นึกย้อนกลับไปตอนที่ Microsoft ได้ประกาศว่า Windows Vista จะเป็นระบบปฏิบัติการที่เข้ามาแทนที่ Windows XP รุ่นเก่า ทุกคนก็ให้ความสนใจกับคุณสมบัติต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นกันอย่างตื่นเต้น และรูปลักษณ์อันสดใหม่ในนาม Windows Aero ก็ทำให้ทุกคนต่างเชื่อว่า Windows Vista คือ Windows ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกของ PC ได้อย่างที่ Windows XP เคยทำไว้
![](http://www.monavista.com/contents/images/windows-aero-flip-3d-displaylink.jpg)
Windows Vista
แต่หลังจาก Windows Vista วางจำหน่ายจริงความฝันอันหอมหวานของแฟนๆ ก็แตกสลาย ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่น่าผิดหวังจากการใช้ทรัพยากรเครื่องสูงจนน่าตกใจ และความไม่เข้ากันของฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ในขณะนั้น สุดท้าย Windows Vista ก็สิ้นสุดความนิยมลงอย่างรวดเร็ว และหลายคนก็กลับไปซบอก Windows XP อีกครั้ง
หลังจากนั้น Microsoft ก็นำบทเรียนบทใหญ่ของ Windows Vista มาปรับปรุงใหม่ โดยดึงความสวยงามของ Windows Vista มาผสมกับประสิทธิภาพการใช้งานของ Windows XP จนกลายมาเป็น Windows ตัวใหม่ที่ใช้ชื่อง่ายๆ ตามรหัสรุ่น นั่นก็คือ Windows 7 นั่นเอง และในครั้งนี้ Microsoft ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับ Windows ตัวใหม่ที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามกว่า และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้กับคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า แต่ทว่า Windows ที่ดีที่สุดของ Microsoft ตัวนี้ก็ใช้เวลากว่า 4 ปี ถึงจะเอาชนะ Windows XP ในเรื่องจำนวนผู้ใช้ได้ (คลิกที่นี่ เพื่อดูจำนวนผู้ใช้)
![](http://www.monavista.com/contents/images/win7default.jpg)
Windows 7
แต่กว่า Windows 7 จะชนะรุ่นพี่ได้ Microsoft ก็พร้อมเข็น Windows น้องใหม่ออกสู่ตลาดอีกครั้ง ด้วยชื่อที่ต่อยอดจากความสำเร็จของเลข 7 นั่นก็คือ Windows 8
Windows 8 คือระบบปฏิบัติการที่ออกมาเพื่อรองรับอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบด้วยระบบเดียวกัน ทั้งคอมพิวเตอร์ PC, โน้ตบุ๊ก หรือแท็บเล็ต ซึ่งแนวคิดของ Windows 8 คือ ทุกๆ อุปกรณ์จะต้องมีรูปลักษณ์การใช้งานที่เหมือนกัน ทำงานได้สอดคล้องกัน และไม่ให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความแตกต่างในการใช้ Windows 8 ของแต่ละอุปกรณ์ และ Windows 8 ยังมีคุณสมบัติใหม่ๆ อีกมากมายที่แตกต่างจาก Windows 7
ทว่าใครจะรับประกันว่า Windows 8 จะไม่ซ้ำรอย Windows Vista อีกล่ะ? แต่ก่อนที่เราจะตัดสินกันว่ามันจะดี หรือมันจะดับ เราลองมาดูข้อดีของ Windows 8 ที่สามารถเอาชนะ Windows 7 ได้ดีกว่าครับ
ข้อดีที่ 1 : ความเป็นเอกภาพของระบบปฏิบัติการ
