม่มีคำตอบ ทั้งคู่เดินมาจนถึงด้านนอกที่คริสพบศพเคนเนท เดินไปอีกด้านมีประตูอยู่ เดินเข้ามาพบว่าเป็นลิฟท์แต่ถูกปิดไว้ รู้สึกว่าตัวลิฟท์จะไม่ได้จอดที่ชั้นนี้ ด้านข้างมีทางลงไปชั้นใต้ดิน ทั้งคู่เดินลงไปข้างล่างพบห้องอยู่เป็นห้องทำอาหารนั่นเอง ดูที่นี่มีฝุ่นจับหนาคงไม่ได้ทำความสะอาดหรือใช้ มานาน มีประตูอยู่คริสกำลังเดินไปเปิดประตู แต่รีเบ็คก้าเรียกให้คริสดูที่พื้น คริสหันมาพบซอมบี้นอนที่พื้น ขวางทางเดินอยู่ คริสเดินไปใกล้อย่างไม่ไว้ใจ ด้านหลังซอมบี้มีลิฟท์อยู่ด้วย คริสกระโดดข้ามไป พร้อมกับ เรียกรีเบ็คก้าให้ข้ามมา รีเบ็คก้าตั้งท่าจะกระโดด ทันใดนั้นซอมบี้ก็ขยับตัวรีเบ็คก้าตกใจสะดุดล้มลง ตรงหน้าซอมบี้ ซอมบี้เงยหน้ามองมาที่รีเบ็คก้าและคลานเข้ามาหา รีเบ็คก้าคลานถอยหลังอย่างเร็ว... ปัง..ปัง เสียงปืนดังขึ้น คริสนั่นเอง คริสยิ้มแหยๆพลางขอโทษรีเบ็คก้า "โทษที....ผมนึกว่ามันตายแล้ว" ทั้งคู่ไปที่ลิฟท์ซึ่งพาไปสู่ชั้น 2 ของคฤหาสน์ มีห้องอยู่ใกล้ ที่นี่เป็นห้องสมุดของคฤหาสน์นี่เอง ทั้งคู่แยกกันสำรวจ ซึ่งที่ชั้นหนังสือมีแต่หนังสือเคมี หรือหนังสือทางชีววิทยาทั้งนั้น รีเบ็คก้าพบแฟ้มข่าวที่ดูเหมือนจะตัดมาจาก หนังสือพิมพ์แรคคูนไทม์ จึงเรียก คริสมาดู มีข้อความดังนี้
แรคคูนไทม์ 27 พฤษภาคม 1998
animal attack? ผู้หญิงถูกฆาตกรรม 20 พฤษภาคม เวลาราว 4 ทุ่ม พบศพหญิงสาวอายุ 20 ปี โดยผู้พบเห็น ที่ฝั่งซ้ายของ แม่น้ำเมเบิล ในแถบ cider ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งของแรคคูนซิตี้ ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของหมีกริซลี่หรือ!อย่างอื่น เพราะมีร่องรอยของฟัน ตามแขนและขาของศพซึ่งแสดงให้เห็นว่าแข็งแแรงมาก ผู้ตายสวมรองเท้าบูทส้นสูงที่ขาอีกข้าง ซึ่งแสดงว่าเธอถูกทำร้ายบนเขาอารค์เลย์ และตกลงสู่แม่น้ำ ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนเกี่ยวกับผู้ตาย
แรคคูนวีคลี่ย์ 16 มิถุนายน 1998
!ประหลาดที่เขาอารค์เลย์? ชาวบ้านบางคนเล่าว่า พวกเขาเห็น!ประหลาดบนเขาอารค์เลย์ โดยที่ เข้าใจว่า!ประหลาดนั้นมีขนาดเท่ากับสุนัขขนาดใหญ่ และวิ่งอยู่เป็นกลุ่มคล้ายกับสุนัขป่า นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นกลุ่มของสุนัขป่าธรรมดาเท่านั้น แต่!ประหลาดเหล่านี้ดุร้าย และทำอันตรายได้อย่างสาหัสทีเดียว ชาวบ้านบอกว่า สุนัขเหล่านี้จะไม่มายุ่งกับเรา ถ้าไม่เข้าไปรบกวนมันหรือทำให้มันตื่น ดังนั้นจึงควรอยู่ห่างจากเขาอารค์เลย์ในขณะนี้ แต่ถ้าคุณชอบผจญภัย พิสูจน์ ลองดูสิ...............
แรคคูนไทม์ 9 กรกฎาคม 1998
ความลึกลับบนเขาอารค์เลย์ ถนนขึ้นเขาถูกปิด เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นบนเขาอารค์เลย์ ทางจังหวัดตัดสินใจออกคำสั่งให้ปิด ถนนที่ขึ้นไปที่เขา เวลาเดียวกันนี้ ตำรวจแรคคูน เริ่มทำการค้นหาผู้สูญหาย โดยการช่วยเหลือของสมาชิก หน่วย S.T.A.R. พวกเขาคิดว่านี่เป็นงานที่ยากทีเดียว เพราะเขาอารค์เลย์กว้างมากและถูกปกคลุมด้วยป่า เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งชาวบ้านยังคงรายงานการพบเห็น!ประหลาดบนเขาอยู่ มีใครบางคนติดตามดูข้อมูลของเรื่องนี้อยู่
คริสเดินสำรวจต่อ พบตู้หนึ่งดูผิดปกติในบรรดาชั้นหนังสือ ตู้นี้เป็นตู้ธรรมดาที่ไม่ได้ใส่หนังสือเลยและวางติดกับกำแพง คริสคิดว่ามันไม่ควรมาอยู่แถวนี้ ..หรือว่า.. มันจะมีอะไรสักอย่างอยู่หลังตู้นี้ คริสดันตู้ออก ตามคาด..มีประตูลับอยู่หลังตู้นี้ คริสเรียกรีเบ็คก้าและเข้าไปข้างใน ห้องนี้เป็นห้องมืดๆ แต่มีแสงสว่างส่องเข้ามาที่หน้าต่าง คริสเดินไปดูเห็นมีลานจอดเครื่องบินอยู่ที่สนามซึ่งอยู่ทาง ด้านหลังของคฤหาสน์ ถ้าติดต่อกับแบรดได้ละก็...แต่คริสไม่มีวิทยุ...รีเบ็คก้าตะโกน "คริส...ดูนี่สิ.." รีเบ็คก้ายกปืน อันหนึ่งให้คริสดู ปืนแมคนั่มนั่นเอง รีเบ็คก้าบอก "ห้องนี้มีปืนกับกระสุนอยู่เยอะเลย..ดีจริงๆ" รีเบ็คก้าสำรวจตู้พลางเก็บ กระสุนปืนส่วนหนึ่งไว้กับตัว และวิ่งเอาปืนแมคนั่มกับกระสุนมาให้คริส "เอาไปเถอะ แรงสะท้อนมันเยอะ" คริสรับมา พร้อมให้ปืนตัวเองกลับเป็นการตอบแทน

ทางด้านจิล
จิลที่แยกกับแบรี่ก็เดินสำรวจตามห้องพบกับบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 พบทางแยกด้านซ้ายและขวา ที่ด้านซ้ายมีกับห้องอยู่กลางทางเดิน จิลเดินเข้าไปข้างในพบห้องนอนที่โต๊ะมุมห้องมีแผ่นกระดาษวางอยู่มีข้อความดังนี้
ถึง Alma ที่รัก
เมื่อคุณได้รับจดหมายนี้นะ สำหรับผมมีเรื่องทั้งที่ดีใจและเสียใจ ผมไม่สามารถคุยหรือติดต่อกับคุณได้เป็นเพราะชายที่ใส่แว่นดำ Alma สงบสติแล้วอ่านจดหมายนี้นะ ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าผมถูกย้ายมาที่หน่วยการวิจัยยา เมื่อสิ้นเดือนที่แล้ว มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นและไวรัสที่พวกเราทำการศึกษาอยู่นั้น ได้รั่วไหลออกไปภายนอก ผู้ร่วมงานทุกคนซึ่งติดเชื้อไวรัสนั้นได้ตายลง..... ไม่ใช่สิ ที่จริงแล้วคือ พวกเขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้ตายไปแล้ว พวกเขาออกเดินเพ่นพ่านไปทั่วที่นี่ .. มีบางตัวพยายามกระแทกอยู่ที่ประตู หน้าห้องของผม ซึ่งทำให้ผมตกใจมาก ในแววตาของพวกเขาไม่มีวี่แวว ของความเป็นมนุษย์เหลืออยู่เลย นั่นเป็นผลมาจากไวรัสนั่นเอง มันทำให้ความรู้สึกต่างๆของมนุษย์หายไป...ตลอดกาล.... Alma แม้กระทั่งความทรงจำที่เราเคยอยู่ร่วมกัน.......... ใช่.....ผมเองก็ติดเชื้อเข้าแล้ว ผมพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้ แต่มันก็ทำได้แค่ชะลออาการเท่านั้นเอง สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือ ..... กลัวว่าผมจะลืมความทรงจำที่เกี่ยวกับคุณ... ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมพร้อมที่จะตายอย่างสงบมากกว่าที่จะกลายเป็นแบบพวกเขา
อีกประมาณ 1 ชม. ผมคงจะหลับไป....ตลอดกาล... ผมหวังว่า......คุณคงเข้าใจ..ความรู้สึก..ของผม....
ลาก่อน
Martin Crackhorn
(สงสาร Martin มากสุดท้ายแล้วต้องเสียใจอย่างเดียวอดดีใจเลย)

เจอประตูอีกบานหนึ่งและได้ยินเสียงมาจากภายใน จิลเตรียมปืนพร้อม เปิดประตูเข้าไปข้างใน ที่สุดทางเดินในห้องจิลพบคน คนหนึ่งนอนอยู่ที่พื้นซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งของหน่วยบราโว่ทีมคือ "ริชาร์ด ไอเคน" จิลรีบวิ่งไปหาเขาทันที ซึ่งตามลำตัวของริชาร์ด มีร่องรอยของฟันขนาดใหญ่อยู่ มีเลือดเลอะไปทั่วเสื้อของเขา
จิล : ริชาร์ด .....เกิดอะไรขึ้น
ริชาร์ด : โอ้..จิล...คฤหาสน์นี้อันตรายมาก..มี!ประหลาดที่นี่
จิล : แผลนาย...นายไปเจอกับตัวอะไรมาเนี่ย..
ริชาร์ดท่าทางหมดแรง แต่ยังพยายามพูดกับจิล
ริชาร์ด : มัน..คือ งู...ตัวใหญ่มาก ..และมันมีพิษด้วย
จิล : พิษหรือ...ริชาร์ด..ทำใจดีๆไว้
ริชาร์ด : จิล..ล เอ้า..นี่ วิทยุสื่อสาร...ของชั้น.. รับ..ไป
จิล : ไม่นะ...ริชาร์ด...
ริชาร์ด : จิล..ระวังตัวด้วย.....นะ......
และแล้วริชาร์ดก็ตายจากไปอีกคน จิลนั่งร้องไห้อยู่ข้างริชาร์ดสักครู่จึงลุกขึ้น ซึ่งแบรี่ก็ได้เดินเข้ามาในห้องทันที "แบรี่...ริชาร์ดเค้า...." แบรี่หันไปมองที่ศพริชาร์ด "ชั้นเข้าใจ...จิล...แต่เราไม่มีเวลาเสียใจแล้ว....ชั้นได้ยินเสียงเวสเกอร์ทางด้านหลัง ของคฤหาสน์น่ะ ไปกันเถอะ" จิลปาดน้ำตาหันไปมองริชาร์ดครั้งสุดท้ายแล้วหันกลับมามองที่แบรี่แล้วพยักหน้า "อืมมม .. ไปเถอะ" ทั้งคู่เดินกลับมาตามทางเดิม ที่จิลผ่านมาที่ชั้น 1 อีกครั้ง แบรี่นำจิลเปิดประตูออกไปทางด้านหลังคฤหาสน์ หลังคฤหาสน์เป็นทางเดินที่ถูกล้อมไปด้วยกำแพงรั้วสูง เป็นเหมือนสวน ทันทีที่จิลเดินออกมาสัญญาณวิทยุสื่อสารก็ดังขึ้น จิลรีบรับทันที (มันเหมือนเล่นเองเลยใช่ม้า..*-*)
แบรด : นี่แบรดนะ.. ..S.T.A.R.S. อัลฟ่าทีม... บราโว่ทีม.......มีใครได้ยินชั้นมั้ย...
จิล : แบรด..นี่จิลนะ
แบรด : นี่แบรดนะ...S.T.A.R.S. อัลฟ่าทีม... บราโว่ทีม....ไม่มีการตอบสนองเลยเว้ยย...ย้ำอีกรอบนะ...นี่แบร.........
จิล : แบรด..นี่จิลนะ...แบรด...แบรด...
แต่แล้วสัญญาณก็หายไปจิลเดินสำรวจก็พบที่สวนหลังคฤหาสน์พบกับทางลงไปด้านล่างแต่มันสูง..มีลิฟต์อยู่ตรงนั้นแต่ลิฟต์เสีย จิลจึงไปอีกทางก็พบกับอ่างเก็บน้ำกั้นไว้ จิลเดินไปที่ประตูน้ำมีที่เปิดประตูน้ำอยู่ จิลหมุนเปิดประตูน้ำ .. น้ำไหลลงไปทางด้านที่จิลเห็นลิฟต์ ..เมื่อน้ำไหลไปเกือบหมดทางเดินที่อยู่ใต้น้ำก็ปรากฎขึ้นมา ทั้งคู่จึงเดินข้ามไปอีกฝั่งได้ซึ่งก็มีลิฟต์อีกตัวลงไปข้างล่างได้เช่นกัน ทั้ง 2 ลงลิฟต์มา



คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
umaporn
#3
22-05-2010 - 14:08:54

#3 umaporn  [ 22-05-2010 - 14:08:54 ]