ดั่งที่เกริ่นไปว่า Windows 8 คือระบบปฏิบัติการที่ออกมาเพื่อรองรับอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบด้วยระบบเดียวกัน มันจึงมีความเป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกอุปกรณ์ที่รองรับ ทำให้เกิดมาตรฐานเดียวกัน ทั้งการจัดการข้อมูล, การโอนถ่าย, รูปลักษณ์ และการใช้งานที่อยู่ในรูปแบบเดียวกันทั้งหมด ซึ่ง Windows รุ่นอื่นๆ ไม่เคยทำได้เช่นนี้มาก่อน แม้แต่ Windows 7 เองก็ตาม
![](http://www.monavista.com/contents/images/windows-8-preview.jpg)
Windows 8 บนอุปกรณ์ต่างๆ ที่โชว์ในงาน Consumer Preview
ด้วยความเป็นเอกภาพของ Windows 8 นี้ การนำ PC หรือโน้ตบุ๊กเก่ามาใช้ก็ไม่มีปัญหา เพราะ Windows 8 รองรับได้ตั้งแต่ CPU ARM 1GHz ในแท็บเล็ต ทำให้มันเป็น Windows ที่ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อยมาก (น้อยกว่า Windows 7 อีก) และ Windows 8 ยิ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักพัฒนาเข้าไปใหญ่ เพราะพวกเขาสามารถพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่สามารถใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ได้ในครั้งเดียว
ข้อดีที่ 2 : Logon แบบใหม่
Windows 8 เปลี่ยนหน้าตาการ Logon ใหม่หมดจดไม่เหลือเค้าเดิม ซึ่งมีทั้งนาฬิกาดิจิตอลขนาดใหญ่ การแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งสถานะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต, แบตเตอร์รี่ และข้อความ ซึ่งให้อารมณ์เหมือนกำลังใช้งานแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนมากกว่า PC แบบเดิมๆ
![](http://www.monavista.com/contents/images/screenshot_lockScreen_print.jpg)
หน้าตา Logon ใหม่ที่มีการแจ้งเตือนผู้ใช้ในเรื่องต่างๆ
เมื่อผู้ใช้กรอกรหัสผ่านในการเข้าใช้งานแล้ว ระบบก็จะ Logon เข้าสู่ Windows อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้ไปอยู่ในหน้า Desktop นะครับ เพราะ Windows 8 จะนำไปสู่ Metro UI หลังจากการ Logon โดยทันที ซึ่งเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจาก Windows 7 โดยสิ้นเชิง
ข้อดีที่ 3 : Metro UI
ไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับสิ่งที่ทำให้ Windows 8 ต่างจาก Windows 7 มากที่สุด ซึ่ง Metro UI เป็นฟีเจอร์ใหม่หมดจดบนระบบปฏิบัติการ Windows ของ PC (แต่ในสมาร์ทโฟนใช้มาตั้งแต่ Windows Phone7) ถูกออกแบบเมื่อเพื่อเป็นส่วนติดต่อกับผู้ใช้ส่วนใหม่ และทดแทน Desktop และปุ่ม Start เดิมที่ใช้กันมาตั้งแต่ Windows 95
![](http://www.monavista.com/contents/images/Windows%208%20Metro%20I.jpg)
หน้าตาของ Metro UI บน Windows 8
Metro นั้นถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในระบบหน้าจอสัมผัสเป็นหลัก นั่นก็หมายความว่า Metro จะเป็นส่วนติดต่อผู้ใช้หลักในแท็บเล็ตไปโดยปริยาย ในขณะที่ PC และโน้ตบุ๊กที่ไม่ได้ใช้จอระบบสัมผัสก็สามารถใช้งาน Metro ผ่านการใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ดได้ ซึ่ง Metro จะทำให้อารมณ์การใช้ PC เปลี่ยนจาก Windows 7 ไปเยอะเลยทีเดียว เพราะมันรองรับทั้งการรับ-ส่งอีเมล, พยากรณ์อากาศ, แจ้งเตือนข้อความอัตโนมัติ, อ่านข่าว หรือดูหนังฟังเพลงได้เหมือนกับเรากำลังใช้แท็บเล็ตอยู่จริงๆ
แต่ Windows 8 ก็ไม่ได้ทอดทิ้ง Desktop ไป ผู้ใช้สามารถเลือกเข้าสู่การใช้งานในโหมด Desktop ได้ผ่านไอคอนบนหน้าต่าง Metro ซึ่งผู้ที่ยังถนัด Windows 7 อยู่ก็สามารถเข้ามาใช้งาน Desktop ได้ตามปกติ และสามารถกดปุ่ม Start บนคีย์บอร์ดเพื่อเรียก Metro กลับมาได้อย่างรวดเร็วตลอดเวลาที่ต้องการ
![](http://www.monavista.com/contents/images/Windows%208%20Desktop.jpg)
หน้าตาของ Desktop ใน Windows 8
ข้อดีที่ 4 : การใช้งานอันลื่นไหล
Windows 8 ได้ปรับปรุงระบบเปิดและปิดเครื่องใหม่เรียกได้ว่ายกแผง ซึ่งใช้เวลาในการบูตเครื่องน้อยกว่า Windows 7 กว่า 2 เท่า และใช้เวลาไม่เกิน 3 วินาทีในการ Shutdown เครื่อง ซึ่งถือว่าเร็วกว่า Windows ทุกรุ่นตั้งแต่มีมา
และนับเป็นอานิสงส์จากความเป็นเอกภาพอีกอย่างหนึ่งก็ว่าได้ เพราะนอกจากการเปิด-ปิด Windows และการ Logon ที่รวดเร็วแล้ว การทำงานโดยรวมของ Windows ก็รวดเร็วขึ้นด้วย โดยเฉพาะแอปพลิเคชั่นและการทำงานบน Metro ที่เปิด-ปิดได้ทันทีดั่งใจนึก แถมยังสามารถทำงานค้างในเบื้องหลังได้หลายโปรแกรมอีกด้วย ซึ่งเป็นการทำงานแบบ Multi-Task ในรูปแบบเดียวกับแท็บเล็ต เพราะ Metro นั้นถูกพัฒนาให้ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อยเพื่อให้ใช้งานกับแท็บเล็ตนั่นเอง เหล่า PC จึงได้อานิสงส์เรื่องความเร็วใน Metro ไปโดยปริยาย
ข้อดีที่ 5 : Store และแอปพลิเคชั่นบน Metro
ลองนึกภาพ App Store ใน iPad ดู เพราะใน Windows 8 ก็มี Store สำหรับดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพื่อใช้กับ Metro ด้วยเหมือนกัน ซึ่ง Windows 7 ไม่มีในส่วนนี้ และแอปพลิเคชั่นบน Metro นั้นก็นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะมันมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากแอปพลิเคชั่นบน Desktop ทั่วไป แอปพลิเคชั่นบน Metro นั้นรองรับการสั่งงานด้วยการสัมผัสเต็มรูปแบบ และฝั่งของ PC ก็ได้รับอานิสงส์ในหน้าตาของแอปพลิเคชั่นที่สวยงาม ลื่นไหล และการจัดลำดับความสำคัญและมีระเบียบเป็นหมวดหมู่ (Click Hereเพื่ออ่านข่าว)
![](http://www.monavista.com/contents/images/Store.jpg)
Store ใน Metro
แต่ Windows 8 ก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ลงแอปพลิเคชั่นได้ตามปกติจากหน้า Desktop ได้เหมือนกับ Windows รุ่นอื่นๆ เช่นกัน
ข้อดีที่ 6 : ระบบสำรองข้อมูลแบบใหม่