Biohazard 0




เมืองขนาดกลางทางภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา “ Raccoon City ” เกาะโดดเดี่ยวห่างไกลออกไปจากฝั่ง “ Rockford Island ” เกาะที่ต้องพบชะตาเดียวกันกับเมืองแรคคูน “ Sheena Island ”
ยังคงมีคำถามที่เราไม่สามารถหาคำตอบได้อีกมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์อันน่าสลดใจเหล่านี้แม้จะมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องของบริษัท Umbrella แต่เรายังคงเบื้องหลังของบริษัทนี้มาก
เริ่มต้นในคืนวันที่ 23กรกฎาคม 1998 เวลา 20.17 น. ณ ขบวนรถไฟคันหนึ่ง ในขณะที่เหล่าผู้โดยสารกำลังนั่งเพลิดเพลินกับช่วงเวลาอาหารค่ำอันสุดหรู แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น เมื่อสิ่งมีชีวิตลึกลับรูปร่างคล้ายปลิงได้เข้าจู่โจมขบวนรถไฟ รวมทั้งทั้งผู้โดยสาร จนเสียชีวิตทั้งหมด โดยที่ปลิงเหล่านี้ถูกควบคุมโดยชายลึกลับคนหนึ่ง แต่เราก็ไม่อาจทราบได้ว่าเขาคือใคร ? และทำไปเพื่ออะไร ?
หลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง เฮลิคอปเตอร์ของหน่วย S.T.A.R.S. ทีมบราโว่ได้บินมาเหนือชายป่าแรคคูน เพื่อทำการสืบคดีฆาตกรรมลึกลับที่ไม่ทราบสาเหตุคดีหนึ่ง แต่ทว่าเกิดระเบิดขึ้นที่เครื่องยนต์จนเป็นเหตุให้ทีมบราโว่จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉิน นอกจากจะไม่ทราบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว ทีมบราโว่กลับพบหลักฐานบางอย่างที่ทำให้เกิดความสงสัยมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อใกล้ๆจุดลงจอด ได้มีรถบรรทุกนักโทษคันหนึ่งจอดคว่ำอยู่ พร้อมกับศพของนักโทษที่นอนเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด Rebecca Chambers สมาชิกใหม่ของทีม ได้หยิบประวัตินักโทษคนหนึ่งขึ้นมาซึ่งก็คือ ร้อยตรี Billy Cohen ที่ต้องโทษอุกฉกรรจ์ด้วยสาเหตุจากการฆ่าคนตาย 23 ศพ ซึ่งในจำนวนศพนักโทษไม่มีเขาอยู่ด้วย หัวหน้าทีม Enrico Marine จึงสั่งให้สมาชิกในทีมแยกย้ายกันเพื่อทำตามภารกิจเดิมไปพร้อมกับการตามหาตัว Billy , Rebecca ได้สังเกตเห็นรถไฟลึกลับที่จอดแน่นิ่งอยู่กลางป่าคันหนึ่ง เธอจึงตัดสินใจเข้าไปสำรวจ เผื่อค้นหาหลักฐานที่อาจจะเอามาใช้ประโยชน์ได้ แต่แล้วมันกลับเป็นฝันร้ายที่เธอไม่อาจลืมเลือนได้อีกเลย
รีเบคก้าได้เดินสำรวจที่ทางเข้ารถไฟซึ่งบรรยากาศไม่ค่อยดีนัก แต่เธอจำเป็นต้องเข้าไปเผื่อสำรวจ เมื่อเธอเข้ามาในรถไฟก็ได้เดินไปยังตู้โดยสาร แต่กลับพบว่าไม่มีร่องรอยของผู้คนอยู่เลย เธอจึงเดินไปยังตู้โดยสารที่อยู่ใกล้ๆ แต่ก็พบว่าผู้คนที่โดยสารมาได้นอนเสียชีวิตหมดแล้ว รีเบคก้า ได้สังเกตเห็นวิทยุอันหนึ่งตกอยู่ใกล้ๆกับศพของผู้โดยสาร เธอจึงเอื้อมมือไปหยิบมา แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น เมื่อศพผู้โดยสารสามารถขยับตัวและฟื้นขึ้นมาเพื่อที่จะทำร้ายเธอ เธอยกปืนขึ้นขู่แต่ผู้โดยสารเหล่านั้นไม่มีท่าทีกลัวเลยแม้แต่น้อยและยังเดินเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ เธอยิงปืนขู่ ซึ่งไปโดนที่แขนของผู้โดนสารคนหนึ่ง แต่เขากลับไม่มีท่าทีว่าจะเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย และยังคงเดินมาหาเธอ เธอจำเป็นต้องยิงต่อสู้เพื่อป้องกันตัว รีเบคก้า ยิงไปได้2-3นัด มันล้มลงไปและลุกขึ้นมาใหม่ นี่มันอะไรกันนี่มันเหมือน Zombie ในหนังที่เธอเคยดูไม่มีผิด เธอนึกในใจถ้าหากเป็นฝันก็รีบตื่นขึ้นมาเถอะ แต่ไม่มีเวลาคิดแล้ว เธอจำเป็นต้องยิงพวกซอมบี้ทั้งหมดจนพวกมันแน่นิ่งไป เมื่อพวกมันหยุดนิ่งไม่ขยับ เธอจึงเดินไปยังประตูอีกฝั่งมายังตู้ทางเชื่อม แต่ซอมบี้ที่นอนแน่นิ่งตัวหนึ่งก็ลุกขึ้นกัดขาเธอ เธอตกใจมากและเตะไปที่หัวของมันจนหัวหลุด มันจึงหยุดนิ่งไปไม่มีท่าทีว่าจะเคลื่อนไหวอีกต่อไป นี่คงไม่ใช่ฝันแน่แล้วเพราะเธอรู้สึกเจ็บ และเธอคิดว่าหัวน่าจะเป็นจุดอ่อนของมัน แต่ว่ามันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงเนี่ยเธอคิด แต่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดในเรื่องนี้แล้ว เธอจึงเดินต่อไป
เมื่อเธอมาถึงยังอีกฝั่งของตู้ทางเชื่อม เธอได้เดินสำรวจไปจนสุดทางเธอได้พบกับกุญแจรถไฟจากศพ และแล้วรีเบคก้าก็ได้พบกับบุคคลทื่ทางการต้องการตัวเขาก็คือบิลลี่นั่นเอง
รีเบคก้า – “ บิลลี่? , ร้อยโทโคเฮ่น ”
บิลลี่ – “ ดูเหมือนว่าจะรู้จักฉันดีสินะ ตกใจละสิ ”
รีเบคก้า – “ คุณเป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างการพาตัวไปดำเนินคดี , กับทหารข้างนอก ”
บิลลี่ – “ อ๋อ! รู้แล้วล่ะ เธอเป็นหน่วย S.T.A.R.S. นี่เอง ดีนะ ไม่มีการป้องกันตัวเลย แต่ดูเหมือนว่าเธอคง
จะไม่ต้องการใช้ชั้นอยู่แถวๆนี้สินะ ดังนั้นเวลาสนทนาของเราคงจบแล้ว ”
รีเบคก้า – “ หยุดเดี๋ยวนี้นะ คุณถูกจับ ”
บิลลี่ – “ ไม่ล่ะ ขอบคุณนะสาวน้อย แต่ฉันแกะกุญแจมือออกแล้วล่ะ ”
รีเบคก้า – “ แต่ฉันยิงคุณได้นะ ”
แต่ทว่าบิลลี่ก็ได้เดินจากไป ในขณะที่รีเบคก้ากำลังตื่นกับการพบนักโทษครั้งแรกอยู่ ทันในนั้นก็มีบางอย่างกระโจนทะลุกระจกหน้าต่างเข้ามา
รีเบคก้า – “ เอ็ดเวิร์ด? , เธอเป็นอะไรมั๊ย? เกิดอะไรขึ้น? ”
เอ็ดเวิร์ด – “ มัน เลวร้ายยิ่งกว่า~ .. เรา ไม่สะสามารถ … เธอตะต้องระวังตัวให้ดีรีเบคก้า , มีซอมบี้กับ!
ประหลาด เต็มป่าไปหมด~ ”
รีเบคก้า – “ ซอมบี้กับ!ประหลาดงั้นเหรอ? ”
เอ็ดเวิร์ด – “ อ้ากกกก.. ”
ไม่ทันที่เอ็ดเวิร์ดจะได้พูดอะไรมากก็ได้จากไปเสียก่อน แต่ไม่ทันที่รีเบคก้าจะได้พักจากเหตุการณ์เหล่านี้ หมาซอมบี้ก็พุ่งทะลุกระจกเข้ามา และจ้องทำร้ายเธอ มันก้มตัวลงเหมือนจะกระโจนเข้าใส่รีเบคก้าเห็นท่าไม่ดีจึงได้ยิงมันจนกระเด็นไปก่อน มันทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นมาเธอจึงยิงมันก่อนแต่กระสุนดันหมด มันกระโจนเข้าใส่เป็นจังหวะเดียวกับที่รีเบคก้าใส่กระสุนเสร็จพอดี รีเบคก้ายิงมันจนกระเด็นล้มแน่นิ่งไป
เธอจึงเดินไปยังห้องพักเบอร์ 201 ภาคในห้องพักมีเครื่องพิมพ์ดีดตั้งอยู่ และบนโต๊ะก็มีเอกสารกระบวนการตรวจสอบวางอยู่ด้วยเธอจึง หยิบมันขึ้นมาอ่านมีใจความว่า
------------------------------------------------------
กระบวนการตรวจสอบ ( Investiagation )
(บางส่วนเปื้อนเลือดและไม่สามารถอ่านออก)
8 ไมล์จากทางเหนือของเมืองแรคคูน ในหุบเขาอาร์คเลย์ที่ตั้งศูนย์ฝึกขององค์การที่ปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะนี้เราได้ทำการสืบสวนเบื้องต้นในการเปิดทำการศูนย์ฝึกแห่งนี้อีกครั้ง หน่วยแรกเข้าประจำจุดและเริ่มทำการสอบสวน และต้องการกำลังสนับสนุนจากหน่อยของคุณ ด้วยคำสั่งของ วิลเลี่ยม เบอร์ก และ หน่วยสืบสวน 1 …( ส่วนที่เหลือถูกฉีกและไม่สามารถอ่านได้ )
------------------------------------------------------
เมื่อสำรวจภายในห้องจนหมดก็ไม่พบอะไรอีกรีเบคก้าจึงเดินไปยังห้องพักเบอร์ 202 ซึ่งที่นี่เธอได้พบกับบันทึกผู้โดยสารมีใจความว่า
-------------------------------------------------------------
บันทึกผู้โดยสาร ( Passenger diary )
กรกฎาคม 14
คำสั่งจากหัวหน้าวันนี้ ดูเหมือนว่าเราจะเข้าไปตรวจสอบห้องแล็บที่ภูเขาอาร์คเลย์ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งเราเป็นกลุ่มแรก โดยมุ่งไปที่การตรวจสอบการทดลองที่ค้างไว้
กรกฎาคม 16
โชคไม่ดี ต้องทำการหยุดอาวุธชีวะทดลองรุ่นทดสอบ ( รุ่นY139 ) เนื่องจากการตอบสนองของเกราะป้องกันของ T-Virus มีการทดลองที่น่าสนใจอยู่อีกมากมายเหลือเกิน… ในการทดลอง T นั้นดูเหมือนขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสายพันธุ์และการเพาะเลี้ยง เพียงไม่กี่นาที กลุ่มของ T ก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกใจทั้งรูปร่าง ขนาดและการแตกตัวของสารพิษภายใน รวมไปถึงการสร้างเซลสมอง หากสิ่งเหล่านี้สามารถควบคุมได้อาวุธชีวภาพก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่ทันใดนั้นการสร้างตัวของเปลือกนอกก็กลับเสียหายและอ่อนลงเรื่อยๆ ปัญหาก็คือ ส่วนนั้นคือเยื่อหุ้มส่วนหัวของมัน ห้องทดลองแห่งนั้น จะทำการทดลองเหมือนเราหรือเปล่า ถ้าใช่มันจะสามารถช่วยในการทดลองของเราได้มากที่เดียว
กรกฎาคม 19
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง..ฉันเริ่มวิตกมากขึ้น หนังสือพิมพ์ของเมืองแรคคูน และสถานีโทรทัศน์ประโคมข่าวและการสืบสวนการฆาตกรรมปริศนาบริเวณชานเมือน มันจะใช่ไวรัสหรือเปล่า ถ้าใช่..ไม่ ฉันต้องเลิกคิดเรื่องไร้สาระนี่เสียที ตอนนี้ฉันต้องสนใจแต่เรื่องการตรวจสอบอย่างเดียวเท่านั้น
-------------------------------------------------------------
เมื่อจบรีเบคก้าก็คิดว่าคดีฆาตกรรมปริศนานี่อาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า T-Virus ก็เป็นได้แต่ก็ยังปักใจเชื่อเลย100% ยังไม่ได้ เธอจำเป็นต้องหาข้อมูลให้ได้มากกว่านี้
เมื่ออ่านจบรีเบคก้าก็คิดว่าคดีฆาตกรรมปริศนานี่อาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า T-Virus ก็เป็นได้แต่ก็ยังปักใจเชื่อเลย100% ยังไม่ได้ เธอจำเป็นต้องหาข้อมูลมากกว่านี้ เธอจึงกลับไปยังห้องผู้โดยสาร และนำกุญแจรถไฟที่เพิ่งได้จากศพไปใช้กับประตูเข้าสู่ห้องครัวซึ่งในตอนแรกถูกล็อคไว้ แต่ระหว่างที่กำลังจะไปนั้นเอ็นริโก้ก็ได้วิทยุเข้ามาเธอ
รีเบคก้า – “ นี่คือ รีเบคก้า, ทราบแล้วเปลี่ยน ”
เอ็นริโก้ – “ รีเบคก้า , ได้ยินหรือเปล่า? นี่คือเอ็นริโก้ตอนนี้เธออยู่ไหน? , ทราบแล้วเปลี่ยน ”
รีเบคก้า – “ เอ็นริโก้! ได้ยินหรือเปล่า? กรุณาตอบด้วย ”
เอ็นริโก้ – “ รีเบคก้า , OK ฉันได้ยินเธอแล้ว ฟังให้ดีนะ เราได้รับรายงานจากนักสืบจากข้อมูลที่พบเมื่อกี้
ว่า บิลลี่ โคเฮ่น เป็นฆาตกรฆ่า 23 ศพ , ทราบแล้วเปลี่ยน ”
รีเบคก้า – “ 23 ศพงั้นเหรอ ”
เอ็นริโก้ – “ เราได้ข้อมูลยืนยันว่า เขาอยู่ใกล้ๆ นี้เอง ดังนั้นระวังตัวให้ดี ได้ยินมั้ย? รีเบคก้า , ทราบแล้ว
เปลี่ยน รีเบคก้าระวังตัวให้ดี เขาสามารถฆ่าเธอได้ตลอดเวลา ”
รีเบคก้า – “ เอ็นริโก้? กัปตัน , ฮัลโหล ฮัลโหล! ”
แต่ทว่าไม่ทันที่เธอจะถามอะไรมากไปกว่านี้ การติดต่อกับเอ็นริโก้ก็ได้ขาดไปเสียก่อน รีเบคก้าจึงเดินไปยังห้องครัวต่อ แต่ในขณะที่เธอกำลังจะเข้าไปสำรวจห้องครัวก็ได้พบกับบิลลี่อีกครั้ง
บิลลี่ – “ ต่อจากนี้ไปมันเริ่มอันตรายแล้วนะ ทำไมเราไม่ร่วมมือกันล่ะ? ”
รีเบคก้า – “ ร่วมมือ? กับนายงั้นหรือ? ”
บิลลี่เริ่มรู้สึกรำคาญและขึ้นเสียงใส่รีเบคก้า
บิลลี่ – “ ฟังนะ สาวน้อย ถ้าเธอสังเกตบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติบนรถไฟคันนี้ได้นะ และฉันต้องการ
ออกไปจากที่นี่ให้ได้ แต่คนเดียวมันไม่สามารถทำอะไรได้ ”
รีเบคก้า – “ นายหวังจะให้ฉันไว้ใจอย่างงั้นเหรอ? โจรที่ตำรวจต้องการตัวอย่างงี้เนี่ยนะ? ฉันดูแลตัวเอง
ได้ ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนายหรอก , และที่สำคัญอย่าเรียกชั้นว่าสาวน้อย เข้าใจมั้ย! ”
บิลลี่ – “ ฮะ ฮะ โอเค ๆ แม่ตุ๊กตา แล้วจะให้ฉันเรียกเธอว่าอะไรดีล่ะ? ”
รีเบคก้า – “ ชั้นชื่อรีเบคก้า แชมเบอร์ แต่นายต้องเรียกฉันว่าเจ้าหน้าที่แชมเบอร์ ! ”
บิลลี่ – “ อืม ดี งั้นทำไมไม่ลองขึ้นบันไดไปข้างบนดูล่ะ เดี๋ยวฉันจะรอเธออยู่ที่นี่ ”
รีเบคก้ารู้สึกฉุนกับคำท้าของบิลลี่จึงได้ขึ้นไปยังห้องอาหารชั้น 2 และรีเบคก้าก็ได้พบกับชายแก่คนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารที่รอบ ๆมีไฟลุกไหม้ อยู่เพียงคนเดียว เมื่อรีเบคก้าเข้าไปทัก กลับต้องตกใจเมื่อพบว่าหัวและร่างกายของชายแก่คนนี้หลุดออกมาเป็นชิ้นๆ และพบว่าปลิงจำนวนหลายร้อยตัวอยู่ข้างใน และปลิงเหล่านี้ก็รวมตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า Leech Zombie รีเบคก้าตกใจจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็รีบยกปืนขึ้นยิงเพื่อป้องกันตัวทันที รีเบคก้ายิงไปได้ซักพัก มันก็แตกตัวออกและฝูงปลิงจำนวนมากก็พุ่งเข้าทำร้ายรีเบคก้าทันที บิลลี่ซึ่งได้ยินเสียงปืนก็รีบตามขึ้นมาและได้ช่วยรีเบคก้าไว้ได้ทัน
บิลลี่ – “ เธอโอเคมั้ย ”
รีเบคก้า – “ อืม ”
รีเบคก้าชี้ไปทางหน้าต่าง ในขณะเดียวกัน ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงร้องเพลงอยู่ไกลๆ และเมื่อทั้งสองมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็พบกับชายลึกลับคนหนึ่งยืนตระหง่านอยู่บนหน้าผาและดูราวกับว่าจะเป็นผู้ควบคุมฝูงปลิงเหล่านี้
บิลลี่ – “ นั่นใครน่ะ ”
แต่แล้วจู่ๆรถไฟก็กลับมาเคลื่อนที่อีกครั้ง
บิลลี่ – “ อ่ะ ”
รีเบคก้า – “ เกินอะไรขึ้น! ใครเป็นคนบังคับรถไฟ? ”
บิลลี่ – “ เราต้องไปเช็คที่ห้องเคลื่องยนต์ก่อน ”
รีเบคก้าทำท่าทางเหมือนไม่อยากร่วมมือด้วยและกำลังจะลงบันไดไป
บิลลี่ – “ ฟังนะ! เราต้องร่วมมือกันตั้งแต่นี้เป็นต้นไปแล้วนะ เข้าใจหรือเปล่า! ”
รีเบคก้า – “ แต่… ”
บิลลี่ทำท่าทางโกรธและพูดกลับไป
บิลลี่ – “ ดูให้ดีสิ หรือเธออยากเป็นเหยื่อของปลิงพวกนี้? ”
รีเบคก้าเองก็รู้สึกโกรธเช่นกัน
รีเบคก้า – “ ก็ได้ แต่จำไว้นะ ว่าชั้นสามารถยิงนายได้ ถ้านายคิดทำอะไรไม่ดีไป ”
บิลลี่ – “ โอเค , ถ้าพบอะไร ก็วิทยุมาบอกด้วยล่ะ ”
รีเบคก้าพยักหน้า
ทั้งคู่สำรวจในห้องอยู่ซักพัก รีเบคก้าจึงเสนอให้ใครซักคนขึ้นไปสำรวจบนหลังคารถไฟว่ามีอะไรผิดปกติ เมื่อตกลงกันได้ บิลลี่จึงจับรีเบคก้าส่งออกไปทางหน้าต่างหลังรถไฟเพื่อปีนขึ้นไปบนหลังคารถไฟ รีเบคก้าเดินตรงไปตามหลังคาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เป็นรูอยู่ เธอจึงก้มลงสำรวจตรงที่กระแสไฟฟ้าช็อตอยู่ และได้เปิดกระแสไฟและต่อสายไฟให้กับรถไฟตามเดิม แต่ทว่าฝูงปลิงที่มาจากไหนไม่รู้ก็พุ่งโจมตีเธอ จนตกไปในรถไฟอีกครั้ง ซึ่งเธอตกมาในห้องครั้งชั้น2 แต่เธอไม่สามารถออกไปได้เนื่องจากประตูเสีย รีเบคก้าจึงตะโกนบอกบิลลี่ซึ่งตอนนี้สำรวจห้องครัวอยู่ ว่าเดี๋ยวจะส่งกุญแจรถไฟไปให้ทางเครื่องส่งของ ให้หาของที่สามารถเปิดประตูได้ให้เธอหน่อย บิลลี่จึงเดินไปยังเครื่องส่งของที่อยู่ให้ห้องครัวเพื่อไปเอากุญแจรถไฟที่รีเบคก้าส่งมาให้ บิลลี่รู้สึกเซ็งและเดินย้อยกลับไปยังตู้ที่ 2 ซึ่งมีศพของเอ็ดเวิร์ดนอนอยู่ บิลลี่เดินเข้าไปยังห้องพักห้องหนึ่งซึ่งเคยสำรวจมาแล้ว เมื่อเข้ามาแล้วบิลลี่เดินไปยังแผนที่รถไฟที่ติดอยู่ในห้องนั้นและกดสวิทช์สีแดงเพื่อเรียกบันไดลิงขึ้นชั้น 2 ลงมา ก่อนที่จะขึ้นไปบิลลี่หยิบกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะมาอ่านซึ่งมีใจความว่า
------------------------------------------
บันทึกจากคนถือกระเป๋า ( note from conductor )
การ์ดสำหรับใช้ในขบวนขับอยู่ในกระเป๋าผมเสมอ ผมต้องใช้กุญแจเฮงซวยจากคนถืออีกคนเพื่อเปิดนายกระเป๋าใบนี้ แต่ผมดันทำมันหายไปไหนก็ไม่รู้ ถ้ามันเหมือนกุญแจทั่วๆไปก็ดีไป คนอื่นเจอคงเอามาคืนให้ แต่นี่มันไม่ใช่… ผมจะหามันด้วยเหมือนกัน ถ้าคุณเจอล่ะก็ช่วยเอามาคือด้วย ขอบคุณล่วงหน้า
------------------------------------------
บิลลี่คิดว่ากระเป๋าใบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆและมันน่าจะอยู่ในห้องนี้ด้วย บิลลี่เลยลองเปิดตู้ที่อยู่ในห้องดูซึ่งเปิดมาก็พบกับกระเป๋าใบหนึ่ง บิลลี่คิดว่าจะเป็นใบเดียวกันจึงเก็บเอาไว้ด้วย และขึ้นบันไดไปยังห้องอาหารชั้น 2 เมื่อขึ้นมาบิลลี่ก็ได้ยินเสียงของสิ่งมีชีวิตบางอย่างอยู่บนหลังคารถไฟ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากจึงเดินไปยังประตูเพื่อไปยังทางเชื่อม แต่เมื่อเดินไปสุดทางก็พบว่ามีไข่ปลิงจำนวนมากขวางทางอยู่ ทำให้ไปต่อไม่ได้ แต่บิลลี่ก็สังเกตเห็นที่เจาะน้ำแข็งซึ่งตกอยู่แถวนั้น จึงคิดว่าน่าจะใช้งัดประตูห้องได้จึงเก็บไว้ด้วย และเดินเข้าไปยังห้องพักที่อยู่ตรงทางเชื่อมเพื่อสำรวจ เมื่อเข้าไปก็พบกับ Shotgun ซึ่งแขวนไว้บิลลี่จึงนำติดตัวมาด้วยเพราะเขาคิดว่าในตอนนี้มันอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นในการออกไปจากที่นี่ บิลลี่เดินย้อนกลับไปยังห้องอาหารชั้น 2 และแล้วเขาก็ได้พบกับเจ้าของเสียงลึกลับที่ได้ยินในตอนแรก เมื่อจู่ๆดวงไฟก็ตกลงมาเนื่องจากการสั่นสะเทือนอย่างรุนเแรงพร้อมกับเพดานที่ทะลุด้วยการเจาะของก้ามอันมหึมา และแล้วเจ้าแมงป่องยักษ์ก็พุ่งกระโจนลงมาจากหลังคารถไฟ บิลลี่ไม่อาจเลี่ยงการต่อสู้นี้ได้จึงจำเป็นต้องสู้และนึกในใจว่ามันเกิดมาได้อย่างไรกันนะ เจ้าแมงป่องยักษ์ไม่รอช้าพุ่งตัวใส่ บิลลี่อาศัยความคล่องตัวหลบและยิง Shotgun ใส่กลับไป เจ้าแมงป่องยักษ์ตั้งหลักได้ก็พุ่งเข้าใส่บิลลี่ แต่บิลลี่ซึ่งเล็งไว้อยู่แล้วก็ยิงตอบกลับไป และแล้วในที่สุดก็สามารถปราบมันลงได้ แต่ก่อนมันจะตายก็ยังไม่ลดความพยายามสะบัดก้ามไปมาเพื่อต่อสู้ และบิลลี่ก็ได้ยิงซ้ำไปอีกเพื่อหยุดลมหายใจของมัน เมื่อจัดการมันเรียบร้อยบิลลี่จึงกลับลงไปข้างล่าง แต่ก่อนลงก็สังเกตเห็นที่เปิดฝาที่ตกอยู่จึงเก็บไปด้วยเผื่อจะใช้งานอะไรได้บ้าง
แต่บิลลี่ก็สังเกตเห็นที่เจาะน้ำแข็งซึ่งตกอยู่แถวนั้น จึงคิดว่าน่าจะนำไปให้รีเบคก้าใช้งัดประตูห้องได้จึงเก็บไว้ด้วย และเดินเข้าไปยังห้องพักที่อยู่ตรงทางเชื่อมเพื่อสำรวจ เมื่อเข้าไปก็พบกับ Shotgun ซึ่งแขวนไว้บิลลี่จึงนำติดตัวมาด้วยเพราะเขาคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นในการออกไปจากที่นี่ บิลลี่เดินย้อนกลับไปยังห้องอาหารชั้น 2 และแล้วเขาก็ได้พบกับเจ้าของเสียงลึกลับที่ได้ยินในตอนแรก เมื่อจู่ๆดวงไฟก็ตกลงมาเนื่องจากการสั่นสะเทือนอย่างรุนเแรงพร้อมกับเพดานที่ทะลุด้วยการเจาะของก้ามอันมหึมา และแล้วเจ้าแมงป่องยักษ์ก็พุ่งกระโจนลงมาจากหลังคารถไฟ บิลลี่ไม่อาจเลี่ยงการต่อสู้นี้ได้จึงจำเป็นต้องสู้ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันเกิดมาได้อย่างไรกัน เจ้าแมงป่องยักษ์ไม่รอช้าพุ่งตัวใส่ บิลลี่อาศัยความคล่องตัวหลบและยิง Shotgun ใส่กลับไป เจ้าแมงป่องยักษ์ถอยไปตั้งหลักได้ก็พุ่งเข้าใส่บิลลี่อีกครั้ง แต่บิลลี่ซึ่งเล็งไว้อยู่แล้วก็ยิงตอบกลับไป และแล้วในที่สุดก็สามารถปราบมันลงได้ แต่ก่อนมันจะตายก็ยังไม่ลดความพยายามสะบัดก้ามไปมาเพื่อต่อสู้ และบิลลี่ก็ได้ยิงซ้ำไปอีกเพื่อหยุดลมหายใจของมัน เมื่อจัดการมันเรียบร้อยบิลลี่จึงกลับลงไปข้างล่าง แต่ก่อนลงได้สังเกตเห็นที่เปิดฝาที่ตกอยู่จึงเก็บไปด้วยเผื่อจะใช้งานอะไรได้บ้าง จากนั้นบิลลี่ก็ลงบันไดลิงกลับมายังชั้น 1 และเดินย้อยกลับไปยังห้องครัวและส่งที่เจาะน้ำแข็งไปห้องครัวชั้น 2 ให้รีเบคก้าเพื่อใช้เปิดประตู ระหว่างที่บิลลี่รอรีเบคก้าอยู่นั้นก็ได้ใช้ที่เปิดฝาเปิดฝาที่พื้อข้างๆ ตู้แช่แข็ง ทางด้านรีเบคก้าซึ่งนำที่เจาะน้ำแข็งที่บิลลี่ส่งมาให้ไปใช้เปิดประตู จนในที่สุดก็สามารถเปิดประตูได้
และเดินลงมาหาบิลลี่ยังห้องครัวชั้น 1 จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เดินสำรวจจนไปถึงห้องเก็บของหลังรถไฟ รีเบคก้าสังเกตไปยังกรงสุนัขใกล้ๆกับประตูหลังก็ได้พบกับแหวนสีทอง แต่มันดูไม่เหมือนกับแหวนที่คนเขาใส่กัน บิลลี่จึงขอมาดูและนำไปใส่ในช่องของกระเป๋าที่เก็บมาได้ซึ่งใส่ได้พอดี ทำให้บิลลี่ได้เข้าใจบันทึกที่ได้อ่านมา ก่อนที่ทั้งคู่จะไปสำรวจส่วนอื่นของรถไฟบิลลี่ได้สัเกตเห็นปืนยิงฉมวกแต่มันถูกล็อคไว้ บิลลี่จึงบอกให้รีเบคก้าลองกด สวิทช์ที่อยู่ด้านตรงข้าม เมื่อรีเบคก้ากดสวิทช์เสร็จล็อคก็ปลดออกทำให้บิลลี่หยิบปืนยิงฉมวกออกมาได้ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เดินย้อนไปยังตู้โดยสารตู้ที่ 3 รีเบคก้าสังเกตตรงหน้าต่างใกล้ๆ ประตูและมองไปเห็นบันไดลิงอยู่ แต่ทว่ามันอยู่สูงเกินไปจนไม่สามารถขึ้นไปได้ บิลลี่จึงใช้ปืนยิงฉมวกยิงขึ้นไป และบอกให้รีเบคก้ารออยู่ข้างล่าง จากนั้นบิลลี่ก็ใช้ปืนยิงฉมวกดึงตัวเขาขึ้นไปยังหลังคารถไฟ เมื่อบิลลี่ขึ้นมาบนหลังคา ก็ได้เดินสำรวจไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เพดานทะลุ บิลลี่มองลงไไปด้านล่างเห็นห้องพักชั้น 2 ซึ่งในตอนแรกไม่สามารถเข้าไปได้เพราะมันถูกล็อคจากด้านใน บิลลี่ตัดสินใจที่จะลงไปสำรวจ เมื่อลงมาบิลลี่ก็พบกับกล่องอัญมณีใกล้ๆกับตู้ เมื่อเปิดดูก็พบว่าข้างในมีแหวนสีเงินอยู่ ซึ่งบิลลี่ได้นำมาใส่ในช่องของกระเป๋าที่เก็บมาทำให้สามารถเดินออกได้ ข้างในมีการ์ดสีน้ำเงินซึ่งใช่สำหรับเปิดประตูห้องคนขับอยู่ แต่ก่อนออกจากห้องบิลลี่ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง และเมื่อออกมาบิลลี่ก็ได้รู้ว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงของปลิงที่แตกตัวออกมาจากไข่คลานยั้วเยี้ยเต็มชั้น 2 ไปหมด ทำให้บิลลี่ต้องรีบลงไปยังชั้น 1 เมื่อลงมาถึงชั้น 1 บิลลี่ตะโกนเรียกรีเบคก้าให้มายังตู้ที่ 2 เพื่อเปิดประตูล็อคไฟฟ้าเข้าไปยังห้องคนขับด้วยกัน เมื่อรีเบคก้ามาถึงสุดทางเชื่อมที่จะเข้าประตูก็พบศพเอ็ดเวิร์ดนอนอยู่รีเบคก้ามองดูศพเอ็ดเวิร์ดครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเข้าห้องคนขับไปกับบิลลี่
ตัดมาอีกด้านหนึ่งตรงจุดทางเชื่อมก่อนเข้าห้องห้องคนขับมีเหล่า Hunk ยืนรอฟังคำสั่งปฏิบัติงานจากชาย 2 คน นั่นคือ Wesker และ Birkins
ฮังค์ – “ นี่คือทีมเดลต้า ย้ำ นี่คือทีมเดลต้า ขณะนี้เราสามารถควบคุมรถไฟทั้งหมดได้แล้ว ”
เวสเกอร์ – “ เข้าใจแล้วล่ะ ”
เบอร์กิน – “ ไม่มีเหตุผลจริงๆ ทำไมเชื้อไวรัส T จึงแพร่กระจายออกไปทำลายห้อง Lab ข้างนอก แถม
ยังมาถึงรถไฟคันนี้ที่อยู่ไกลออกไปอีกตั้ง 3 ไมล์ได้นะ ”
เวสเกอร์ – “ มันไม่เกี่ยวกันหรอกนะ ยังไงซะเราจะต้องแน่ใจว่าข้อมูลเหล่านี้จะไม่แพร่ออกไปข้างนอกได้
ดังนั้น ทำลายรถไฟซะ ”
เวสเกอร์พูดไปที่ไมล์
เวสเกอร์ – “ ตอนนี้รถไฟอยู่ห่างจากทางแยกเท่าไหร่ ”
ฮังค์ – “ ประมาณ 10 นาที … อ่ะ ”
เวสเกอร์ – “ เกิดอะไรขึ้น! ”
ทว่าไม่ทันที่เหล่าฮังค์จะได้ปฏิบัติงานตามคำสั่ง ฝูงปลิงซึ่งมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ได้เข้าโจมตีพวกเขาจนเสียชีวิตทั้งหมด และกระสุนที่ใช้ยิงปลิงก็มีบางส่วนกระเด็นไปถูกเครื่องยนต์รถไฟด้วย เป็นเหตุให้ขณะนี้ รถไฟไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไปแล้ว
ตัดกลับมาทางด้านรีเบคก้าและบิลลี่ที่พึ่งจะเข้ามาถึงห้องคนขับก็พบว่ารถไฟไม่สามารถควบคุมได้แล้ว และกำลังจะหลุดออกจากรางในไม่ช้า พวกเขาจำเป็นต้องใช้เบรคฉุกเฉิน ซึ่งตัวเปิดระบบทำงานอยู่หลังรถไฟ บิลลี่อาสาที่จะไปเอง รีเบคก้าจึงส่งการ์ดที่ต้องใช้กับระบบเบรคฉุกเฉินซึ่งเก็บได้ในห้องคนขับส่งไปให้ด้วย บิลลี่วิ่งผ่านแต่ละตู้มาเรื่อยๆจนถึงหลังรถไฟ จากนั้นบิลลี่ก็นำการ์ดใส่เข้าไปในเครื่องเปิดระบบเบรคฉุกเฉิน จากนั้นที่เครื่องเบรคฉุกเฉินก็มีปริศนาให้บวกเลขจำนวน 10 หลัก ให้จำนวนรวมตามที่ขึ้นบนหน้าจอ ทางด้านรีเบคก้าซึ่งอยู่ห้องคนขับก็มีปริศนาเช่นเดียวกันขึ้นมาเมื่อทั้งคู้แก้ปริศนาได้ระบบเบรคฉุกเฉินก็เริ่มทำงาน เป็นเหตุให้รถไฟกระตุกอย่างรุนแรงและหลุดกระเด็นออกนอกรางเข้ามายังอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่ง ทั้งบิลลี่และรีเบคก้าต่างกระเด็นออกมานอกตัวรถไฟ รวมทั้งของต่างๆที่วางไว้ในรถไฟก็กระเด็นออกมาด้วย รอบๆตัวทั้งคู่ต่างก็มีไฟลุกไหม้เต็มไปหมด แต่ทั้งคู่ยังปลอดภัยทั้งคู่เดินสำรวจจนไปพบกับประตู ซึ่งเมื่อเข้ามาก็พบว่าเป็นทางระบายน้ำ เมื่อทั้งคู่เดินไปจนสุดทางก็พบบันไดลิงเมื่อปีนขึ้นมาทั้งคู่จะพบกับคฤหาสน์ลึกลับหลังหหนึ่ง ( คาดว่าจะเป็นของ Dr. James Marcus ) และทั้งงคู่ก็สังเกตเห็นรูปขนาดใหญ่กลางห้องโถงรูปหนึ่ง
รีเบคก้ารู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนเคยเห็นชายในภาพที่ไหนมาก่อน
บิลลี่ – “ ผู้จัดการศูนย์คนแรก Dr. เจมส์ มาร์คัส ”
ในขณะที่รีเบคก้า และบิลลี่กำลังจดจ้องไปที่รูปของ Dr. เจมส์ มาร์คัส อยู่นั้น ก็ได้มีคนเฝ้ามองทั้งสองผ่านมอนิเตอร์อยู่
เบอร์กิน – “ คนพวกนี้เป็นใคร ? ”
เวสเกอร์ – “ เธอเป็นแค่สมาชิกใหม่ของหน่วย S.T.A.R.S. น่ะ ”
เบอร์กิน – “ แล้วคนผู้ชายล่ะ ”
เวสเกอร์ – “ ไม่คุ้นหน้าเหมือนกัน ”
แล้วจู่ๆก็มีเสียงลึกลับผ่านลำโพงดังก้องไปทั่งคฤหาสน์
เสียงลึกลับ – “ ทุกคน! นี่คือ Dr. มาร์คัส กรุณาอยู่ในความสงบในระหว่างที่กำลังพูดคติพจน์ของบริษัท
เรา ความเชื่อฟังทำให้เกิดวินัย วินัยทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียว ความเป็นหนึ่งเดียวกันทำให้
เกิดพลัง พลังคือชีวิต! ”
ทันใดนั้นจอที่เวสเกอร์และเบอร์กินใช้สังเกตการณ์ก็ช็อตและเปลี่ยนเป็นภาพของชายลึกลับคนหนึ่ง
เวสเกอร์ – “ แกเป็นใคร ? ”
ชายลึกลับ – “ ข้าเป็นคนปล่อยเชื้อไวรัส T ไปในคฤหาสน์เอง รวมถึงบนรถไฟด้วย ”
เบอร์กิน – “ อะไรนะ ? ”
ชายลึกลับ – “ การแก้แค้น … Umbrella ”
ชายลึกลับได้ร้องเพลงเรียกฝูงปลิงจำนวนมาก และแล้วฝูงปลิงเหล่านั้นก็รวมร่างขึ้นมาใหม่เป็นชายแก่คนหนึ่ง
เบอร์กิน – “ Dr. มาร์คัส!? ”
ชายลึกลับ – “ เมื่อสิบปีก่อน Dr. มาร์คัสถูกอัมเบลล่าลอบสังหาร โดยที่พวกแกเป็นคนทำไม่ใช่เหรอ ? ”
เบอร์กิน , เวสเกอร์ – “ ฮึ่ม ”