ใน Windows 7 ผมเชื่อว่ามีน้อยคนมากที่ใช้ฟีเจอร์สำรองข้อมูลที่มากับระบบ แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับ Windows 8 เพราะ Windows 8 มีฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า File History ซึ่งจะช่วยผู้ใช้สำรอง และกู้คืนข้อมูลได้เป็นโฟลเดอร์ พูดง่ายๆ คือหากไฟล์หายไปจากโฟลเดอร์ไหน ก็แค่ใช้ฟีเจอร์ File History ระบบก็จะกู้คืนข้อมูลให้กับโฟลเดอร์ที่เลือกโฟลเดอร์เดียว เหมือนกับเป็น Undo – Redo ฉบับอัพเกรดใหม่ (click here เพื่ออ่านข่าว)
![](http://www.monavista.com/contents/images/0675_Picture5_original_thumb_78C799D8(1).png)
ฟีเจอร์ใหม่ File History
ข้อดีที่ 7 : Ribbon จาก Office สู่ Windows
ในโหมด Desktop นั้น Windows 8 ก็ยังคงมีความคล้ายคลึงกับ Windows 7 อยู่หลายส่วน แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาในหน้าต่าง Explorer คือเมนูแบบ Ribbon ที่ใช้งานอยู่ใน Microsoft Office ตั้งแต่รุ่น 2007 เป็นต้นมา ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับไฟล์ในหน้าต่างนั้นๆ ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ทั้งการคัดลอก, ย้าย, เปลี่ยนชื่อ, ลบไฟล์ หรือการกระทำอื่นๆ ที่ปกติแล้วต้องคลิกเมาส์ขวาใน Windows 7
![](http://www.monavista.com/contents/images/Windows8-ribbon.jpg)
เมนู Riboon จัดการไฟล์ด้านบน ซึ่งสามารถเลือกให้แสดงหรือซ่อนก็ได้
ข้อดีที่ 8 : Blue Screen แบบใหม่ (เอ่อ...ขอนับเป็นข้อดีแล้วกันนะครับ)
100% ของคนที่เจอจอฟ้านั้นจะต้องอารมณ์เสีย หงุดหงิด หรือร้อง “เฮ้ย เป็นอะไรเนี่ย!” และอาจถึงขั้นทุบคีย์บอร์ด หรือเหวี่ยงเมาส์ได้ถ้าเกิดขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง (เมาส์บอก นู๋ไม่ผิดนะ T-T) แต่ด้วยจอฟ้าแบบใหม่ของ Windows 8 อาจช่วยลดอารมณ์รุนแรงของผู้ใช้ที่กระทำต่อเมาส์และคีย์บอร์ดลงได้...
Blue Screen ของ Windows 8 (น่ารักเนอะ)
นั่นก็เป็นข้อดีทั้ง 8 ข้อที่ MonaVista.com หยิบยกมาให้อ่านกันครับ โดยสรุปก็คือ Windows 8 นั้นได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้ในแง่ของความสวยงามและความลื่นไหล สามารถฉีกกฎอันซ้ำซากของ Windows รุ่นเก่าๆ ออกไปได้ โดยเฉพาะ Metro UI ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์กลุ่มแท็บเล็ตและจอสัมผัสโดยเฉพาะ แต่ Windows 8 ก็ยังคงข้อดีทุกข้อของ Windows 7 ไว้ ทั้งความเร็วในการใช้งาน หรือ Desktop UI และการตั้งค่าที่ยังคล้าย Windows 7 ตัวเดิม ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องปรับตัวมากจนเกินไปนัก
แต่สิ่งที่น่าจับตาดูต่อไปคือเรื่องของความเสถียร มีผู้ใช้หลายคนตำหนิถึงความเชื่องช้าของแอปพลิเคชั่นบางตัวที่ยังอยู่ในช่วง Preview รวมถึงความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ และแอปพลิเคชั่นบางตัวที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ คงต้องรอ Windows 8 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปอีกสักระยะครับ แล้วเราคงจะได้รู้กันว่า Windows 8จะเป็น Windows 8 หรือจะเป็น Windows Vista 2 กันแน่...