ตัดมาทางด้านรีเบคก้าและบิลลี่ซึ่งทั้งสองได้เดินไปทางระเบียงห้องโถงฝั่งซ้ายและเดินเข้ามายังห้องๆหนึ่งซึ่งห้องนั้นมืดมาก รีเบคก้าเดินไปยังตู้กระจกและหยิบที่หมุนออกมา แต่เมื่อหยิบออกมาก็มีฝูงกาจำนวนมากพุ่งเข้ามานอกหน้าต่างกระจกและตรงเข้าทั้งร้ายทั้งคู่ แต่ก็ไม่เป็นปัญหามากนัก เมื่อจัดการมันได้บิลลี่ก็พบกระดาษใบหนึ่งซึ่งบันทึกข้อความไว้ว่า
-----------------------------------------------------
ข้อแนะนำพนักงานทุกคน
( ข้อมูลนี้ดูเก่า และส่วนมากไม่สามารถอ่านได้ )
จะมีการจัดประชุมสามัญเกี่ยวกับการค้นคว้า วัคซีนและโรคติดต่อโดยทั้งสองงานถือเป็นความหนาแน่ระดับ 5 และจะจัดตามสถานที่ดังต่อไปนี้
ชั้นที่ 1 ห้องควบคุมการทำงานด้านตะวันตก
ชั้นที่ 2 ห้องประชุมทางด้านตะวันออกเฉียงใต้
รหัสที่ต้องป้อนคือ “8:15”
ด้วยความขอบคุณ
-----------------------------------------------------
เมื่ออ่านจบทั้งคู่ก็ออกมาจากห้องและเดินมาทางประตูขวาชั้น 1 ในห้องโถงซึ่งเป็นฝั่งของห้องอาหารจนกระทั่งไปถึงห้องเก็บของศิลปะ เมื่อสำรวจดูข้างในก็ไม่พบของที่มีประโยชน์ แต่รีเบคก้ามองไปเห็นรูปปั้นสีดำซึ่งวางสะดุดตาอยู่จึงหยิบติดมือมาด้วย ส่วนบิลลี่เดินไปสำรวจจนสุดห้องก็พบกับบันไดลิงจึงเรียกรีเบคก้าให้ขึ้นไปด้วยกัน ทั้งคู่ขึ้นมาโผล่ที่ระเบียงนอกคฤหาสน์ ทั้งคู่เดินไปสุดระเบียงและเข้าประตูอีกฝั่ง จึงได้มาโผล่ที่ห้องประชุม ทั้งคู่ไม่พบอะไรเลยในห้องนี้จึงเดินเข้าประตูเล็กออกมายังทางเชื่อม และได้เข้าไปในห้องๆหนึ่งซึ่งก็คือห้องหนังสือนั่นเอง ภายในห้องก็พบกับแผ่นฟิลม์กับแผนที่คฤหาสน์มา รีเบคก้าเดินไปพบกับลิฟต์ตัวหนึ่ง จึงให้บิลลี่นำที่หมุนใส่เข้าไปและหมุนลิฟต์ขึ้นไปส่วนตัวเธอจะอยู่ในลิฟต์ขึ้นไปสำรวจด้านบน ลิฟต์พารีเบคก้ามายังห้องนาฬิกา แต่ไม่พบอะไรเธอจึงเดินออกมาจากห้องมาโผล่ยังลานน้ำพุ และเข้าประตูอีกฝั่งไปซึ่งเป็นลานกว้างอยู่ รีเบคก้าเดินลงบันไดไปยังประตูๆหนึ่งซึ่งถูกล็อคจากด้านใน เมื่ออกมาก็ว่าประตูนี้ก็คือประตูแรกบนระเบียงฝั่งขวาในห้องโถง รีเบคก้าจึงตะโกนเรียกบิลลี่ให้มาหา และทั้งคู่ก็เดินไปสำรวจห้องลานกว้างด้วยกัน รีเบคก้าพบกรงซึ่งครอบกุญแจเอาไว้ รีเบคก้าจึงให้บิลลี่ไปหมุนเครื่องดึงโซ่เพื่อดึงกรงขึ้นมาและเธอจะรีบวิ่งเข้าไปเอากุญแจ เมื่อเธอเข้าไป Webmasterกุญแจก็มีตะขาบยักษ์พุ่งออกมาจากท่อและจับตัวรีเบคก้าไป ทำให้บิลลี่ต้องวิ่งตามไปยิงตะขาบยักษ์ไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็จัดการกับมันได้
ทั้งคู่เดินไปสุดระเบียงและเข้าประตูอีกฝั่ง จึงได้มาโผล่ที่ห้องประชุม ทั้งคู่ไม่พบอะไรเลยในห้อง นี้พบแต่คอมพิวเตอร์ที่ไม่สามารถใช้งานได้ที่แท่นประธาน ทั้งคู่จึงเดินเข้าประตูเล็กออกมายังทางเชื่อม และได้เข้าไปในห้องๆหนึ่งซึ่งก็คือห้องหนังสือนั่นเอง ภายในห้องก็พบกับแผ่นฟิลม์กับแผนที่คฤหาสน์มา รีเบคก้าเดินไปพบกับลิฟต์ตัวหนึ่ง จึงให้บิลลี่นำที่หมุนใส่เข้าไปและหมุนลิฟต์ขึ้นไปส่วนตัวเธอจะอยู่ในลิฟต์ขึ้นไปสำรวจด้านบน ลิฟต์พารีเบคก้ามายังห้องนาฬิกาซึ่งนาฬิกาในห้องยังขาดเข็มอยู่ แต่ไม่พบอะไรเธอจึงเดินออกมาจากห้องมาโผล่ยังลานน้ำพุ และเข้าประตูอีกฝั่งไปซึ่งเป็นลานกว้างอยู่ รีเบคก้าเดินลงบันไดไปยังประตูๆหนึ่งซึ่งถูกล็อคจากด้านใน เมื่ออกมาก็ว่าประตูนี้ก็คือประตูแรกบนระเบียงฝั่งขวาในห้องโถง รีเบคก้าจึงตะโกนเรียกบิลลี่ให้มาหา และทั้งคู่ก็เดินไปสำรวจห้องลานกว้างด้วยกัน รีเบคก้าพบกรงซึ่งครอบกุญแจเอาไว้ รีเบคก้าจึงให้บิลลี่ไปหมุนเครื่องดึงโซ่เพื่อดึงกรงขึ้นมาและเธอจะรีบวิ่งเข้าไปเอากุญแจ เมื่อเธอเข้าไปหยิบกุญแจก็มีตะขาบยักษ์พุ่งออกมาจากท่อและจับตัวรีเบคก้าไป ทำให้บิลลี่ต้องวิ่งตามไปยิงตะขาบยักษ์ไปเรื่อยๆ และในที่สุดก็จัดการกับมันได้ เมื่อบิลลี่ช่วยรีเบคก้ามาได้ทั้งคู่จำสำรวจบริเวณรอบๆต่อ รีเบคก้าเดินไปที่บันไดเห็นประตูห้องอยู่จึงเดินเข้าไปข้างในซึ่งดูเหมือนจะเป็นห้องศิลปะ และเธอก็ได้พบกับรูปปั้นสีขาวที่คล้ายกับรูปปั้นสีดำเธอจึงเก็บมาด้วย และใกล้กันนั้นก็มีปืน Grenade Launcher ด้วยเธอจึงเก็บติดตัวไว้ใช้ และกลับไปหาบิลลี่ จากนั้นทั้งคู่ได้กลับไปห้องอาหารและเข้าไปในห้องครัวโดยใช้กุญแจที่ได้มาเข้าไปสำรวจพบกับน้ำมันไฟแช็กจึงนำมันมาเติมให้กับไฟแช็กของเขา จากนั้นทั้งคู่เดินไปยังห้องหนังสือเพราะในห้องมีประตูที่ในตอนแรกยังเข้าไปไม่ได้อยู่อีก 2 บาน เมื่อไปถึงบิลลี่จึงนำกุญแจที่ได้มาไปเปิดดู ได้ผลประตูเปิดออกข้างในดูเหมือนจะเป็นห้องทำงานมีหัวกวางแขวนสะดุดตาอยู่และที่หัวกวางก็มีเข็มนาฬิกาอยู่ด้วย ทำให้รีเบคก้านึกขึ้นมาได้ว่านาฬิกาในห้องนาฬิกาจึงขาดเ



คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
nobomachine
#4
22-05-2010 - 15:04:34

#4 nobomachine  [ 22-05-2010 - 15:04:34 ]




เจอสาวกเข้าแล้วววววววววววววววววววววววววววววววว


ชอบจิลที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

แต่เอาอั้นนั้นมาอย่าลืมเครดิตนะ


umaporn
#5
22-05-2010 - 15:23:10

#5 umaporn  [ 22-05-2010 - 15:23:10 ]






ข้อมูลทั้งหมด ขอขอบคุณทาง Thaibiohazard.com ด้วยนะคะ

ขอบคุณที่เตือนนะคะ คุณ nobomachine



คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
umaporn
#6
22-05-2010 - 15:28:19

#6 umaporn  [ 22-05-2010 - 15:28:19 ]






quote : nobomachine
เจอสาวกเข้าแล้วววววววววววววววววววววววววววววววว


ชอบจิลที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

แต่เอาอั้นนั้นมาอย่าลืมเครดิตนะ




ใครก็ได้ เอาจิล ผมน้ำตาล คนเดิมกลับมาที เพราะผมทองเราคิดว่าจิลดูแก่มากกว่าเดิมเลยอ่ะ

เซ็งจิต ตรงมีเชวา มาดันน้องจิลตกทาง เอาพี่คริสไปครอง โชคดีไปที่เป็นคริส

อย่ามายุ่งกับพี่ลีออน ของฉันแล้วกัน

พูดแล้วไปจัดการยายแองเจลล่าก่อน บังอาจมาจูจุ๊บพี่ลีออนของฉันในใต้น้ำได้ไง นั่นแฟนฉันนะ +555


ล้อเล่นนะ ข้อความข้างบน ขอโทษแฟนคลับ ของแต่ละคนด้วยนะคะ อิอิ



คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
nobomachine
#7
22-05-2010 - 16:52:17

#7 nobomachine  [ 22-05-2010 - 16:52:17 ]




อ่า เราก็สมาชิกthaibiohazardเหมือนกัน

ใช่ผมไม่ชอบจิลผมทอง ชอบน้ำตาล ภาคUCคือภาคที่รวมตัวละครหน้าตาดีที่สุด

ยิ่งจิลนะ สุโค่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ชอบจิลมากที่สุด รองมาก็แคลย์

Ps.หมันไส้ลีออน ออกเกม,หนัง มากกว่าคริสอีก

แต่เราเชียร์ลีออน-เอด้า คริส-จิล เมื่อไหร่จะครองรักกันได้สักทีTT


umaporn
#8
22-05-2010 - 18:26:34

#8 umaporn  [ 22-05-2010 - 18:26:34 ]






quote : nobomachine
อ่า เราก็สมาชิกthaibiohazardเหมือนกัน

ใช่ผมไม่ชอบจิลผมทอง ชอบน้ำตาล ภาคUCคือภาคที่รวมตัวละครหน้าตาดีที่สุด

ยิ่งจิลนะ สุโค่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ชอบจิลมากที่สุด รองมาก็แคลย์

Ps.หมันไส้ลีออน ออกเกม,หนัง มากกว่าคริสอีก

แต่เราเชียร์ลีออน-เอด้า คริส-จิล เมื่อไหร่จะครองรักกันได้สักทีTT



มาว่าสุดหล่อเค้าทำไมอ่ะ อิอิ

แต่เราอยากให้ลีออน คู่กับแคลร์มากกว่าอ่ะ แต่คงเป็นไปไม่ได้มั้งนะ

เพราะรู้สึกว่าลีออน จะสนใจเอด้ามากกว่า

แต่ทางที่ดี เอาเจ๊แองเจลล่าออกไปก่อนดีกว่ามะ



คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
manya456
#9
22-05-2010 - 19:31:31

#9 manya456  [ 22-05-2010 - 19:31:31 ]





จะตั้งไม่บอกกัน....ๆๆๆ แฟนพันทธ์แท้เลยน่ะะะ

ผมชอบ เวสเกอร์ภาค 5 ไม่น่าเลย



*ภาค 1 เหมือนแต่งคอสเพลมากกว่า


umaporn
#10
22-05-2010 - 19:39:37

#10 umaporn  [ 22-05-2010 - 19:39:37 ]






quote : manya456
จะตั้งไม่บอกกัน....ๆๆๆ แฟนพันทธ์แท้เลยน่ะะะ

ผมชอบ เวสเกอร์ภาค 5 ไม่น่าเลย



*ภาค 1 เหมือนแต่งคอสเพลมากกว่า



นั่นซิคะ โทษทีที่ไม่ได้บอก เพราะว่าเราก็มือใหม่หัดโพส อ่ะนะ

เวสเกอร์ก็ชอบนะ แต่หลังๆๆ พี่แก เดอะ แมททริกซ์มากอ่ะ

เล่น RE5 แล้ว ยิงพี่แกนี่ เปลืองกระสุนเล่น จริงๆๆ เลยอ่ะ

AEIAEIIZ


คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
umaporn
#11
22-05-2010 - 19:44:53

#11 umaporn  [ 22-05-2010 - 19:44:53 ]






ขอบคุณข้อมูล จากคุณAlasdair Lo จากwww.gamefaqs.com


RESIDENT EVIL 3

ทั้งหมดมันเริ่มขึ้นจากวันธรรมดาๆในเดือนกันยายน วันธรรมดาๆในเมืองRaccoon เมืองที่ถูกควบคุมโดยUmbrella ไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับพวกมัน และนั่น การไร้พลังความแข็งแกร่งจะทำให้สุดท้ายแล้วนำไปสู่การทำลายล้างของพวกเขา ฉันคิดว่าพวกมันคงพ่ายแพ้ในภายหลังจากการกระทำของพวกมันเอง และจะไม่มีการยกโทษให้อีกต่อไป แค่เพียงพวกเขากล้าที่จะสู้ แต่ในความเป็นจริง กงล้อแห่งความยุติธรรมกำลังเริ่มหมุนกลับ ไม่มีอะไรที่หยุดพวกมันได้ ไม่มีเลย!
มันคือโอกาสสุดท้ายของเมืองRaccoon และโอกาสสุดท้ายของฉัน การหนีครั้งสุดท้ายของฉัน

(ไวรัสระบาดทั่วทั้งเมืองRaccoon ชาวเมืองรวมทั้งสิ่งมีชีวิตทุกชนิดกำลังเปลี่ยนสภาพกลายเป็นซอมบี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจR.P.D.และหน่วยพิเศษของเมืองได้เข้ามาจัดการเรื่องนี้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานกองทัพซอมบี้ได้ ในขณะเดียวกันทางUmbrellaก็ได้ส่งหน่วยU.B.C.S.(Umbrella Biohazard Countermeasure Service)เข้ามาควบคุมสถานการณ์ในเมืองนี้ แต่ก็ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จ พวกเขาทั้งหมดไม่อาจต้านทานกองทัพซอมบี้ที่มีจำนวนมากกว่าได้ เมืองทั้งเมืองจึงเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเมืองซอมบี้)

[ช่วงเย็นที่ยังเห็นแสงตะวันของวันที่ 28 กันยายน 1998]
(ที่แมนชั่นที่พักของJillเกิดการระเบิดขึ้น Jillกระเด็นเพราะแรงระเบิดมาที่ทางเดินในซอยเล็กๆซอยหนึ่ง เธอรีบยิงกลุ่มซอมบี้ที่อยู่บริเวณนั้นแล้วรีบวิ่งออกจากซอย เมื่อออกจากซอยแล้วเธอเจอฝูงซอมบี้อีกฝูงเข้ามารุมล้อมเธอ เธอสังเกตเห็นประตูที่อยู่ข้างหลังตัวเธอ เธอจึงใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่พังประตูเข้าไปแล้ววิ่งหนีฝูงซอมบี้เข้าไปในทางเดินแคบๆที่เป็นซอย)
เสียงของJill: วันที่ 28 กันยายน มีสัตว์ประหลาดอยู่เต็มทั่วเมือง แต่ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฉันยังมีชีวิตอยู่....
(Jillวิ่งไปตามทางจนเข้ามาในโรงงานแล้วเจอกับชายคนหนึ่ง เขาชื่อDario Rosso เสื้อผ้าเขาขาดรุ่งริ่ง)
Jill: เอาล่ะ... เราต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่
Dario: อะไรนะ? นี่เธอพูดอะไรของเธอ? ตอนนี้ฉันเสียลูกสาวของฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางกลับออกไปอีกหรอก!
Jill: ฉันเสียใจเรื่องลูกสาวคุณนะ แต่เราไม่มีวิธีอื่นนอกจากหนีออกไปจากที่นี่
Dario: ไม่... เชิญเธอไปคนเดียวสิ ฉันไม่มีทางออกไปเป็นอาหารของพวกซอมบี้หรอก ฉันอยู่คนเดียวได้!
(เขาวิ่งไปหลบที่ตู้หลังรถบรรทุกโดยที่Jillตามไปไม่ทัน เธอจึงไปที่ห้องหนึ่งเพื่อหากุญแจประตูหลังของโรงงาน)

(Jillหากุญแจประตูหลังเจอ เธอจึงออกไปข้างหลังได้ เธอจึงเดินไปตามทางเดินแคบๆในซอย แล้วเจอผู้ชายคนหนึ่งวิ่งออกจากประตูด้านขวามือที่อยู่ข้างหน้าเธอ เขาวิ่งหนีซอมบี้ออกมา เธอจำได้ว่าเขาคือBrad Vickers เธอรีบยิงซอมบี้ที่ตามเขาและวิ่งตามเขาไปจนถึงหน้าบาร์แห่งหนึ่ง Jillได้ยินเสียงแปลกๆจึงเดินเข้าไปในบาร์ เธอเห็นBradถูกซอมบี้ตัวหนึ่งทำร้ายอยู่ เธอยิงมันเพื่อช่วยเขา Bradได้รับบาดเจ็บพอสมควร)
Jill: Brad ทนไว้นะ ทำไมไม่มีใครมาทำอะไรกับเรื่องนี้เลยนะ?
Brad: ผมไม่รู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ Jill พวกตำรวจไม่ได้ถูกฝึกมาให้เจอกับสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาจะทำอะไรกันได้? ฟังนะ มันมาตามล่าพวกเรา เราทั้งคู่ก็จะตาย!
Jill: นี่คุณกำลังพูดเรื่องอะไรเนี่ย?
Brad: เธอก็เห็นนี่ มันตามล่าพวกสมาชิกหน่วยS.T.A.R.S. เราไม่มีทางหนีมันพ้น!
(Bradวิ่งหนีออกจากบาร์ไป Jillพบปืนลูกซองในร้านจึงหยิบขึ้นมา)

(Jillรีบวิ่งไปที่สถานีตำรวจ เมื่อเธอเปิดประตูใหญ่เดินเข้าไปซักพัก จากนั้นBradก็รีบวิ่งเข้ามาทางประตูใหญ่ เขากุมแผลที่หน้าอกวิ่งเข้ามาด้วยความกลัวพร้อมกับตะโกนเรียกJill)
Brad: Jill! Jill! Jill!
Jill: Brad!
(Nemesisกระโดดโผล่มาจากทางไหนไม่รู้มาอยู่ข้างหน้าBrad)
Jill: โอ้ ไม่นะ!
(NemesisเดินไปหาBrad)
Brad: Jill! ช่วยด้วย!
(Nemesisใช้หนวดอันใหญ่ของมันพุ่งทะลุหน้าBrad)
Jill: ไม่นะ Brad!
(NemesisโยนศพBradออกไป Jillมองไปที่ศพBradแล้วร้องอุทานออกมา Nemesisเดินตรงเข้ามาหาJill)
Nemesis: ...หน่วยS.T.A.R.S....
(JillรีบยิงNemesisจนล้มลงไป จากนั้นเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในสถานีตำรวจ)

(Jillเข้าไปในห้องทำงานของหน่วยS.T.A.R.S.เพื่อเอาอุปกรณ์สะเดาะล็อคกุญแจ และเจอปืนMagnumและปืนGrenade Launcherในห้อง เมื่อเธอกำลังจะออกจากห้อง ก็มีข้อความแฟ็กซ์เข้ามา หลังจากนั้นก็มีคนวิทยุติดต่อเข้ามาในห้องซึ่งมีเครื่องควบคุมวิทยุขนาดใหญ่อยู่)
เสียงวิทยุ: ฮัลโหล....... หน่วยของผมขาดการติดต่อไป... หน่วยS.T.A.R.S.ไม่มีใครรอดชีวิตเลย...... ผมชื่อCarlos.......... ใครได้ยินผมแล้วก็ช่วยตอบกลับด้วย.......
(วิทยุดับไป Jillจึงออกจากห้อง ขณะที่Jillลงบันไดในสถานีตำรวจไปยังชั้นล่าง เธอเจอกับNemesisอีกครั้ง เธอรีบยิงมันจนล้มลงไป เธอรีบวิ่งออกจากสถานีตำรวจ)

(ขณะที่Jillวิ่งอยู่บนถนนนอกร้านอาหาร เธอได้ยินเสียงปืนดังขึ้นและเห็นทหารรับจ้างหน่วยU.B.C.S.กำลังยิงซอมบี้)
ทหารหน่วยU.B.C.S. (ตะโกน): ไอ้ตัวระยำ!
(เขาวิ่งเข้าไปในร้านอาหาร Jillวิ่งตามเขาไปในนั้นแต่ก็ไม่เจอใคร เธอเจอแต่ห้องครัวที่มีถังแก็สเปิดแก๊สทิ้งไว้ทุกถัง Jillใช้กุญแจผีเปิดตู้เก็บของที่อยู่หลังร้านจะได้ชะแลง เธอจึงลองเปิดฝาท่อ ในตอนนั้นเองที่ทหารรับจ้างหน่วยU.B.C.S.คนนั้นก็เดินเข้ามาในร้านอาหารพอดี)
Jill: นั่นอะไรน่ะ?
Carlos: ใจเย็นๆคุณผู้หญิง ผมไม่ใช่ซอมบี้นะ ผมชื่อสิบโทเคโรโระ? ม่ายช่าย! ผมชื่อCarlos Oliveira สิบโทหน่วยอ๊บอ๊บป่วนโลก แล้วคุณล่ะชื่ออะไร?
Jill: ฉันชื่อJill Valentine เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณเป็นคนของUmbrellaใช่มั้ย?
Carlos: ใช่แล้ว เรามาที่นี่เพื่อช่วยพลเรือนอย่างคุณ แต่ภารกิจนี้เริ่มแย่ตั้งแต่นาทีแรกที่มาถึงที่นี่แล้ว
(ไม่ทันที่Carlosจะพูดอะไรต่อ Nemesisก็เข้ามาในร้านอาหารจากทางประตูหลัง)
Jill: เฮ้ย มันหาฉันเจอได้ยังไงเนี่ย?
(JillพาCarlosวิ่งไปหลบหลังเคาน์เตอร์ จากนั้นเธอก็หยิบตะเกียงน้ำมันที่อยู่บนเคาน์เตอร์ปาเข้าไปในบริเวณถังแก๊สที่เปิดทิ้งไว้อยู่ เธอปามันไปแล้วรีบก้มตัวลงหลบหลังเคาน์เตอร์ ตะเกียงน้ำมันไปเจอกับแก๊ส ร้านอาหารเกิดการระเบิดขึ้น Nemesisกระเด็นเพราะแรงระเบิดสลบไป Carlosลุกขึ้นมาพร้อมกับJillพร้อมกับต่อว่าเธอ)
Carlos: นี่คุณบ้าหรือเปล่าเนี่ย? คุณจะย่างเราเป็นบาร์บีคิวทั้งคู่แล้วนะ!
(ทั้งคู่รีบวิ่งไปที่ประตูหลังก่อนNemesisจะฟื้น เมื่อพวกเขาออกไปทางประตูหลังแล้ว พวกเขาอยู่ในทางเดินข้างหลังร้านอาหารที่เป็นทางสองข้างสำหรับเป็นร้านขายของได้)
Jill: ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยเถอะ ทำไมUmbrellaถึงส่งทีมคุณมาที่นี่?
Carlos: ภารกิจของพวกเราคือช่วยเหลือพลเรือน
Jill: ใจดีจังนะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฝีมือของUmbrellaทั้งนั้น พวกนั้นโกหกทั้งเพ!
Carlos: ดูซะ เราเป็นแค่ทหารรับจ้างที่ถูกจ้างมา
(ทันใดนั้นเกิดเสียงทุบประตูดังขึ้น)
Carlos: ไม่มีเวลามาคุยกับคุณแล้ว ถ้าคุณเชื่อผมก็มาด้วยกัน คิดให้ดีนะ!
(Carlosวิ่งจากไปทิ้งJillไว้คนเดียว Jillยืนคิดซักพักนึงจึงเดินออกมา)

(Jillเดินไปเรื่อยๆจนอยู่บนถนนหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ เธอเจอกับNemesis เธอจึงรีบวิ่งไปหลบที่ศาลากลางของเมือง เมื่อเธอวิ่งเข้าไปในนั้นแล้วเดินไปตามทางเรื่อยๆจนเจอกับรถไฟเคเบิ้ลที่จอดอยู่)

(เมื่อJillเดินเข้าไปในตัวรถจะเห็นว่ารถขาดสายแบตเตอรี่ ฟิวส์ และน้ำมัน เธอพบกับทหารU.B.C.S. เขาคือสิบเอกคุรูรุ)
Jill: คุณคือหนึ่งในทีมช่วยเหลือที่ยังรอดชีวิตใช่มั้ย? ฉันเพิ่งเจอกับเพื่อนร่วมทีมของคุณที่ชื่อCarlos
Nicholai: ผู้หญิงอย่างคุณรอดมาได้ยังไงเนี่ย?
Jill: เฮ้ ฉันไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปนะ ฉันเป็นสมาชิกหน่วยS.T.A.R.S.
Nicholai: หน่วยS.T.A.R.S.? คุณหมายถึงหน่วยจู่โจมพิเศษของตำรวจR.P.D.เหรอ?
(ทันใดนั้นJillได้ยินเสียงคนร้องด้วยความเจ็บปวด)
Jill: มีคนบาดเจ็บอยู่ข้างหลังใช่มั้ย?
(Jillเดินไปสุดตู้รถไฟ และเห็นร้อยโทการูรุบาดเจ็บอยู่)
Jill: โอ้ มันแย่มากเลยนะ
Mikhail: พวกมันกำลังมา เตรียมพร้อมยิงมัน ยิงมัน! สามัคคีกันไว้!
Jill: ใจเย็นๆ ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่ๆ
(Jillเดินเข้าไปที่ตู้อื่นแล้วเจอกับCarlos)
Carlos: Jill คุณตัดสินใจที่จะช่วยพวกเราออกไปแล้วใช่มั้ย? ดูเหมือนว่าเราเป็นเพียงคนกลุ่มเดียวที่ยังรอดชีวิต เราต้องร่วมมือกันแล้วล่ะ
Nicholai: ไม่ เราไม่ไว้ใจเธอ
Carlos: ทำไมล่ะ? แต่ท่านสิบเอกครับ เราต้องการความช่วยเหลือจากเธอ กลุ่มของเราเหลือแค่คุณ ผม และก็ร้อยโทMikhail แต่Mikhailบาดเจ็บหนัก ถ้าเราไม่ร่วมมือกัน เราก็จะไม่สามารถออกจากที่นี่ได้!
Nicholai: ก็ได้ ทำตามแผนของเรา เราจะไปที่หอนาฬิกาซึ่งเป็นที่ที่มีพื้นที่สำหรับเฮลิคอปเตอร์ลงจอด เมื่อเราไปถึงเฮลิคอปเตอร์จะบินมารับเราออกไปจากเมือง
Carlos: แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกไฟไหม้ปกคลุม ผมไม่มั่นใจว่าเราจะยืนบนนั้นกันได้
Nicholai: ปัญหาหลักคือเราพื้นที่ที่เราจะไปถูกตัดขาดออกมาด้วยไฟ เราไม่มีทางเลือกนอกจากใช้รถไฟเคเบิ้ลคันนี้เคลื่อนที่ไปที่นั่น ถ้าโชคดี มันอาจจะช่วยเป็นเกราะกำบังพวกเราจากไฟที่อยู่ในที่นั่นได้
Carlos: ฟังดูแล้วเป็นแผนที่ดีนะครับ
Nicholai: โอเคนะทุกคน แยกย้ายไปกันได้
Carlos: Jill คุณเอานี่ไป
(Carlosให้กระเป๋าใส่ของแก่Jill เธอเดินออกมาจากรถไฟ)

(Jillวิ่งไปที่รถยนต์ที่จอดแถวนั้นเพื่อถอดเอาสายแบตเตอรี่ออกมา จากนั้นเธอก็วิ่งไปเอาประแจมาจากร้านค้าเพื่อมาไขเปิดประตูเข้าไปในร้านขายของของสถานีเติมแก๊ส เมื่อเธอเดินเข้าไปในนั้น Carlosก็เดินตามเข้ามา)
Carlos: เฮ้ Jill ซอมบี้พวกนั้นเห็นแล้วน่ารำคาญเนอะ
Jill: ฉันรู้ ฉันได้ยินเสียงพวกมัน เกิดอะไรขึ้น?
(Jillเดินไปที่เคาน์เตอร์)
Carlos: Jill!
Jill: เกิดอะไรขึ้น?
Carlos: พวกมันมากันแล้ว! พวกมันต้องได้กลิ่นพวกเราแน่เลย! พวกมันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่!
Jill: ใจเย็นๆ!
Carlos: (ถือปืนAssault Rifle(ปืนRifleจู่โจม)ในท่าเตรียมพร้อม) สงสัยได้เวลาพระเอกออกโรงแล้วล่ะมั้ง?
Jill: คุณจะทำอะไรน่ะ? Carlos!
(Carlosวิ่งออกไปสู้กับซอมบี้ Jillรีบปลดล็อกรหัสของเครื่องจ่ายน้ำมัน)

(Jillปลดล็อครหัสสำเร็จ เครื่องจ่ายน้ำมันทำงาน เธอรีบเอาแกลลอนไปรองได้น้ำมันสำหรับเครื่องจักรขนาดเล็กมา ทันใดนั้นเกิดประกายไฟขึ้นจากที่ซ่อมรถทำให้ไฟไหม้รอบๆ Jillเห็นว่าไฟกำลังไหม้ที่นี่ เธอจึงรีบวิ่งออกจากสถานีเติมแก๊ส เมื่อเธอออกมาพ้นประตู เธอพบCarlosที่ดูเหมือนตายแล้ว)
Jill: Carlos! ไม่นะ!
Carlos: ใจเย็นๆ ผมยังไม่ตายซะหน่อย
Jill: คุณไม่เป็นไรนะ?
Carlos: ผมไม่เป็นไร พระเอกคนนี้ตายยากกว่าที่เห็น
(ทั้งคู่รีบวิ่งออกจากที่นั่น จากนั้นสถานีเติมแก๊สก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง)
Carlos: โอ้ย หูผมมีเสียงดังไปหมด เราทั้งคู่หูอื้อแล้วแน่ๆ เอาล่ะ ผมจะไปรวมของที่จำเป็นซะหน่อย จะได้ไม่มีปัญหาเวลาไปถึงจุดหมาย
(Carlosวิ่งจากไป)

(Jillวิ่งไปที่สถานีย่อยที่อยู่ในบริเวณสถานที่ก่อสร้าง เธอรีบไปที่ห้องจ่ายไฟแล้วปรับระดับกระแสไฟฟ้า ทันใดนั้นมีซอมบี้กลุ่มหนึ่งเข้ามา เธอจึงตัดสินใจเพิ่มระดับกระแสไฟฟ้าช๊อตพวกมันทั้งหมด จากนั้นเธอก็เปิดห้องที่อยู่แถวนั้นแล้วเจอฟิวส์ขนาดใหญ่ จากนั้นเธอรีบออกจากที่นั่นมุ่งหน้าไปหาน้ำมันเครื่องจักรขนาดใหญ่เป็นสิ่งสุดท้าย)

(Jillวิ่งไปที่ตึกสำนักงานขาย เธอเจอกับNicholaiกำลังจะยิงทหารU.B.C.S.คนหนึ่งที่ชื่อMurphy Seeker)
Jill: อย่ายิง!
(ทันใดนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น)
Jill: คุณทำอะไรเนี่ย?
Nicholai: ผมไม่มีทางเลือก เขากำลังจะเปลี่ยนเป็นซอมบี้ มันเป็นวิธีเดียวที่ทำได้ ผมจึงต้องกำจัดเขา
Jill: แต่เขายังมีสติอยู่ไม่ใช่เหรอ?
Nicholai: เขากำลังจะเปลี่ยนเป็นซอมบี้เต็มทีแล้ว ยิงเพื่อฆ่าเขาตอนนี้ดีกว่าปล่อยให้เขาเป็นซอมบี้แล้วนะ
(Nicholaiเดินจากไป จากนั้นJillเจอเอกสารบนโต๊ะบอกว่าให้ใส่รหัสเปิดประตูห้องเก็บของในคอมพิวเตอร์ เธอไม่รู้รหัสแต่เห็นโฆษณาที่โทรทัศน์จึงเอาชื่อสินค้าจากโฆษณาใส่ลงไป แล้วรหัสก็ผ่าน จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในห้องเก็บของ ทันใดนั้นหน้าต่างในห้องก็แตก มีฝูงซอมบี้บุกเข้าพร้อมเสียงร้องของNicholai)
Nicholai: ไม่!
(Jillรีบยิงซอมบี้ทั้งหมด แล้ววิ่งไปเอาน้ำมันเครื่องจักรขนาดใหญ่ จากนั้นเธอก็รีบออกจากตึกนั้น เพื่อมุ่งหน้าไปยังรถไฟเคเบิ้ล ระหว่างทางที่ไป เธออยู่ในลานจอดรถแห่งหนึ่งก็เกิดแผ่นดินไหว จากนั้นพื้นก็ถล่มลงมาเป็นรู Jillตกลงไปในหลุมนั้นแต่เธอก็เกาะพื้นไว้ได้ ทันใดนั้นมีลังไม้กำลังหล่นลงมาจะทับ เธอรีบกระโดดขึ้นและหลบลังไม้ได้แบบหวุดหวิด)

(Jillซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปที่รถไฟเคเบิ้ล ระหว่างทางเธออยู่ในลานกว้างแห่งหนึ่ง เกิดแผ่นดินไหวอีกครั้ง พื้นสะเทือนเป็นหลุมแล้วJillก็ตกลงไป เธอเห็นหนอนยักษ์อยู่ข้างล่าง Jillรีบวิ่งหนี เธอเจอสวิตช์เข้าเลยลองกด จากนั้นมีบันไดลงมาจากข้างบน เธอรีบปีนบันไดขึ้นแล้ววิ่งหนีไป)

(Jillวิ่งไปถึงรถไฟเคเบิ้ล เธอเห็นMikhailกำลังยิงพวกซอมบี้ เธอรีบช่วยเขายิงซอมบี้)
Jill: คุณยังบาดเจ็บอยู่นะ
Mikhail: ผมไม่อยากเป็นตัวถ่วงที่อยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย
Jill: ช่างมันเถอะ ยังไงซะคุณควรจะพักผ่อน
(Jillช่วยพาMikhailพยุงตัวเข้าไปในรถแล้วเอาอุปกรณ์ทุกอย่างต่อเชื่อมวงจร Carlosเดินตามเข้ามา)
Carlos: ดูเหมือนเราพร้อมที่จะไปกันแล้วนะ อ่ะนี่ คุณเอาไปเถอะ
(Carlosให้กระสุนปืนแก่Jill)
Jill: เอ่อ... Nicholaiคงไปกับเราไม่ได้แล้วล่ะ
Carlos: ผมเข้าใจ ผมจะไปเปิดระบบรถไฟเคเบิ้ลนะ ไปกันเถอะ
(Carlosไปที่แผงบังคับรถ)
Carlos: มันดูดีเหมือนกันนะ
(รถไฟเริ่มวิ่ง ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องของMikhailดังขึ้น)
Carlos: Mikhail!
(Jillรีบวิ่งไปดูข้างหลัง เธอพบNemesisเข้ามาในรถ Mikhailเห็นJillที่อยู่คนละตู้กันกำลังจะเข้ามา เขาปิดประตูไว้)
Mikhail: Jill! ออกจากรถนี่เดี๋ยวนี้เลย!
Jill: Mikhail เดี๋ยว อย่านะ!
Mikhail: ออกไปจากที่นี่ เร็วเข้า!
(ขณะที่รถไฟกำลังวิ่ง MikhailยิงปืนAssault Rifleแบบไม่ยั้งใส่Nemesis)
Mikhail: เข้ามาเลย
(เขายิงจนกระสุนหมด MikhailโดนNemesisอัดกระเด็นไปกระแทกกระจก เขาพยายามหยิบปืนแต่ก็โดนอัดกระเด็นอีก Nemesisจะใช้หนวดฆ่าเขา มันเดินเข้ามาใกล้เขา)
Mikhail: เข้ามาใกล้ๆอีกหน่อย
(Mikhailหยิบระเบิดออกมา)
Mikhail: เอานี่ไปกินซะ แกแพ้แล้ว
(รถไฟตู้นั้นระเบิด ทำให้Nemesisลอยกระเด็นออกมาจากรถ)

(ตัดไปที่ห้องคนขับ รถไฟวิ่งไปใกล้ถึงหอนาฬิกาแล้ว Carlosเบรคแต่ความเร็วก็ไม่ลด)
Carlos: ไม่นะ! เบรคไม่ทำงาน!
Jill: มันใช้ไม่ได้แล้ว
(Jillรีบกระโดดออกมาทางหน้าต่าง)
Carlos: ไม่!
(ทันใดนั้นรถไฟวิ่งกระแทกกับรถยนต์ที่ขวางรางอยู่ทำให้เสียการทรงตัวเอียงไปเอียงมาเสียดสีด้านข้างกับตึกแล้วชนกับรถคันอื่นที่ขวางรางทำให้พุ่งไปข้างหน้าแบบเสียหลัก เข้าชนทะลุกำแพงหอนาฬิกา)

(Jillตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่อยู่ในหอนาฬิกา)
Jill: อืม อืม....
(เธอมึนหัวไปหมด เธอลุกขึ้นเดินก็เจอกับกุญแจหอนาฬิกาตกอยู่)

(Jillไปที่ห้องหนังสือ เธอเจอCarlosนอนอยู่บนพื้น)
Jill: Carlos!
Carlos: เป็นยังไงมั่ง เราทั้งคู่รอดแล้ว ผมคิดว่าเราควรจะร่วมมือช่วยเหลือคนอื่นๆกันอีกนะ
Jill: ใช่ เรามาได้แย่มาก แต่เราควรพักกันก่อนนะ
Carlos: ไม่ เราเป็นกลุ่มเดียวที่รอด จะไม่มีการพักผ่อนอะไรทั้งนั้น อ่ะนี่ ผมให้คุณ
(Carlosให้กระสุนปืนแก่Jill จากนั้นเขาก็หันหลังให้Jillแล้วเดินจากไป Jillค้นหาของในห้องนั้นก็พบกุญแจไขลาน)

(Jillไปที่ห้องสวดมนต์เจอกับกุญแจหอนาฬิกาอีกอันและเจอกับกุญแจBezel จากนั้นเธอก็เดินขึ้นชั้นสอง เธอเดินไปนอกระเบียงชั้นสองก็พบกับสายไฟแรงสูงที่ขาดออกมาแต่ก็มีไฟฟ้าอยู่ จากนั้นเธอก็ได้เจอรูหนึ่งคล้ายกับรูกุญแจ เธอเลยลองเอากุญแจBezelไข ทำให้มีบันไดเลื่อนลงมาจากข้างบน เธอปีนขึ้นไปในหอระฆัง)

(เมื่อJillเข้าไปที่หอระฆังแล้ว เธอเจอเฟืองสีเงินอยู่ในชั้นวางของ จากนั้นเธอก็เจอกับหีบเพลงที่เธอต้องแก้ปริศนามัน เมื่อแก้ปรศนาได้แล้วก็จะได้โซ่Chronos จากนั้นเธอก็เอาโซ่Chronosกับกุญแจไขลานมารวมกันจะได้กุญแจChronos เธอรีบลงบันไดลงมา)

(ขณะที่Jillไต่ลงบันไดมาที่ระเบียงชั้นสอง เธอเจอกับNemesis เธอจึงเอาสายไฟแรงสูงช๊อตมันจนสลบไป เธอรีบหนีก่อนที่มันจะฟื้น Jillวิ่งลงไปข้างล่าง ไปที่ห้องหนังสือ เธอเจอประตูสีเขียว เธอใช้กุญแจChronosไขประตูเข้าไปได้)

(เมื่อไขประตูได้แล้ว เธอเข้ามาในห้องรูปปั้นเทพธิดาChronos เธอต้องแก้ปริศนารูปปั้นเทพธิดาChronosทั้ง 3 เมื่อแก้ปริศนาได้ก็จะได้เฟืองสีทอง Jillรีบเอาเฟืองสีเงินกับเฟืองสีทองมารวมกัน จะได้เฟืองChronos เธอรีบวิ่งขึ้นชั้นสองแล้วปีนบันไดขึ้นชั้นสามไปที่หอระฆังเพื่อเอาเฟืองChronosไปใส่ให้ระฆังทำงาน)

(Jillสามารถทำให้ระฆังทำงานได้สำเร็จ ระฆังตีบอกเวลา เธอรีบลงมาชั้นล่าง เธอเปิดประตูใหญ่วิ่งไปที่ลานกว้างด้วยความดีใจ)
เสียงของJill: เรารอดแล้ว
(Jillมองเห็นเฮลิคอปเตอร์บินมา)
Jill (ตะโกน): จอดนี่ด้วย
เสียงของJill: มันจบแล้ว
(Jillได้ยินเสียงแปลกๆบางอย่างจึงหันไปตามเสียง เธอเห็นลูกจรวดพุ่งผ่านด้านข้างตัวเธอไป)
Jill: ไม่นะ!
(Jillเห็นเฮลิคอปเตอร์โดนจรวดระเบิดกลางอากาศ)
Jill: ไม่!
(Jillหันไปเห็นNemesisถือปืนยิงจรวดอยู่ Jillร้องตกใจ NemesisกระโดดลงมาหาJill มันใช้หนวดพุ่งใส่เธอแต่โดนแค่เฉี่ยวๆ Jillติดเชื้อเข้าแล้ว! เธอรีบยิงมันจนมันสลบไป Jillเริ่มอ่อนแรงจะล้มลงไป Carlosเข้ามาพอดี)
Carlos: Jill! โอ้ ผมทำอะไรลงไปเนี่ย? ผมขอโทษนะJill ได้โปรด! ตื่นสิ!
(Jillกำลังจะหมดสติแล้ว เธอได้ยินเสียงCarlos)
Carlos: Jill! Jill!

(Carlosอุ้มJillไปที่ห้องสวดมนต์ เขาวางตัวเธอบนแท่นทำพิธีสวดมนต์)
Carlos: ว่าไง Jill ดูเหมือนมันเป็นกฎของเราซะแล้วที่จะต้องจะย้อนกลับมาช่วยกันอีกครั้งเมื่อเราเจอกันใช่มั้ย? อย่าห่วงเลยนะJill ห้องสวดมนต์นี้ปลอดภัย
Jill: ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย แต่นั่นมันจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ถ้าหากฉันไม่รู้สึกอะไรนั่นมันหมายความว่ายังไงกัน?
Carlos: อย่าห่วงเลยJill ผมจะดูแลคุณเอง ผมจะไม่ให้ไวรัสทำอะไรคุณเด็ดขาด
(Carlosรีบวิ่งออกไปเพื่อไปหาวัคซีนรักษาJill)

(Carlosวิ่งผ่านสวนสาธารณะไปยังโรงพยาบาลRaccoon เขาวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาล เขาเจอกับตัวHunterรุ่นBeta เขาต้องรีบยิงใส่มัน Carlosกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังชั้น 4 ของโรงพยาบาล เมื่อเขาไปถึงชั้น 4 เขาเดินไปตามทางเดินเพื่อไปยังห้องข้อมูล เขาเข้าไปในห้องนั้น CarlosเจอกับNicholaiที่กำลังจะยิงทหารU.B.C.S.คนหนึ่งที่ชื่อTyrell Patrick)
Carlos: อย่ายิงนะ!
(มีเสียงปืนดังขึ้น)
Carlos: Nicholai คุณยังมีชีวิตอยู่?
Nicholai: นายเห็นทุกอย่างใช่มั้ย?
Carlos: ใช่ เกิดอะไรขึ้น?
Nicholai: (หันปืนไปทางCarlos) ฉันเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ทุกอย่างที่นายอยากรู้!
(Tyrellหยิบระเบิดออกมาปาไปที่Nicholai ทำให้ทั้งCarlosและNicholaiหนีกันไปคนละทาง Nicholaiกระโดดหนีไปทางหน้าต่าง Carlosวิ่งไปนอกห้อง ห้องข้อมูลระเบิดเละไม่มีชิ้นดี)

(Carlosไปที่ห้องคนไข้ห้องเบอร์ 401 เขาเจอศพหมอ จากนั้นศพหมอกับศพคนไข้ก็ลุกขึ้นมา เขารีบยิงพวกมัน จากนั้นเขาก็เห็นที่มือของศพหมอเหมือนมีตัวเลขอยู่ จากนั้นCarlosไปที่ห้องคนไข้ห้องเบอร์ 402 เขาเข้าไปดันชั้นวางของให้เข้าตำแหน่งที่ถูกต้องเพื่อเปิดรูปภาพ หลังรูปภาพจะมีตู้เซฟอยู่ เขาเอาตัวเลขที่มือศพหมอเปิดรหัสตู้เซฟได้สำเร็จ เขาได้ส่วนผสมวัคซีนมาแล้วแต่ยังต้องหาเครื่องผสม)

(Carlosลงลิฟท์ไปยังชั้นใต้ดินชั้นที่ 3 เขาเข้าไปในห้องทดลอง เขาเข้าไปเจอกับHunterรุ่นต่างๆอยู่ในแคปซูล จากนั้นHunterรุ่นGammaก็ทำลายแคปซูลแล้วออกมาสู้กับCarlos เขารีบยิงมันทิ้ง จากนั้นเขาต้องเดินอ้อมพวกแคปซูลไปยังเครื่องผสมวัคซีน เขาเอาส่วนผสมวัคซีนไปผสมกับไวรัส ก็จะได้วัคซีนแก้ไวรัสมา จากนั้นเขารีบวิ่งไปที่ลิฟท์ กดเรียกไปยังชั้น 1 เมื่อเขาออกมาจากลิฟท์ เจาพบระเบิดเวลาที่Nicholaiวางไว้ มันเหลืออีกไม่กี่วินาทีเท่านั้น)

(Carlosวิ่งฝ่าสายฝนออกจากโรงพยาบาลก่อนตึกระเบิด เขาพุ่งตัวหลบหลังมุมตึกหนึ่งนั่งโล่งใจที่รอดตาย เขาวิ่งกลับไปที่ห้องสวดมนต์ในหอนาฬิกาเพื่อวัคซีนแก้ไวรัสJill เมื่อCarlosวิ่งไปถึงหอนาฬิกา เขาเจอNemesisกระโดดลงมาจากหลังคา มันพัฒนาร่างไปอีกขั้นแล้ว เขาวิ่งหลอกล่อมันไปข้างนอกแล้วรีบวิ่งกลับเข้ามาในหอนาฬิกาแล้ววิ่งไปที่ห้องสวดมนต์ เขารีบฉีดวัคซีนให้Jillและอยู่ดูแลเธอ)

[กลางคืนก่อนเช้าของวันที่ 1 ตุลาคม 1998]
เสียงของJill: ฉันตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงฝนตก ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าฉันยังมีชีวิตอยู่...
Jill: (เริ่มรู้สึกตัว) อืม อืม.....
Carlos: เราทำได้แบบหวุดหวิด คุณเป็นยังไงมั่ง?
Jill: ฉันไม่เป็นไรแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?
Carlos: ผมเพิ่มได้สู้กับไอ้ปีศาจตัวนั้นไม่นาน ผมมีข่าวร้ายจะบอก Nicholaiยังมีชีวิตอยู่
Jill: อะไรกัน? ฉันนึกว่าเขาตายแล้วซะอีก
Carlos: ผู้ชายคนนั้นไม่รู้จักคำว่าตายหรอก
Jill: แล้วเขาตามล่าอะไร?
Carlos: ผมไม่รู้ แต่ที่ผมรู้คือเขาเป็นศัตรูของพวกเรา ขอโทษนะJill แต่ผมมีอย่างอื่นที่ต้องทำ
(Carlosวิ่งออกไปจากห้อง Jillเดินออกมาแล้วเจอกับปืนMine Thrower(ปืนครก))

(Jillวิ่งไปที่สวนสาธารณะ แต่ยังเข้าไม่ได้ เธอวิ่งไปในบ้านพักของยามเฝ้าสวนสาธารณะ และเธอก็พบกับกุญแจเข้าไปในสวนสาธารณะ เธอเข้าไปในสวนสาธารณะจะพบทางแยกสองทาง เธอไปทางขวามือสุดทางจะเจอกุญแจสุสานในมือศพ ทันใดนั้นศพก็ลุกขึ้นมา เธอรีบยิงมันแล้วเอากุญแจมา จากนั้นเธอก็วิ่งไปที่ทางแยก)

(เมื่อJillวิ่งกลับไปที่แยกแล้ว เธอไปทางซ้าย จะเจอบ่อน้ำพุ เธอรีบลงไปในนั้นแล้วเจอทาง เธอรีบขึ้นมาระบายน้ำออกไปหมดแล้วลงไปใหม่อีกครั้ง จากนั้นเธอลงไปยังทางระบายของเสียของเมืองที่อยู่ใต้สุสาน เธอเดินไปสุดทางไปถึงบ้านพักผู้ดูแลสุสาน เธอเข้าไปในนั้น จากนั้นเธอก็หาไฟแช็กในบ้านนั้นจนเจอแล้วจุดเตาผิงไฟแล้วจะเห็นช่องลับ เธอพบท่อนเหล็กแถวนั้น เธอใช้ท่อนเหล็กกระแทกเปิดช่องลับได้สำเร็จ เธอเข้าไปในนั้นแล้ว พบว่าหลังช่องลับนี้เป็นฐานที่พักลับของผู้ดูแลการปฏิบัติภารกิจของUmbrella เธอพบกุญแจเปิดสวนสาธารณะอีกด้านหนึ่ง เธอรีบออกจากช่องลับนั้น)

(ขณะที่Jillกำลังจะออกจากช่องลับนั้น เธอได้ยินเสียงวิทยุติดต่อเข้ามาในห้อง)
วิทยุ: ผู้ดูแลการปฏิบัติภารกิจทุกคน ภารกิจสิ้นสุดแล้ว รีบกลับมาเดี๋ยวนี้ ขอย้ำ ผู้ดูแลการปฏิบัติภารกิจทุกคนรีบกลับมาเดี๋ยวนี้ เปลี่ยน
(จากนั้นมีแฟ็กซ์มาจากศูนย์บัญชาการใหญ่Umbrellaว่าเช้าวันที่ 1 ตุลาคม กระทรวงกลาโหมสั่งยิงนิวเคลียร์มาที่เมืองRaccoonเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส Jillเหลือเวลาไม่มากแล้วที่จะออกจากเมืองนี้ เธอรีบออกจากที่นั่น)

(เมื่อJillเดินมาถึงสุสาน เธอพบกับNicholai)
Nicholai: ผมประทับใจจริงๆเลยนะที่เห็นคุณยังมีชีวิตอยู่
Jill: และคุณดูเหมือนจะทำหน้าที่ได้ดีเลยนะ จะช่วยเราออกจากเมืองได้มั้ย?
Nicholai: ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะช่วยคุณ
Jill: ทำไม เพราะพวกเราไม่มีอะไรจ่ายให้งั้นเรอะ?
Nicholai: ไม่ใช่ที่เธอพูดหรอก นายจ้างของเราต้องการผลวิเคราะห์ข้อมูลของพวกซอมบี้ที่ติดเชื้อT-Virus
Jill: แกหมายความว่าพวกนั้นจงใจส่งกองทหารมาให้ซอมบี้พวกนั้นฆ่าเหรอ?
Nicholai: ไม่ถูกทีเดียวนัก แม้ว่าการต่อสู้นั้นจะจบลงแล้ว แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังให้ทีมของเราตายกันหมด เราต้องการแค่รวบรวมข้อมูลชีวิตจากตัวอย่างเท่านั้น
(เกิดแผ่นดินไหวขึ้นในบริเวณนั้น)
Nicholai: พวกตัวกลายพันธุ์!
(Nicholaiวิ่งหนีไป)
Jill: เกิดอะไรขึ้น?
(พื้นสะเทือนเป็นหลุมแล้วJillก็กำลังจะตกลงไป เธอร้องตกใจ)
Jill: เหวอ!
(Jillตกลงไปข้างล่าง เธอมองขึ้นมาข้างบนเห็นหนอนยักษ์โผล่มา)
Jill: นั่นตัวอะไรกัน?
(Jillรีบยิงมันโดยใช้ปืนยิงลูกระเบิด เธอยิงมันจนมันตายด้วยปืนGrenade Launcher เธอรีบวิ่งกลับไปที่ทางแยก)

(Jillกลับไปที่ทางแยกในสวนสาธารณะ เธอไปทางขวาอีกครั้ง จากนั้นไปจนสุดทางแล้วเอากุญแจที่เจอในฐานที่พักลับของผู้ดูแลการปฏิบัติภารกิจของUmbrellaที่สามารถเปิดสวนสาธารณะอีกด้านได้เปิดประตูเข้าไป จากนั้นเธอก็รีบวิ่งไปตามทางจนถึงสะพานเข้าสูโรงงานร้างจากนั้นเธอก็เจอกับNemesisกระโดดขึ้นมาอยู่ข้างหน้าJillบนสะพาน เธอตัดสินใจผลักมันให้ตกสะพานลงไป จากนั้นJillก็วิ่งไปต่อ)

(Jillวิ่งไปถึงประตูทางเข้าโรงงาน เธอรีบเปิดประตูวิ่งเข้าไปตามทางเดิน จากนั้นเธอก็รีบวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นของโรงงาน เธอพบกับCarlos)
Jill: Carlos
Carlos: Jill ฟังให้ดีๆนะ พวกเขากำลังปล่อยจรวดมิสไซล์นิวเคลียร์และมันจะเข้ามาถึงเมืองนี้ในอีกไม่นานเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ระเบิดมีความรุนแรงมากพอที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้
Jill: คุณแน่ใจว่าเหรอมันเป็นความจริง?
Carlos: แน่นอน ผมได้ยินมาโดยตรงจากหัวหน้าที่ดูแลภารกิจครั้งนี้
Jill: ถึงเวลานั้นคนพวกนั้นคงหนีไปไกลเกินกว่าจะตามรอยไปได้แล้วมั้ง? (Jillกำลังเข้าใจผิด อันที่จริง จรวดมิสไซล์มาจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯไม่ใช่ของUmbrella แต่เธอเข้าใจว่าเป็นของUmbrellaปล่อยมาทำลายเมือง)
(Carlosวิ่งจากไป Jillวิ่งออกจากห้องไปอีกห้องหนึ่งก็ได้พบกับแผนที่โรงงานและแผ่นซิสเต็มดิสก์ เธอรีบออกจากห้องนั้น)

(Jillรีบไปกดเรียกลิปท์ลงไปชั้นใต้ดินชั้นที่ 1 เธอรีบไปที่ห้องวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ เพื่อปลดรหัสเข้าสู่ห้องกำจัดขยะ เมื่อเธอปลดรหัสสำเร็จ เธอรีบไปที่ห้องกำจัดขยะ)

(ระหว่างทางที่จะไปห้องกำจัดขยะ JillพบกับNicholaiอีกครั้ง Nicholaiเล็งปืนมาจะยิงJill เขายิงเธอแต่เธอกระโดดหลบไปได้)
Nicholai: นี่เธอยังอยู่อีกเหรอเนี่ย!
Jill: Nicholai? แกคิดว่าแกจะหนีรอดไปคนเดียว นี่ใช่มั้ยแผนของแก?
Nicholai: ฉันแน่ใจว่าไม่มีผู้ดูแลปฏิบัติการคนไหนรอดไปได้แล้ว ตั้งแต่นั้นมาฉันเป็นคนเดียวที่รู้ว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้น มีการตกลงได้รับเงินเพิ่มเมื่อฉันเจรจาเรื่องผลตอบแทนพิเศษของฉันใหม่อีกครั้ง (เขายิงใส่Jill แต่เธอก็หลบได้)
Jill: แต่ทำไมต้องฆ่าฉันด้วย? ฉันไม่ใช่ค่าตอบแทนเงินเดือนของพวกเขา
Nicholai: พวกเขาต้องการกำจัดเธอที่รู้เรื่องของพวกเขา อย่างเงียบที่สุด แต่ฉันจะได้รับผลตอบแทนเมื่อแน่ใจได้ว่าเธอตายแล้ว (เขายิงใส่Jill แต่เธอก็หลบได้)
Jill: เยี่ยมไปเลย แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจให้แกรับเงินที่ออกจากงานเพราะตายหรอกนะ!
(NicholaiจะยิงJillอีกครั้ง แต่มีบางอย่างที่ดึงตัวเขาขึ้นไปข้างบน เกิดเสียงปืนดังขึ้น เธอคิดว่าเขาคงตายแล้ว)

(Jillรีบใช้ซิสเต็มดิสก์เปิดห้องกำจัดขยะ เธอเข้าไปในห้องนั้นพร้อมได้ยินเสียงคอมพิวเตอร์พูดอะไรบางอย่าง)
เสียงคอมพิวเตอร์: คำเตือน ดำเนินการให้ความร้อนในห้องกำจัดขยะ โปรดอพยพออกอย่างเร็ว
(ประตูข้างหลังJillปิดขึ้น เวลาทำความร้อนนั้บถอยหลังอีก 4 นาที ทันใดนั้นNemesisก็โผล่มา)
Nemesis: ...หน่วยS.T.A.R.S....
(Jillรีบยิงมันจนมันล้มลงสลบไป เธอพบคีย์การ์ดสีแดงหล่นจากตัวมัน เธอหบิบขึ้นมา จากนั้นJillก็กดปุ่มปล่อยตัวมันลงในบ่อของเสียแล้วรีบวิ่งออกจากห้อง ขณะที่ออกจากห้อง มีเสียงคอมพิวเตอร์เตือนเรื่องมิสไซล์ที่ถูกยิงมาที่เมืองนี้)

(Jillไปที่ห้องไอน้ำแล้วใช้คีย์การ์ดกดเรียกลิฟท์ลงไปข้างล่าง จากนั้นเธอก็เปิดตู้เก็บของพบปืนRocket Launcher เธอไม่พบอะไรสำคัญก็กดเรียกลิฟท์ขึ้นไปข้างบน)

(Jillไปถึงห้องติดต่อสื่อสาร Carlosติดต่อเข้ามาทางวิทยุ)
Carlos: Jill คุณอยู่ที่นั่นไหม? ถ้าคุณได้ยินผมให้รีบตอบกลับด้วย!
Jill: มีอะไร?
Carlos: ผมพบเฮลิคอปเตอร์ที่พร้อมจะบินแล้ว ฟังนะ! เมืองนี้กำลังจะหายไป! เร็วเข้า! และอย่าลืมเอาเครื่องบอกระยะทางไปด้วย
Jill: มันทำอะไรได้?
Carlos: เครื่องนั่นมันจะบอกระยะทางมิสไซล์ที่กำลังใกล้เข้ามา ฟังนะ เราจะต้องรอดไปด้วยกัน รีบออกจากที่นี่เร็ว!
(Jillมองไปนอกหน้าต่างเห็นNicholaiขับเฮลิคอปเตอร์กำลังบินจากไป เธอตกใจไม่คิดว่าเขายังมีชีวิตอยู่ Nicholaiบินจากไปโดยคิดเรื่องของJill)
Nicholai (กำลังคิด): ถึงเวลาตายของเธอแล้ว
(Jillพบเครื่องบอกระยะทางมิสไซล์อยู่บนโต๊ะ เหลือเวลา 480 วินาทีที่มิสไซล์จะมาถึง เธอพบบันไดอยู่กลางห้องจึงไต่ลงไป)

(เธอไต่ลงไปถึงห้องอาวุธปืนใหญ่ เธอเห็นลิฟท์ที่จะพาไปยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์แต่มันยังใช้ไม่ได้ เธอรีบไปดูที่เครื่องควบคุมมันบอกว่าต้องดันแบตเตอรี่ให้ถูกต้องตามหมายเลขทั้ง 3 ตัวจะทำให้ระบบไฟฟ้าในห้องนี้ทำงานปกติและลิฟท์ก็จะทำงาน เธอรีบดันแบตเตอรี่ตัวที่ 1 เข้าช่องที่ถูกต้อง แต่ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น Nemesisตกลงมาจากข้างบนและกินซากของMr. Xทำให้มันพัฒนาร่างขึ้นไปถึงขีดสุด Jillรีบใช้ปืนRocket Launcherยิงมันจนมันล้มลงไป Jillรีบดันแบตเตอรี่ตัวที่ 2 และ 3 ให้เข้าช่องที่ถูกต้อง ในตอนนั้นเองที่NemesisกินซากMr. Xอีกครั้ง มันฟื้นตัวลุกขึ้นมาจะฆ่าJill เธอทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานปกติแล้ว ปืนใหญ่Rail Cannonก็ทำงาน เธอบังคับปืนใหญ่ให้หันปากกระบอกเข้ามาในห้อง จากนั้นเธอเดินหลอกล่อมันให้เขามาทางปืน เธอรอจังหวะที่ปืนนับถอยหลังจาก 5 ไปจนถึง 1 เธอรีบกระโดดหลบให้พ้นทางปืน ทำให้ปืนโดดเจ้าNemesisเต็มๆ Jillรีบวิ่งไปที่ลิฟท์แต่Nemesisก็ขยับตัวอีกครั้ง เธอเลยหยิบปืนMagnumจากศพที่อยู่ข้างๆเธอเล็งที่มัน)
Jill: แกอยากได้หน่วยS.T.A.R.S.ใช่มั้ย? ฉันจะให้หน่วยS.T.A.R.S.แกเอง!
(Jillยิงใส่ที่หัวมันแตกกระจุย เธอรีบวิ่งเข้าไปในลิฟท์แล้วกดขึ้น)

(Jillออกมาจากลิฟท์แล้วพบกับCarlosที่ตะโกนเรียกเธออยู่)
Carlos: Jill ทางนี้ เร็วเข้า!
(พวกเขาทั้งคู่รีบขึ้นไ



คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
umaporn
#12
22-05-2010 - 19:47:09

#12 umaporn  [ 22-05-2010 - 19:47:09 ]







7 สิงหาคม
สองสัปดาห์ผ่านไปนับจากวันนั้น แผลของฉันรักษาหายดีแล้ว แต่ฉันลืมมันไม่ได้แน่ สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วมันคือประวัติศาสตร์ แต่สำหรับฉัน เมื่อใดก็ตามที่ฉันหลับตาลงมันก็จะกลับมาอีกครั้ง ซอมบี้กำลังกินเนื้อผู้คนและเสียงร้องของเพื่อนร่วมทีมที่กำลังจะตาย ไม่ มีเพียงบาดแผลในใจฉันที่ยังไม่ได้รับการเยียวยารักษา... (หมายถึงแผลที่ไปเสริมซิลิโคนหน้าอกใช่ป่ะ?)
13 สิงหาคม

เร็วๆนี้Chrisสร้างปัญหามากมาย เกิดอะไรขึ้นกับเขานะ? เขาไม่ค่อยคุยกับเพื่อตำรวจคนอื่นๆและมักหงุดหงิดอยู่บ่อยๆ มีอยู่วันหนึ่ง เขาก็ชกElranที่อยู่กองอาชญากรรมในอุบัติเหตุที่Elranทำกาแฟกระเด็นเปื้อนใส่หน้าChris ฉันรีบเข้าไปห้ามChris แต่เขากลับมองฉันและขยิบตาให้และเดินจากไป ฉันประหลาดใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขานะ... (เขาส่งซิกให้ทำเป็นอินโนเซนต์)
15
สิงหาคม
เที่ยงคืน Chrisผู้ลาหยุดงานเพื่อ "พักผ่อน" ได้โทรมาหาฉันบอกให้ฉันไปหาที่อพาร์ทเมนต์ของเขา(ไปทำไรอ่ะเจ๊?) จากนั้นไม่นานฉันก็เดินเข้าไปในห้องเขา(โอ้!) เขาให้ฉันดูชิ้นส่วนของกระดาษคู่หนึ่ง มันเป็นชิ้นส่วนของรายงานการวิจัยไวรัสที่ใช้ชื่อตัวอย่างว่า "G" จากนั้นChrisก็บอกฉันว่า "ฝันร้ายยังคงดำเนินต่อไป" เขาเดินไปแล้วพูดว่า "มันยังไม่จบแน่" นับจากวันที่เกิดเรื่องนั้นเขาก็ต่อสู้ด้วยตัวเองโดยไม่ได้พักผ่อน โดยไม่ได้บอกฉันด้วย(แล้วทำไรกันอีกรึปล่าวอ่ะ? แบบว่าคิดมาก ต่อสู้ด้วยตัวเองโดยไม่ได้พักผ่อน?)
24 สิงหาคม
Chrisออกจากเมืองวันนี้เพื่อไปยุโรป Barryบอกกับฉันว่าเขาส่งครอบครัวของเขาไปประเทศแคนาดาแล้วจากนั้นเขาก็จะตามChrisไป ฉันตัดสินใจที่จะอยู่ในเมืองRaccoonต่อเพราะฉันรู้ว่าศูนย์วิจัยที่อยู่ในเมืองนี้มีความสำคัญมากต่อเรื่องนี้ ฉันจะอยู่ต่ออีกซักเดือนหรือจะไปร่วมกับพวกเขาที่ไหนซักแห่งในยุโรป การต่อสู้ที่แท้จริงของฉันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น... (เจ๊จะไปถล่มเขาเรอะ? เจ๊Adaก็บอกว่าการต่อสู้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น น่าจะทำภาคพิเศษจับตัวละครทุกภาค(0,1,2,3)มายำถล่มกันเจงๆเลย)

ปล. มันแก้ไขไม่ได้อ่ะก็เลยต้องโพสซ้ำอีกหน่อยนึง
ปล.2 เสริมบทเล่นๆนิดหน่อยเพื่อคลายเครียด



คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
manya456
#13
22-05-2010 - 21:00:55

#13 manya456  [ 22-05-2010 - 21:00:55 ]





ชอบที่สุดอ่ะน่ะ ชอบ resident evil outbreak มันเป็นแบบต้องพึ่งพากันอ่ะ




ภาค 5 ดู รีวิว แผ่นผีโคตรชั่วเลย มันเอาเกม resident evil 5 มาทำเป็นหนัง ภาคโคตรห่วยเลย


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2010-05-22 21:03:30

nobomachine
#14
22-05-2010 - 21:14:15

#14 nobomachine  [ 22-05-2010 - 21:14:15 ]




ถ้าถามว่าไม่ชอบใครมากที่สุดในReนะ

เกลียดไอตาจุนมากที่สุด เอาReมายำซะเละ

ยังดีนะทำพี่คริสเท่ในภาค5 ฮึ่มม

EDIT

ชอบ Outbreakเหมือนกัน


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2010-05-22 21:28:35

manya456
#15
22-05-2010 - 21:40:29

#15 manya456  [ 22-05-2010 - 21:40:29 ]





quote : nobomachine
ถ้าถามว่าไม่ชอบใครมากที่สุดในReนะ

เกลียดไอตาจุนมากที่สุด เอาReมายำซะเละ

ยังดีนะทำพี่คริสเท่ในภาค5 ฮึ่มม

EDIT

ชอบ Outbreakเหมือนกัน


จุน คือ ใคร เหรอคับ ลีออน คนเดียวอ่ะน่ะ เพื่อนผมมันเกลียดตรงขี้เก๊กนี้แหละ


umaporn
#16
22-05-2010 - 23:03:11

#16 umaporn  [ 22-05-2010 - 23:03:11 ]






quote : manya456
quote : nobomachine
ถ้าถามว่าไม่ชอบใครมากที่สุดในReนะ

เกลียดไอตาจุนมากที่สุด เอาReมายำซะเละ

ยังดีนะทำพี่คริสเท่ในภาค5 ฮึ่มม

EDIT

ชอบ Outbreakเหมือนกัน


จุน คือ ใคร เหรอคับ ลีออน คนเดียวอ่ะน่ะ เพื่อนผมมันเกลียดตรงขี้เก๊กนี้แหละ






จุน ก็คือคนที่สร้าง RE5 ไงคะ คนเก่าน่ะ

เราก็เกลียดเหมือนกัน เพราะว่าทำน้องจิลตาย (หลอก)
ตอนแรกที่เห็นหลุมศพจิลนี่ แทบจะเลิกเล่นเลยอ่ะ
มันทำไปได้

แล้วไหนจะพี่เวสฯอีก พี่แกมาขั้นเทพเลย แมททริกซ์มาแต่ไกลอ่ะ เซ็งจิตเลย

แต่รูปเกมส์ทำมาก็สนุกดี เลยให้อภัย



คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
umaporn
#17
22-05-2010 - 23:05:20

#17 umaporn  [ 22-05-2010 - 23:05:20 ]






ใน Outbreak เราชอบ Alissa และก็ david อ่ะ

พี่เดวิดแกนี่ สารพัดช่างจริงๆๆ ประกอบอะไรได้หมด เจ๊งมาก ตัวละครตัวนี้น่ะ



คิดถึงบอร์ดเหมือนกันเนอะ :)
manya456
#18
23-05-2010 - 00:41:10

#18 manya456  [ 23-05-2010 - 00:41:10 ]





ชอบไอ JIM มันมากะดวงจิงๆ


nobomachine
#19
23-05-2010 - 08:36:48

#19 nobomachine  [ 23-05-2010 - 08:36:48 ]




quote : umaporn
quote : manya456
quote : nobomachine
ถ้าถามว่าไม่ชอบใครมากที่สุดในReนะ

เกลียดไอตาจุนมากที่สุด เอาReมายำซะเละ

ยังดีนะทำพี่คริสเท่ในภาค5 ฮึ่มม

EDIT

ชอบ Outbreakเหมือนกัน


จุน คือ ใคร เหรอคับ ลีออน คนเดียวอ่ะน่ะ เพื่อนผมมันเกลียดตรงขี้เก๊กนี้แหละ






จุน ก็คือคนที่สร้าง RE5 ไงคะ คนเก่าน่ะ

เราก็เกลียดเหมือนกัน เพราะว่าทำน้องจิลตาย (หลอก)
ตอนแรกที่เห็นหลุมศพจิลนี่ แทบจะเลิกเล่นเลยอ่ะ
มันทำไปได้

แล้วไหนจะพี่เวสฯอีก พี่แกมาขั้นเทพเลย แมททริกซ์มาแต่ไกลอ่ะ เซ็งจิตเลย

แต่รูปเกมส์ทำมาก็สนุกดี เลยให้อภัย


จุนคือผู้สร้างคนใหม่นะ ผู้สร้างRe5 มิคามิ ชินจิลาออกไปเมื่อRe4เสร็จ

ที่เราเกลียดจุนก็เพราะว่ามันยำเนื้อเรื่องเละเทะไปหมด ใช้ตัวละครก็เปลือง Timelineไม่ตรงกับภาคอื่น

แถมจากเชอร์รี่ไปอยู่กับเวสเกอร์ มันก็ดันเปลี่ยนเป็นไปอยู่กับรัฐบาล แล้วเชอร์รี่จะมีบทอีกไหม

แถมมาตัดจบง่ายว่ามีโครงการ Wesker Children อะไรไม่รู้

ภาคDCอีก ทำตัวละครที่ไม่ใช่ตัวเอกเข้าด้านมืดหมด

เชอร์รี่เกลียดพ่อแม่?! ทั้งๆที่รู้ความจริงแล้วว่าแม่ก็รัก

อัลเฟรด อัลเฟรด!! ฆ่าคนเพราะสนุก?? มันต้องฆ่าเพราะมันรักพี่สาวมากไม่ใช่หรอ

แล้ว แล้ว อเล็กเซีย ฆ่าอัลเฟรด เพราะไม่ให้อัลเฟรดสนุกไปกว่านี้!!

ฉากWesker Vs Alexie ก็ไม่มี ฉากChris Vs Wesker ก็ไม่มี

ให้ตาย DC แถมเนื้อเรื่องก็มั่วสุดๆ ตาจุนเอ้ย ดีละที่มันลาออก

ถึงรูปเกมจะออกมาไม่มีกลิ่นอายResident Evil สักนิด แต่ก็ถือว่ามีความสนุกใช้ได้

แต่ช่วยสนใจเนื้อเรื่อง นิสัย ของตัวละครหน่อยเถอะ!!!!!!!!


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2010-05-23 08:38:45

majee852
#20
23-05-2010 - 11:39:19

#20 majee852  [ 23-05-2010 - 11:39:19 ]




เราก้ชอบอ่ะนะผิดไหม ? ที่ผู้หญิงชอบยิงผ๊ เล่นจนตัวเยอะจัด ตอนนี้ก้ไม่ได้เล่นและ โทรทัดเจ้ง ยังไม่ได้เอาซ่อมเลย

อยากเล่นๆ



ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 7th June 2024 03:42

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